ธุรกิจที่น่าทำมากเกินไป คือ ธุรกิจที่ไม่น่าทำ อ่านไม่ผิดหรอก อะไรที่น่าทำมากเกินไปมักไม่น่าทำในระยะยาว ดังนั้น จงอย่าทำธุรกิจที่น่าทำมากเกินไป เหตุผลง่ายๆ คือธุรกิจที่มีคนอยากทำมากเกินไปมักมีผู้เล่นหน้าใหม่อยู่เสมอ แข่งขันเท่าไหร่ก็ไม่จบสิ้น ทั้งรายเล็กรายใหญ่ต่างเข้ามากันไม่หยุด
ความน่ากลัวที่สุดคือธุรกิจที่ทำแล้วมีความสุขอาจก่อให้เกิดผู้ประกอบการแบบไม่สนผลกำไรเท่าไหร่นัก เช่น เอาแค่พออยู่รอด เอาแค่พอมีเงินสดหมุน เอาแค่พอแค่ได้ทำ เพราะทำแล้วมีความสุข ไม่ต้องร่ำรวยก็ได้ ขอแค่ได้ทำก็พอ
ยกตัวอย่างอย่าง… ร้านกาแฟ
ร้านกาแฟน่าจะเรียกได้ว่าเป็นธุรกิจในฝันของคนหลายคนในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ร้านกาแฟมากหน้าหลายตาเกิดขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน หลายคนมีความฝัน หลายคนลาออกไปทำร้านกาแฟ ฝันที่จะอยู่ในที่ทำงานบรรยากาศชั้นยอด นี่มันธุรกิจชั้นเยี่ยมไปเลย
แต่กาลเวลาก็พิสูจน์แล้วว่ามีผู้เหลือรอดไม่มากนัก
สังเกตได้จากร้านกาแฟที่เปลี่ยนหน้ากันไปอย่างแทบจะจำหน้าตาแบรนด์ไม่ได้ คู่เล่นรายเก่าก็ต้องป้องกันคูเมืองกันสุดฤทธิ์ เพราะผู้แข่งมากมายเหลือเกิน จนหลังๆ ความฝันที่จะเปิดธุรกิจกาแฟก็ค่อยๆ เงียบหายลงไปมากทีเดียว
ยุคต่อมาคงเป็นยุคของ Community Mall
ช่วงประมาณไม่กี่ปีนี้รวมไปถึงตอนนี้ Community Mall ถือเป็นอะไรที่ยอดนิยมมาก ตัวเลือกใหม่สำหรับคนที่ไม่ชอบมาเดินห้าง กิจกรรมครบครัน ขาดก็คงแค่โรงหนังเท่านั้น
แต่ดูเหมือนยุคเฟื่องฟูก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน จุดสำคัญเพราะคนไปเดินจะเลือกเดินจากร้านค้าเป็นหลัก ถึงแม้ว่าตัว Mall เองจะมีชื่อเสียงอยู่บ้าง แต่ถ้าร้านที่ไปเปิดไม่น่าสนใจ มันก็เป็นการยากที่คนจะไป เพราะไปแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทำอยู่ดี ต่างจากห้างใหญ่ที่จะมีร้านค้าซึ่งเป็นพันธมิตรไว้คอยดึงดูดคนมาเดินอยู่แล้ว
กลายเป็นว่าเมื่อไหร่ที่ Mall คนเริ่มน้อย ร้านค้าเริ่มขาดทุน ร้านค้าก็จะปิดตัวและหนีไปหาทำเลใหม่ พอร้านค้าน้อย คนเดินก็น้อยตาม วนไปเป็นวงจรแบบนี้ไม่จบไม่สิ้น
ลูกค้ามีทางเลือกมากเกินไป เพราะสถานที่แบบนี้เดี๋ยวนี้มีให้เลือกมากเหลือเกิน ยิ่งธุรกิจอาหารเองเป็นธุรกิจที่ลูกค้ามีความจงรักภักดีต่ำและพร้อมจะหนีไปลองของใหม่เสมอ ทำให้ Mall ที่ไม่ได้มีร้านที่เป็นจุดเด่นจริงตกที่นั่งลำบาก
ยิ่งช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี ยิ่งลำบากไปอีก
เพราะคนออกมากินข้าวนอกบ้านน้อยลง ร้านอาหารเดี๋ยวนี้มื้อนึงกินให้อิ่มไม่ต่ำกว่าสามร้อย คนบางส่วนก็หนีไปทำกับข้าวกินเอง เพื่อความประหยัดในยุคที่เศรษฐกิจก็ดูไม่ค่อยจะแน่นอน
Community Mall หลายแห่งกำลังตกที่นั่งลำบาก
หากสังเกตและติดตามให้ดีจะพบว่าหลายที่นั้นจำนวนคนเดินลดต่ำลงอย่างมาก ร้านรวงก็ทยอยปิดกันไปเยอะ บางแห่งถึงกับมีพื้นที่ว่างซึ่งถือเป็นสัญญาณที่น่ากลัวมากสำหรับอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า เพราะปรกติอสังหาแบบนี้จะมีคนต่อคิวรอเข้าตลอด การที่ถึงกับมีล็อคว่างแบบนี้อาจจะหมายถึงการสิ้นสุดของยุคทองของทำเลนั้นอย่างแท้จริง
ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะธุรกิจนี้ “น่าทำ” มากเกินไป
นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายย่อยหลายเจ้าหันมาทำธุรกิจแนวนี้แทนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ส่วนหนึ่งก็หวังว่ารายได้จะสม่ำเสมอต่อเนื่องในระยะยาว ยิ่งซื้อแฟรนไชส์มาเปิดในพื้นที่ของตัวเองด้วย ธุรกิจก็ยิ่งน่าสนุกเข้าไปใหญ่
สุดท้ายแล้วกาลเวลาจะบอกเองว่าใครจะอยู่และใครจะได้ไปต่อ
ตัวเราเองในฐานะนักลงทุนหรือคนที่จะทำธุรกิจเองต้องคำนึงอยู่เสมอว่าอะไรเป็นสิ่งที่คู่แข่งสามารถเลียนแบบได้ยาก อะไรคือสิ่งที่ทำให้เราอยู่เหนือคู่แข่งในเกมการแข่งขันระยะยาว
หลีกเลี่ยงธุรกิจที่ “น่าทำ” มากเกินไป เพราะธุรกิจแบบนี้เหมือนดอกไม้กลิ่นหอมที่เรียกแมลงให้เข้ามาตอมไม่หมดไม่สิ้น หลายครั้งสงครามมีผู้ชนะ แต่หลายครั้งสงครามก็ทำให้ผู้เข้าร่วมนั้นแพ้ได้ทุกคน
หลีกเลี่ยงธุรกิจที่ “น่าทำ” มากเกินไป ถ้าไม่มั่นใจว่าเรามีอะไรที่อยู่ “เหนือ” คู่แข่งมากจริงๆ
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE
พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์