House Brand (สินค้าตราห้าง) คือ สินค้าที่ใช้ตราสินค้าของร้านค้าเอง โดยทั่วไปหมายถึง ร้านค้าปลีกที่จ้างให้ผู้ผลิตผลิตสินค้าในแบรนด์ของร้านค้าปลีกให้ โดยทั่วไปสินค้าเฮาส์แบรนด์จะมีราคาต่ำกว่าสินค้ามียี่ห้อ หรือ National Brand
ทำไมเฮาส์แบรนด์ถึงราคาถูก
เฮาส์แบรนด์ มักจะมีราคาถูกกว่าสินค้าที่มียี่ห้อทั่วไป เหตุผลหลัก คือ สินค้าเฮาส์แบรนด์ ไม่มีค่าโฆษณา ไม่มีค่าใช้จ่ายในการสร้างแบรนด์มากมายเหมือนสินค้ามียี่ห้ออื่น
ส่วนมากจะเน้นซื้อมาแล้วตั้งขายเลย หรือไม่ก็ทำการตลาดสร้างแบรนด์ไม่มาก เน้นแต่ในร้านค้าตนเอง หรือโฆษณาพ่วงไปกับร้านค้า ทำให้สินค้าเฮาส์แบรนด์จึงมีราคาถูกกว่าสินค้ามียี่ห้ออื่น ถึงแม้ว่าจะเป็นสินค้าที่เหมือนกันทุกประการ
ทำไมร้านค้าปลีกต้องทำเฮาส์แบรนด์
เหตุผลสำคัญที่ร้านค้าปลีกต้องทำแบรนด์ของตนเอง คือ การเพิ่มอัตราการทำกำไร โดยปรกติ ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่มักจะมีอัตราการทำกำไรสุทธิค่อนข้างต่ำ เช่น MAKRO มี NPM 3% , CPALL มี NPM 4% , TNP มี NPM 3%
การจะเพิ่มอัตราการทำกำไรได้ คือ การขายสินค้าแบรนด์ตนเอง เพราะร้านค้าปลีกจะได้กินกำไรเหมือนเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้ขายในเวลาเดียวกัน กลยุทธ์การทำเฮาส์แบรนด์ถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญมากสำหรับร้านค้าปลีก
หากไปฟังผู้บริหารร้านค้าปลีกพูดกลยุทธ์ก็จะเจอประเด็นนี้เป็นเรื่องปรกติ ไม่ว่าจะเป็น Makro , Robinson , HomePro หรือห้างไหนๆ ก็ตาม
ทำไมผู้ผลิตต้องยอมรับจ้างทำเฮาส์แบรนด์
ทำไมผู้ผลิตต้องยอมผลิตเฮาส์แบรนด์ด้วย ในเมื่อรู้ว่าเมื่อผลิตไป ลูกค้าของตน (นั่นก็คือร้านค้าปลีก) ก็ต้องมาขายตัดราคาตนเองอยู่แล้ว
คำตอบ คือ ผู้ผลิตเองก็จำเป็นต้องรักษาสายสัมพันธ์อันดีกับร้านค้าปลีกไว้ด้วย ถ้าต่อต้านร้านค้าปลีกมาก ผู้ผลิตก็กังวลว่าอาจจะได้รับผลกระทบกับการวางขายสินค้าของตนในอนาคต ลองคิดง่ายๆ ว่าถ้ามีผู้ผลิตสินค้า 2 เจ้ามาเสนอขายสินค้าเข้าร้าน ระหว่างผู้ผลิตที่ยอมทำเฮาส์แบรนด์ กับผู้ผลิตที่ไม่ยอมทำเฮาส์แบรนด์ ร้านค้าปลีกจะเลือกเอาสินค้าใครเก็บไว้
อย่าลืมว่าบางครั้งก็ไม่ใช่ประเด็นที่ร้านค้าปลีกตั้งใจคัดออก แต่ชั้นวางของนั้นมีพื้นที่จำกัดอยู่แล้ว ผู้ผลิตย่อมแข่งขันกันเองตามธรรมชาติ
อีกสิ่งสำคัญ คือ หากเราไม่รับผลิต เดี๋ยวเจ้าอื่นก็รับผลิตอยู่ดี ผู้ผลิตจำนวนมากจึงยอมผลิตให้เพื่อเอากำไรนิดหน่อย แล้วนำงบไปสร้างแบรนด์เพื่อแข่งกับเฮาส์แบรนด์จะดูปลอดภัยกว่า
การทำเฮาส์แบรนด์ถือเป็นเรื่องปรกติของซัพพลายเชนในการขายสินค้ามาก
ร้านค้าปลีกอยากได้กำไรมากขึ้น ส่วนผู้ผลิตก็ต้องการรักษาสายสัมพันธ์กับร้านค้าปลีกไว้ ผู้ผลิตจึงจำเป็นต้องแบ่งกำไรส่วนหนึ่ง ในกลุ่มผู้บริโภคที่เน้นสินค้าราคาถูกมากให้กับร้านค้าปลีกไป โดยตนเองก็ยังคงกำไรไว้ได้ส่วนหนึ่ง ซึ่งโดยภาพรวมแล้วทุกคนก็ได้ประโยชน์ ทั้งร้านค้าปลีก ผู้ผลิต และผู้บริโภคเอง
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE
พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :