ฝันร้ายของหุ้น SPA | ลงทุนศาสตร์ Investerest.co

ฝันร้ายของหุ้น SPA

SPA หรือบริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) คือ บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับนวดแผนไทย สปา และศูนย์ยืดเหยียดกล้ามเนื้อที่ครบวงจรที่สุดในตลาดหุ้นไทย หากจะเรียกได้ว่าเป็นหุ้นที่ทำสปาที่โดดเด่นที่สุดก็คงไม่ผิดนัก แต่ปัจจุบันหุ้น SPA กลับกำลังเจอฝันร้ายเพราะ COVID – 19 ระลอก 2 ที่กำลังพัดผ่านเข้ามา

อดีตหุ้นเติบโตในตำนาน

หุ้น SPA เคยได้รับความนิยมอย่างมากในแง่ของการเป็นหุ้นเติบโต ราคาหุ้นเคยถูกเทรดกันที่ PE มากกว่า 50 เท่ายาวนาน ภาพการเติบโตของรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่องถูกใจนักลงทุนเป็นอย่างมาก แถมตลาดที่บริษัทกำลังเล่นอยู่ก็มีขนาดใหญ่ รวมไปถึงมีศักยภาพในการขยายไปต่างประเทศอีกด้วย

ได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก COVID – 19 ระลอกแรก

หุ้น SPA มีกลุ่มลูกค้าหลักคือชาวเอเชียตะวันออก เมื่อปิดน่านฟ้าเพราะโรคระบาด กลุ่มนักท่องเที่ยวก็ลดน้อยลงมาก ผู้ใช้บริการก็ลดน้อยลงมากเช่นกัน ทำให้ปี 2020 งวด 9 เดือนแรก บริษัทขาดทุนไปกว่า 131 ล้านบาท ในขณะที่ปีก่อนหน้าทำกำไรไว้ได้สูงสุดในประวัติการณ์ที่ 245 ล้านบาท เรียกได้ว่าหนักหนาสาหัสมากทีเดียว

และระลอก 2 ก็กลับมาซ้ำ

บริษัทได้รับผลกระทบโดนตรงจากการสั่งปิดสถานประกอบการที่มีลักษณะเป็นสปาหรือนวดแผนไทย ภายในเขตกรุงเทพฯ และพัทยา โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2021 เป็นต้นไปโดยกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ผลจากคำสั่งดั่งกล่าวทำให้บริษัทต้องปิดสถานประกอบการจำนวน 36 สาขาในกรุงเทพฯ และ 4 สาขาในเมืองพัทยา รวมเป็นทั้งสิ้น 40 สาขาที่กำลังหยุดให้บริการ จากข้อมูลล่าสุด ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2020 บริษัทมีสาขาที่ให้บริการดังนี้

Rarinjinda Wellness Spa 3 สาขา
Let’s Relax Spa 41 สาขา (ประเทศไทย) 5 สาขา (ต่างประเทศ)
BaanSuan Massage 10 สาขา
Stretch Me 5 สาขา
Face Care 1 สาขา
รวม 65 สาขา

โดยการปิดสาขา 40 สาขาจาก 65 สาขา ถือว่ามีผลกระทบมาก โดยเฉพาะสาขาในกรุงเทพฯ ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจของรายได้ของกิจการ ในขณะที่สาขาอื่นที่ยังสามารถเปิดให้บริการได้ ก็ยังมีผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปีที่แล้ว

ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของหุ้น SPA

จากภาพเดิมที่ล็อคดาวน์แบบมีระยะเวลา หรือนักท่องเที่ยวหายไป บริษัทก็อาจจะยังปรับตัวแก้ไขได้ แต่ประกาศล่าสุดที่ไม่ลงเวลาสิ้นสุด แถมการปิดสถานประกอบการบางประเภทยังอาจจะเฉพาะกลุ่มและยาวนานกว่าการล็อคดาวน์ในวงกว้างอย่างรอบแรก ไม่รู้ว่าผลกระทบนี้จะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน แต่ที่พอจะคาดเดาได้ คือ ผลประกอบการไตรมาสนี้ของบริษัทย่อมต้องได้รับผลกระทบแน่นอน