ZOOM หุ้นตกทั้งที่รายได้โต 367%
ในปีที่ผ่านมา สุดยอดหุ้นที่มีราคาขึ้นแรงทั้งที่ตลาดหุ้นทั่วโลกตกต่ำ หนึ่งในนั้นก็คือหุ้น ZM หรือบริษัท ZOOM ที่ทำโปรแกรมคุยผ่านวิดีโอให้คนได้ใช้กันทั่วโลก
อันที่จริง หุ้นของบริษัท ZOOM จดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นมาตั้งแต่ปี 2019 แต่ราคาเพิ่งจะพุ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากวิกฤต COVID-19 ที่ทำให้แทบทุกภาคส่วนของประเทศต้องหยุดชะงัก การประชุมหรือคุยงานกันผ่านวิดีโอจึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
และยิ่งคนใช้บริการของ ZOOM มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นผลดีต่องบการเงินของบริษัทและราคาหุ้นมากเท่านั้น ในปี 2020 ราคาหุ้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 70 เหรียญ ไปสู่จุดสูงสุดที่เกือบ 600 เหรียญ
ทว่าตอนนี้ ราคาหุ้น ZOOM กลับร่วงลงมาแล้วกว่า 40% นับจากจุดสูงสุด
เกิดอะไรกับหุ้นซึ่งครั้งหนึ่งใครก็มองว่านี่คือโอกาสแห่งอนาคต
สำหรับไตรมาส 3 ที่ผ่านมา บริษัทเพิ่งประกาศรายได้ที่เพิ่มขึ้นกว่า 367% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีรายได้กว่า 777 ล้านเหรียญ พร้อมกับจำนวนผู้ใช้ต่อวันกว่า 300 ล้านครั้ง
หากเป็นหุ้นของบริษัทอื่น การที่รายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดพร้อมด้วยลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ราคาหุ้นในตลาดอาจมีสิทธิพุ่งทะลุฟ้าได้ ยิ่งเป็นตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาด้วยแล้ว ราคาหุ้นอาจพุ่งเกิน 100% ได้ในวันเดียว เนื่องจากไม่มีข้อจำกัดเรื่องราคาขึ้นหรือลงมากที่สุดในแต่ละวัน
แต่สำหรับ ZOOM ราคาหุ้นกลับร่วงลงทันที 15% หลังจากที่งบถูกประกาศออกมา และนับจากจุดสูงสุดที่เกือบ 600 เหรียญต่อหุ้น ราคาก็ได้ร่วงมากว่า 40% แล้ว
หนึ่งในเหตุผลสำคัญก็คือ ทางบริษัทคาดว่ารายได้ในไตรมาส 4 ของปี 2020 จะเติบโต “เพียงแค่” 329%
จากรายได้ทั้งหมดของบริษัท กว่า 62% เป็นรายได้ที่มาจากกลุ่มธุรกิจหรือองค์กรที่มีพนักงานมากกว่า 10 คนขึ้นไป ส่วนรายได้ที่เหลือมาจากภาคธุรกิจที่มีคนในทีมน้อยกว่านั้น
การที่ทางบริษัทออกมาบอกว่ารายได้ในไตรมาส 4 จะโตขึ้น 329% แม้จะเป็นการเติบโตที่สูงจนน่าประทับใจ แต่ก็ดูเหมือนจะประทับใจไม่มากพอสำหรับบรรดานักลงทุน
เพราะต้องไม่ลืมว่า หนึ่งสิ่งที่นักลงทุนให้ความสำคัญไม่แพ้ผลประกอบการที่เกิดขึ้นมาแล้ว คือความคาดหวัง ความคาดหวังว่ารายได้จะต้องโตมากกว่านี้
นอกจากนั้น หากดูจากจำนวนผู้ใช้ที่มีคนในองค์กรมากกว่า 10 คนขึ้นไป (ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้กว่า 62%) ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ZOOM มีลูกค้ากลุ่มนี้อยู่ที่ 433,700 แห่ง เมื่อเทียบกับปีก่อน จะคิดเป็นการเติบโตที่สูงถึง 485%
แต่ถ้าเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จะพบว่าอัตราการเติบโตของลูกค้ากลุ่มใหญ่ซึ่งทำเงินให้กับบริษัท กำลังอยู่ในอัตราที่ลดลง จากไตรมาส 1 มาไตรมาส 2 จำนวนลูกค้าที่มีคนในทีมเกิน 10 คนเติบโตขึ้นประมาณ 40% แต่พอไตรมาส 2 มาไตรมาส 3 การเติบโตนี้ลดลงเหลือไม่ถึง 20%
นอกจากนั้น ไม่ได้มีแต่ ZOOM เพียงบริษัทเดียวที่พัฒนาโปรแกรมวิดีโอคอลอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เพราะในช่วงที่เกิด COVID-19 ก็มีผู้เล่นรายใหม่และ “รายใหญ่” กระโดดเข้ามาในตลาดนี้ด้วย
อย่างเช่น Google Meet ที่มีคนใช้งานกว่าวันละ 100 ล้านครั้ง และล่าสุดก็มี Microsoft Teams ที่มีคนใช้งานกว่า 115 ล้านครั้ง นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก ตลาดไหนที่ทำเงินได้ ย่อมมีคู่แข่งเข้ามาตามปกติของวิสัยแบบทุนนิยม
แต่จากปัจจัยทั้งหมดนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเช่นกันที่นักลงทุนจะให้ราคากับธุรกิจของ ZOOM น้อยลงกว่าเดิม จนเป็นผลให้ราคาหุ้นซึมลงช้า ๆ มาจนถึงปัจจุบัน
แม้กำไรจะเติบโตได้ แต่ถ้ามันไม่เป็นไปตามความคาดหวัง ตลาดก็พร้อมจะทำร้ายสุดยอดหุ้นได้อย่างไม่ปราณี
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE
พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์
อ้างอิงข้อมูล:
Analysts optimistic about Zoom’s post-COVID-19 future despite recent stock drop : https://www.spglobal.com/marketintelligence/en/news-insights/latest-news-headlines/analysts-optimistic-about-zoom-s-post-covid-19-future-despite-recent-stock-drop-61534232
The pandemic was great for Zoom. What happens when there’s a vaccine? : https://www.vox.com/recode/21726260/zoom-microsoft-teams-video-conferencing-post-pandemic-coronavirus
Watch out Zoom: Microsoft Teams now has more than 115 million daily users : https://www.techrepublic.com/article/watch-out-zoom-microsoft-teams-now-has-more-than-115-million-daily-users/
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :