ถือหุ้นยาวแค่ไหน ถึงจะดี | ลงทุนศาสตร์ Investerest.co

ถือหุ้นยาวแค่ไหน ถึงจะดี

หลายคนคงเคยได้ยินว่า การถือหุ้นยาวนี่มันสุดยอดไปเลย การถือหุ้นยาวจะสร้างผลตอบแทนอย่างยอดเยี่ยม การถือหุ้นยาวเป็นทางเลือกที่ดีเสมอสำหรับนักลงทุน หนังสือหลายเล่มบอกแบบนั้น อาจารย์หลายคนบอกแบบนั้น แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอก คือ นั่นไม่ใช่เรื่องจริง (เสมอไป)

การถือหุ้นยาวจะดีก็ต่อเมื่อถูกที่ถูกเวลา

หุ้นเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนยอดเยี่ยมในระยะยาว แต่นั่นอยู่ในเงื่อนไขที่ว่า หุ้นนั้นจะต้องเป็นหุ้นที่ดี และซื้อมาที่ราคาที่เหมาะสมด้วย การหลับหูหลับตาถือหุ้นยาวไม่ใช่คำตอบ และก็ไม่เคยเป็นคำตอบด้วย รู้หรือไม่ว่า ช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง หุ้นบางตัวมีราคามากกว่า 200 บาท ปัจจุบันเหลือราคาเพียงหลักหน่วยเท่านั้น ขนาดผ่านมา 20 กว่าปี ราคาหุ้นก็ไม่เคยกลับไปที่เดิม แถมหุ้นบางตัว ยังล้มละลายและไม่เคยกลับมาอีกเลยด้วยซ้ำ

ทุกธุรกิจมีอายุขัยของตนเอง

หากใครเคยศึกษาเรื่อง Business Life Cycle จะทราบว่าทุกธุรกิจมีอายุขัยของตนเอง ธุรกิจจะเติบโตจากตั้งไข่ (Startup) เติบโต (Growth) อิ่มตัว (Mature) และถดถอย (Decline) หุ้นบางตัว ธุรกิจบางที่อาจจะดีหน่อยที่สามารถหาการเติบโตครั้งใหม่ก่อนที่ธุรกิจจะถดถอยได้ แต่นั่นก็ไม่ใช่สำหรับทุกธุรกิจ หลายธุรกิจก็ตายไปกับเวลา เราก็ได้เห็นกันมากมายว่าธุรกิจที่เคยยิ่งใหญ่มาก ๆ ในอดีต ทุกวันนี้ล้มหายไปก็มาก ขายก่อนจะ Decline นั่นอาจจะเป็นทางเลือกที่ดี

แต่ Decline ยาวนานไม่เท่ากัน

บางธุรกิจมีอายุขัยสั้น เกิดไวตายไว อาจมีชีวิตอยู่แค่หลักเดือน แต่ธุรกิจบางประเภทก็แข็งแกร่งตายช้า Mature มามากกว่า 100 ปี แต่ก็ยังไม่เข้าช่วงถดถอย ดังนั้น สิ่งที่นักลงทุนต้องนึกเสมอ คือ ทุกธุรกิจมีเวลาของตัวเองเสมอ เมื่อพิสูจน์ชัดแล้วว่า หุ้นมีแนวโน้มจะแย่ลงในอนาคต เราก็จำเป็นต้องเอ่ยอำลา การซื่อสัตย์และรักเดียวใจเดียวกับหุ้นประเภทชั่วฟ้าดินสลาย อาจจะไม่ให้ผลตอบแทนมากนัก หรือหลายครั้ง ก็อาจจะทำให้เราหมดตัวได้เช่นกัน

ถึงเวลาขายก็ต้องขาย

ตั้งเป้าให้แม่นว่าเราจะขายหุ้นเมื่อไหร่ คิดเสียตั้งแต่ก่อนซื้อ ลดความรัก ความลุ่มหลง ความอยากจะถือยาวลงจากหุ้นบ้าง หุ้นบางหุ้นมีเวลาจำกัด แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าห้ามถือหุ้นยาว สุดท้ายแล้วสภาพธุรกิจจะเป็นคำตอบ บางหุ้นอาจจะเหมาะกับการถือยาวเป็น 10 หรือ 20 ปีก็ได้ แต่ในทางตรงกันข้าม สำหรับหุ้นบางตัวแล้ว แม้แต่วินาทีเดียวก็ไม่อาจจะเรียกได้ว่าสมควร