GRAND และ Expert Authority ผิดพลาดเพราะเชื่อกูรู

GRAND หรือ บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) คือ บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ โดยแบ่งธุรกิจออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ คือ ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อจำหน่าย

หุ้นแกรนด์ ไม่เคยอยู่ในรายชื่อหุ้นที่ผมติดตามเลยตั้งแต่ต้น เนื่องจากเป็นคนไม่ถนัดหุ้นอสังหาริมทรัพย์มาแต่ไหนแต่ไร จึงทำให้โดยส่วนตัวแทบไม่เคยรู้จักหุ้นนี้มาก่อนเลย

ผมรู้จักหุ้นแกรนด์ เพราะกลุ่มเฟสกลุ่มหนึ่ง ตอนนั้นราคาหุ้นแกรนด์ขึ้นมาจากราคาไม่กี่สตางค์วิ่งมาจนถึง 2 บาทกว่าได้ เรียกได้ว่าเป็น ” หุ้นสิบเด้ง ” เลยก็ว่าได้ทีเดียว

กลุ่มเฟสกลุ่มหนึ่งที่จะมีคนที่เป็นเหมือนอาจารย์ประจำกลุ่มก็จะคอยโพสเชียร์หุ้นนี้ทุกวัน ผมเห็นราคาหุ้นตัวนี้วิ่งมาตลอดวันแล้ววันเล่า เห็นตั้งแต่บาทต้น ๆ วิ่งทุกวันไปจนถึง 2 บาทกว่า ใคร ๆ ในห้องก็ต่างมาสรรเสริญยินดีกัน เพราะทุกคนต่างรวยกันถ้วนหน้า

แม้แต่เพื่อนของผมที่ไม่เคยคุยกันเรื่องหุ้นมาก่อน ยังทักมาว่าซื้อหรือยัง เขาซื้อเล่นรอบกำไรมากไปหลายทีแล้ว อาจารย์คนนี้เก่งจริง เชื่อไปเถอะ ตอนนั้นผมเล่นหุ้นมาไม่ถึง 3 เดือนเลยด้วยซ้ำ ทนแรงรบเร้าไม่ไหวจึงเคาะซื้อไปกับเขาด้วยคนแถว 2.5 บาท ตามที่อาจารย์คนนักย้ำนักย้ำหนาว่าจะไป 3 บาทแน่นอน

ผมเชื่อกูรูหุ้นมากเกินไป นี่คือปัญหาของครั้งนี้ แถมมันเป็นการเชื่อที่ปราศจากสติ และวิจารณญาณถึงที่สุด

ผมเคาะซื้อไปแม้กระทั่งยังไม่ได้อ่านแบบ 56-1 เลยด้วยซ้ำ ตอนนั้นผมอ่อนต่อโลกตลาดทุนค่อนข้างมาก คิดว่าทุกคนต่างหวังดีกับเรา และคงไม่หลอกเราหรอก เพราะเขาเองก็มีชื่อเสียงที่ต้องใส่ใจ สิ่งเหล่านี้เรียกว่า Expert Authority Bias หรือการให้น้ำหนักหรือเชื่อถือผู้เชี่ยวชาญจนมากเกินไป แน่นอนว่าผู้เชี่ยวชาญก็คนธรรมดา ผิดพลาดได้เหมือนคนทั่วไป

ราคาบวกให้ชื่นใจอยู่ได้วันเดียว หลังจากนั้นก็ไหลลงทุกวันอย่างไม่มีความหวัง

ผมนั่งมองเงินผมหายไปทีละน้อย ๆ จนสุดท้ายก็ต้องยอมรับความจริงว่าเราโง่เองที่ไปลงทุนแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ผมขายหุ้นไปแถว 2 บาท หรือคิดเป็นขาดทุนประมาณ 20%

หลังจากนั้นอาจารย์ในห้องนั้นก็ไม่พูดถึงหุ้นตัวนี้อีกเลย และเริ่มต้นไปเชียร์หุ้นตัวใหม่ คนในห้องก็เฮโลไปตามเคาะซื้อหุ้นตัวใหม่ ส่วนผมก็กดออกจากกลุ่มมาอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้มาอย่างมากมายในการขาดทุนในครั้งนี้

ขีดเส้นใต้ว่าบทความนี้เขียนขึ้นเพื่อบอกเล่าประสบการณ์ความผิดพลาดในการลงทุนเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาตัดสินว่าหุ้นหรือบริษัทดีหรือไม่ดี การลงทุนของแต่ละคนแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับบริบทแวดล้อมขณะนั้นมาก ต่างกรรมต่างวาระ ผลลัพธ์ก็แตกต่างออกไปมาก