Motivation for work มุ่งมั่นต่อไปในงานที่เรา (ไม่) รัก
แรงจูงใจในการทำงาน เป็นส่วนสำคัญในการบรรลุความสำเร็จ และความสมหวังส่วนบุคคล แหล่งที่มาของแรงจูงใจที่ทรงพลังที่สุดประการหนึ่ง คือการหางานที่เรารักอย่างแท้จริง เมื่อมีความหลงใหลในงานที่ทำ การมีแรงจูงใจประกอบกับความทุ่มเท การก้าวไปให้ไกลยิ่งขึ้น ก็จะง่ายขึ้นมาก หากแต่หลายคนกลับพบว่า ตัวเองกำลังว่ายเวียนหลงวนอยู่ในกับงานที่ไม่ได้รัก ไม่ว่าจะเนื่องมาจากข้อจำกัดทางการเงิน โอกาสที่จำกัด หรือเพียงความต้องการหาเลี้ยงชีพและครอบครัว บางครั้งเราก็ต้องหางานที่ไม่สอดคล้องกับความหลงใหลและความสนใจของเรา อย่างไรก็ตาม แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ ยังคงสามารถค้นหาแรงจูงใจและความสำเร็จในงานของเราได้
วิธีหนึ่งในการค้นหาแรงจูงใจในงานที่ไม่ชอบคือการมุ่งความสนใจไปที่ภาพรวม เตือนตัวเองถึงจุดประสงค์เบื้องหลังงาน และผลลัพธ์ดี ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นตามมา ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการลูกค้า การให้บริการที่จำเป็น หรือช่วยเหลือผู้อื่นในทางใดทางหนึ่ง การทำความเข้าใจถึงผลกระทบของงานสามารถทำให้เรารู้สึกถึงวัตถุประสงค์และแรงจูงใจ การเปลี่ยนมุมมองจากการมุ่งความสนใจไปที่งานที่ทำอยู่เพียงอย่างเดียว ไปสู่ผลลัพธ์เชิงบวกที่งานของเราสามารถทำได้ทำให้เราสามารถค้นพบแรงจูงใจใหม่ที่ดีที่สุดในแต่ละวัน
อีกปัจจัยสำคัญในการหาแรงจูงใจในงานที่เราไม่ได้รัก คือการกำหนดเป้าหมายส่วนตัว และค้นหาวิธีที่จะเติบโตอย่างมืออาชีพ แม้ว่างานปัจจุบันจะไม่ใช่งานในฝันของตนเอง แต่เราก็ยังสามารถใช้เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาอาชีพ หรือได้รับทักษะและประสบการณ์ที่มีคุณค่า ด้วยการตั้งเป้าหมายสำหรับตัวเอง และการทำงานไปสู่เป้าหมาย เราสามารถสร้างความรู้สึกถึงความก้าวหน้าและความสำเร็จได้ สิ่งนี้สามารถช่วยให้เรามีแรงบันดาลใจและมีสมาธิ โดยรู้ว่างานปัจจุบันของเรา เป็นก้าวสำคัญไปสู่สิ่งที่ดีกว่าในอนาคต
การหาวิธีทำให้งานของเราสนุกสนาน และเติมเต็มยิ่งขึ้นเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เราสามารถทำได้โดยแสวงหาโอกาสในการเติบโต ภายในบทบาทปัจจุบันของเรา เช่น การรับผิดชอบหรือโครงการใหม่ ๆ ด้วยการท้าทายตัวเอง และการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ เราจะทำให้งานของเราน่าสนใจและน่าพึงพอใจมากขึ้น นอกจากนี้ การสร้างความสัมพันธ์เชิงบวกกับเพื่อนร่วมงาน และการค้นหาระบบสนับสนุนภายในสถานที่ทำงานของเรา สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในระดับแรงจูงใจเลยทีเดียว การทำงานร่วมกับผู้อื่น แบ่งปันแนวคิด และเฉลิมฉลองความสำเร็จร่วมกันสามารถสร้างความรู้สึกถึงความสนิทสนมกัน และทำให้สภาพแวดล้อมการทำงานสนุกสนานยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ การค้นหาตนเองที่นอกเหนือจากงาน ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาแรงจูงใจในงานที่เราไม่ได้รัก การทำงานอดิเรก การแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว และการใช้เวลาอันมีค่ากับคนที่คุณรักสามารถให้ความรู้สึกเติมเต็มและความสมดุลในชีวิตของเรา ด้วยการหล่อเลี้ยงและหาความสุขให้กับชีวิตส่วนตัว เราสามารถสร้างความรู้สึกเป็นสุขและความพึงพอใจ ที่สามารถส่งผลเชิงบวกต่อความคิดทุกครั้งเมื่อพูดถึงงานที่เราทำ
ท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าการค้นหาแรงจูงใจในงานที่เราไม่ชอบทำนั้น อาจไม่ใช่เรื่องง่าย การมองงานในมุมกว้าง การตั้งเป้าหมาย การหาวิธีทำให้งานของเราสนุกสนานยิ่งขึ้น ประกอบกับการดูแลชีวิตส่วนตัว เราจะสามารถพบกับความสมหวังและแรงจูงใจได้ แม้ต้องทนอยู่ในสถานการณ์การทำงานที่ไม่เหมาะ จงระลึกไว้เสมอว่า ไม่มีอะไรยืนยาวถาวร จากงานที่รักอาจกลายเป็นเกลียด และงานปัจจุบันก็ไม่ได้กำหนดความเป็นตัวเรา ตราบใดที่เรายังคงมุ่งมั่นเพื่อการเติบโต และไล่ตามความปรารถนาของเราที่นอกเหนือจากงานบนโต๊ะ เราก็จะพบกับความสุขและความสำเร็จในทุกด้านของชีวิตได้
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , และ WEBSITE
อ้างอิง
https://hbr.org/2018/11/how-to-keep-working-when-youre-just-not-feeling-it
https://www.betterup.com/blog/work-motivation-the-value-behind-the-task
https://yourtimetogrow.com/3-ways-to-stay-motivated-in-a-job-you-hate/
https://www.classycareergirl.com/how-to-stay-motivated-when-you-hate-your-job/
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :