ธุรกิจ

ใครคือ… เจ้าของ PTT

เจ้าของ PTT

PTT หรือบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คือบริษัทด้านพลังงานของประเทศไทยที่ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานอย่างครบวงจรตั้งแต่ผลิตและสำรวจ แปรรูป ไปจนถึงค้าปลีกพลังงานจนถึงมือประชาชน แต่คำถามคือใครเป็น เจ้าของ PTT บริษัทที่เป็นเหมือนความมั่นคงของชาติเช่นนี้

 

ในปัจจุบัน ปตท ถือเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่ากิจการตามราคาตลาดสูงสุดในประเทศไทย โดย ณ สิ้นปี 2560 บริษัทมีมูลค่ารวม 1,256,771.84 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทอันดับ 2 ได้แก่ AOT หรือบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) มีมูลค่าของกิจการอยู่ที่ 971,427.60 ล้านบาท

 

เนื่องจากพลังงานถือเป็นความมั่นคงหนึ่งชาติ หลายครั้งคนไทยจึงตั้งคำถามว่าใครถือหุ้นปตท. อยู่บ้าง สัดส่วนดังกล่าวถือว่ามีความปลอดภัยในการดูแลความมั่นคงของชาติหรือไม่ ทำไมโครงสร้างราคาน้ำมันของไทยถึงแตกต่างจากชาติอื่น หรือทำไมราคาน้ำมันไทยแพงกว่ามาเลเซีย วันนี้ลงทุนศาสตร์จึงพาไปดูสัดส่วนผู้ถือหุ้นของปตท. กัน

 

ผู้ถือหุ้นใหญ่ PTT ที่มีสัดส่วนการถือครองมากกว่า 0.5% มีทั้งหมด 9 ผู้ถือหุ้นด้วยกัน

 

เจ้าของ PTT

รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ PTT

 

กระทรวงการคลัง คือผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 โดยถือหุ้นอยู่สูงถึง 10,000,000,000 หุ้น หรือเทียบเท่ากับ 51.11% ซึ่งถือว่ามีน้ำหนักเกินครึ่งหนึ่งของบริษัท นั่นหมายถึงปตท. ยังมีสภาพเป็นรัฐวิสาหกิจ คือรัฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และมีอำนาจควบคุมแทบจะเบ็ดเสร็จ ดังนั้น เรื่องของความมั่นคงของพลังงานชาติ จึงไม่ได้น่ากังวลอย่างมีนัยสำคัญนัก เพราะไม่ว่าอย่างไรอำนาจเกือบทั้งหมดของปตท. ก็มาจากรัฐอยู่ดี

 

นอกจากในแง่ของการควบคุมกิจการ สัดส่วนของความเป็นเจ้าของก็น่าสนใจ

 

เพราะนอกจากผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ที่เป็นกระทรวงการคลังแล้ว ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 และ 4 ก็คือกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง ซึ่งเป็นกองทุนปิดที่ก่อตั้งโดยรัฐเพื่อระดมทุนจากประชาชนในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจและส่งเสริมการออม โดยกองทุนรวมวายุภักษ์มีสัดส่วนการถือหุ้นใหญ่เป็นของกระทรวงการคลังอีกเช่นกัน โดยกระทรวงการคลังถือการลงทุนอยู่ในกองทุนรวมดังกล่าวในอัตราส่วน 30%

 

กระทรวงการคลังถือหุ้นปตท. โดยตรง 10,000,000,000 หุ้น

กระทรวงการคลังถือหุ้นปตท. โดยอ้อมผ่านกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง 105,899,460 หุ้น

รวมกระทรวงการคลังหุ้นปตท. 10,105,899,460 หุ้น หรือเทียบเท่ากับ 54.818% ของกิจการ

 

เปรียบเทียบการถือครอง PTT กับประชากรไทย

 

มูลค่ากิจการของปตท. ปี 2560 เท่ากับ 1,256,771.84 ล้านบาท

มูลค่ากิจการของปตท. ที่ถือโดยกระทรวงการคลัง ปี 2560 เท่ากับ 688,937.19 ล้านบาท

จำนวนประชากรไทย ปี 2560 เท่ากับ 66,188,503 คน

มูลค่ากิจการของปตท. ที่ถือโดยประชากรไทย 1 คน เท่ากับ 10,408.71 บาท หรือ 236.5 หุ้นโดยประมาณ

หรือเทียบเท่ากับว่าประชากรไทย 1 คนได้รับส่วนแบ่งกำไรจากปตท. ปีละ 1,105.61 บาทโดยประมาณ

 

นอกจากนี้ผู้ถือหุ้นอันดับ 7 คือ สำนักงานประกันสังคม ที่ถืออยู่ 34,707,200 หรือเทียบเท่า 1.22% ของกิจการ

 

โดยสำนักงานประกันสังคมก็คือองค์กรที่บริหารเงินสมทบของลูกจ้างและนายจ้างที่ส่งเงินประกันสังคมเข้ามา เพื่อนำผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนที่ได้ไปใช้ในการสร้างประโยชน์ให้กับลูกจ้างที่อยู่ในระบบ เช่น ระบบการรักษาพยาบาลที่สนับสนุนโดยประกันสังคม เงินสนับสนุนตอนคลอดบุตร เงินส่งเสียบุตร เงินชดเชยตอนตกงาน ไปจนถึงเงินบำเหน็จบำนาญไว้สำหรับใช้ตอนเกษียณ

 

เห็นได้ว่าเจ้าของหลักของ PTT คือคนไทยทุกคน

 

อำนาจการบริหารหลักเป็นของกระทรวงการคลัง ผลประโยชน์หลักที่ได้จากการถือครองหุ้นหลักก็ยังเป็นของกระทรวงการคลังเช่นกัน ดังนั้น การแบน บอยคอต หรือไม่เติมน้ำมันของปตท. สุดท้ายแล้ว ผู้ที่ได้รับผลกระทบสูงสุดก็คือพวกเราคนไทยทุกคนนั่นเอง

 

แต่ถ้าใครอยากทวงคืนหรือยึดเป็นเจ้าของก็สามารถไปซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้เลย ตลาดหุ้นเปิดพร้อมให้ซื้อขายอยู่ตลอดเวลา ใช้เงินแค่ 50 กว่าบาทก็ได้ร่วมเป็นบริษัทพลังงานอันดับหนึ่งของชาติแล้ว

 

อ่านเรื่องราวของ PTT เพิ่มเติม

1 ใครคือเจ้าของ PTT

2 PTT แตกพาร์แล้วจะเกิดอะไรขึ้น

3 PTT จะได้รับผลขนาดไหน ถ้าคนแบนเลิกเติมน้ำมั้นปั้มปตท

4 โครงสร้างราคาน้ำมัน

5 ทำไมราคาน้ำมันไทยถึงแพงกว่ามาเลเซีย

6 PTTOR ความหวังใหม่ของ PTT

7 PTTEP กับผลกระทบราคาน้ำมัน

8 รัฐบาลอินโดถอนฟ้อง PTTEP

9 โรงไฟฟ้า GPSC และกำไรที่มั่นคงของ PTT

10 ทำไมรัฐต้องนำหุ้น PTT เข้าตลาดหุ้น

 

ลงทุนศาสตร์ – Investerest

ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE

 

พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์

อัพเดทล่าสุดเมื่อ :

เกี่ยวกับผู้เขียน

ลงทุนศาสตร์

ผมเขียนบทความเกี่ยวกับการลงทุนตั้งแต่เบื้องต้น เหมาะสำหรับผู้ลงทุนหรือผู้ที่มีความสนใจที่จะลงทุนที่รักหรือมีทีท่าว่าจะรักในศาสตร์ของการลงทุนเหมือนกัน