ธุรกิจ

5 ประเทศยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์

5 ประเทศยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์

5 ประเทศยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์

 

ชิ้นส่วนขนาดเล็กที่เรียกว่า เซมิคอนดักเตอร์หรือชิป คือหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เกือบทุกชนิดและหลากหลายไม่ว่าจะเป็นในรถยนต์ สมาร์ตโฟน ไปจนถึงเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งถือได้ว่า “ชิป” เป็นนวัตกรรมที่ทำให้เกิดความก้าวหน้าทางปัญญาประดิษฐ์ในหลายวงการ ตั้งแต่ระบบการสื่อสาร การทหาร การขนส่ง รวมไปถึงการดูแลสุขภาพและอื่น ๆ

 

สำหรับเซมิคอนดักเตอร์นั้นมักทำมาจากซิลิกอนบริสุทธิ์ เจอร์เมเนียมหรือสารประกอบอย่างแกลเลียมอาร์เซไนด์ นอกจากนี้ยังมีการเติมสารอื่น ๆ อีกเล็กน้อยเข้าไปในองค์ประกอบเหล่านี้ ซึ่งจะมีผลต่อการนําไฟฟ้า ส่วนในกระบวนการผลิตจะมีการใช้ก๊าซหายากเช่นนีออนซึ่งส่วนใหญ่ต้องนําเข้าจากประเทศยูเครนและสหพันธรัฐรัสเซีย ด้วยความสำคัญของไมโครชิปบางคนถึงกับเรียกสิ่งนี้ว่าเป็น “น้ำมันใหม่ (new oil)” ของศตวรรษที่ 21 เลยทีเดียว

 

สำหรับตลาดของเซมิคอนดักเตอร์ พบว่ามียอดขายทั่วโลกสูงถึง 556 พันล้านดอลลาร์ในปี ค.ศ. 2021 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี ค.ศ. 2020 ราว 26.2% หากเจาะจงสัดส่วนการเติบโตในแต่ละพื้นที่จะพบว่า สหรัฐอเมริกา ( เติบโตขึ้น 27.4%) ยุโรป (เติบโตขึ้น 27.3%) APAC (เติบโตขึ้น 6.5%) และญี่ปุ่น (เติบโตขึ้น 19.8%)

 

โดย 5 ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุด ได้แก่

1.ไต้หวัน
ไต้หวันนั้นมีความแข็งแกร่งทางภูมิรัฐศาสตร์ของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จนถูกเรียกว่า “ซิลิคอนชิลด์ (Silicon Shield)” โดยเป็นประเทศผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนําของโลก ซึ่งคิดเป็น 50% ของตลาดเซมิคอนดักเตอร์ทั้งโลก สำหรับบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักกันดีของไต้หวันคือ TSMC ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตไมโครชิปสำหรับ Intel, Apple, AMD, Nvidia และ Qualcomm

 

2. เกาหลีใต้
เซมิคอนดักเตอร์ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ส่งออกชั้นนําของเกาหลีใต้ โดยประเทศนี้ มีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเซมิคอนดักเตอร์มากกว่า 20,000 แห่งเลยทีเดียว และหากคิดจากรายได้จะพบว่า Samsung คือบริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดในประเทศ ด้วยสัดส่วนการผลิตที่คิดเป็น 17% ของตลาดโรงผลิตทั่วโลก ซึ่งเกาหลีใต้ได้วางเป้าหมายของการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในอนาคต โดยมุ่งเน้นไปที่การขยายโรงงานผลิตบริเวณทางตอนใต้ของกรุงโซล

 

3. ญี่ปุ่น
ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ถือได้ว่าญี่ปุ่นอยู่ในอันดับรองจากไต้หวันและเกาหลีใต้ แม้ว่าส่วนแบ่งการผลิตชิปทั่วโลกของญี่ปุ่นจะลดลง แต่ก็ยังคงถือได้ว่า เป็นผู้เล่นหลักในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเซมิคอนดักเตอร์เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของรัฐบาลญี่ปุ่น ที่ต้องการฟื้นฟูอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ

 

4. จีน
จีนเป็นศูนย์กลางการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาภาคส่วนต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของจีน มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มการเติบโตเป็นไปในทิศทางที่ดี โดยในห้าปีล่าสุดยอดขายอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ในประเทศจีนเพิ่มขึ้นจาก 3.8% เป็น 9% ของยอดขายทั่วโลก และมีการคาดการณ์ว่าในปี ค.ศ. 2030 จีนจะสามารถผลิตเซมิคอนดักเตอร์ได้ราว1/4 ของทั้งโลก ซึ่งจะแซงหน้าไต้หวัน เกาหลีใต้และญี่ปุ่นในไม่ช้า

 

5.สหรัฐอเมริกา
ถึงแม้ว่าไมโครชิปจะถูกคิดค้นในสหรัฐอเมริกา แต่เนื่องมาจากยังมีการลงทุนที่ต่ำ ด้วยเหตุนี้ 3 ใน 4 ของกําลังการผลิตชิปของโลก จึงกระจุกตัวอยู่ในเอเชีย โดยส่วนแบ่งกําลังการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกของสหรัฐฯ ลดลงจาก 37% (ในปี ค.ศ. 1990) เป็น 12%  แต่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ยังคงมีกําไรค่อนข้างมากในสหรัฐฯ จากข้อมูลของสมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (SIA) พบว่าการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ในปี ค.ศ. 2021 ช่วยเพิ่มมูลค่าราว 62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา

 

มีการคาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก จะมีมูลค่ารวมหลายล้านล้านดอลลาร์ฯ ภายในปี ค.ศ. 2030 ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานผู้คนหลายแสนคนตลอดกระบวนการ ทั้งออกแบบ ผลิต  และการจัดจําหน่าย เซมิคอนดักเตอร์ได้กลายเป็นกลยุทธ์ภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญ สำหรับหลายประเทศ ซึ่งทำให้เกิดการลงทุนโดยรัฐบาล และบริษัทในการวิจัย พัฒนาเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ

 

ลงทุนศาสตร์ – Investerest

ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , และ WEBSITE

 

https://www.shiphub.co/worlds-top-semiconductors-producers/
https://www.investopedia.com/semiconductors-supply-chain-7367716

 

อัพเดทล่าสุดเมื่อ :

เกี่ยวกับผู้เขียน

ลงทุนศาสตร์

ผมเขียนบทความเกี่ยวกับการลงทุนตั้งแต่เบื้องต้น เหมาะสำหรับผู้ลงทุนหรือผู้ที่มีความสนใจที่จะลงทุนที่รักหรือมีทีท่าว่าจะรักในศาสตร์ของการลงทุนเหมือนกัน