BRK และการลงทุนที่ผิดพลาดที่สุดของวอร์เรน บัฟเฟต

เคยมีคนเคยถาม วอร์เรน บัฟเฟต ว่า การลงทุนที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตคือครั้งไหน บัฟเฟตตอบว่า Berskshire Hathaway อ่านไม่ผิดหรอก BRK ที่เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าที่สุดของปู่ บริษัทโฮลดิ้งคัมพานีอันดับหนึ่งของโลกนี่แหละ

บัฟเฟตเริ่มซื้อ Berskshire Hathaway ครั้งแรกในปี 1962 เขาตัดสินใจลงทุน ณ ตอนนั้นเพราะราคามันต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีมาก ถึงแม้ว่าธุรกิจจะดูมีแนวโน้มที่ไม่ดีนัก แต่ด้วยราคาที่ต่ำมาก การลงทุนครั้งนี้ก็น่าจะมีส่วนเผื่อความปลอดภัยที่เพียงพอ

แต่ความจริงไม่ใช่อย่างนั้น

ธุรกิจสิ่งทอของ Berskshire Hathaway กำลังจะตาย ถึงแม้ว่า Berskshire Hathaway จะเป็นผู้ผลิตซับในสูทที่ดีที่สุดในอเมริกา แต่สุดท้าย คนใส่สูทก็ไม่เคยพลิกดูว่าซับในตัวนี้ผลิตมาจากโรงงานไหนอยู่ดี Berskshire Hathaway สูญเสียความสามารถในการแข่งขันอย่างชัดเจน ค่าแรงงานทางตอนเหนือแพงกว่าตอนใต้ ต้นทุนของบริษัทสูงอย่างแข่งขันได้ยาก และไม่มีวี่แววจะกลับมาชนะ

ด้วยราคาหุ้นที่ต่ำมาก ผู้บริหารจึงตัดสินใจที่จะซื้อหุ้นคืนซึ่งตรงกับการวิเคราะห์ของบัฟเฟตทุกประการ Stanton ผู้บริหารในตอนนั้นเอ่ยปากว่าจะทำการเสนอซื้อหุ้น tender offer ที่ราคา 11.5 เหรียญ บัฟเฟตตกลงกับข้อเสนอนี้และยินดีจะขายหุ้นให้ แต่ปรากฎว่าเมือ Stanton ประกาศซื้อหุ้นอย่างเป็นทางการจริง เขากลับเสนอซื้อที่ราคา 11.375 เหรียญเท่านั้น ความกลับกลอกของผู้บริหารทำให้บัฟเฟตโมโหอย่างมาก แทนที่เขาจะตัดสินใจขายหุ้นไป บัฟเฟตตัดสินใจซื้อหุ้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในบริษัท เขาตัดสินใจไล่ Stanton ออกในที่สุด รู้ตักอีกที บัฟเฟตก็เป็นเจ้าของกิจการโรงงานสิ่งทอที่ดูเหมือนกำลังจะฉายแสงอย่างริบหรี่เต็มที

BRK ตกต่ำลงทุกวัน ต่างกับธุรกิจอื่นของปู่ที่ก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด

บัฟเฟตพยายามส่งคนไปกอบกู้ Berskshire Hathaway แต่ก็ไม่เคยสำเร็จ ธุรกิจนั้นยากเกินเยียวยา แต่จะให้ปิดเสียเดี๋ยวนั้นก็เป็นไปไม่ได้ กิจการนี้เป็นแหล่งจ้างงานในชุมชน การปิดมันเหมือนการเปิดศึกกับคนละแวกนั้น เขาจะถูกเกลียด และแน่นอนว่าบัฟเฟตไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย

สุดท้าย เขาใช้เวลายาวนานหลายปีค่อยๆ ลดการผลิตลง และปล่อยให้ Berskshire Hathaway ล่มสลายไปตามเวลา และแปรสภาพบริษัทมาเป็นเสมือน holding company ที่ถือสุดยอดธุรกิจจากทั่วโลก

นิทานเรื่องนี้ “อาจจะ” สอนให้รู้ว่า ก้นบุหรี่บางชิ้นอาจเก็บขึ้นมาสูดได้อีกสักครั้ง แต่ก้นบุหรี่บางชิ้นนอกจากเก็บขึ้นมาสูดอีกไม่ได้แล้ว ยังเปื้อนมือคนเก็บจนยากที่จะล้างออกเสียอีกด้วย

ทุกครั้งที่มีคนถามถึง เขาจึงพูดเสมอว่านี่คือการลงทุนที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตของเขาเลย