ราคาทองขึ้นตามสงครามจริงหรือไม่

ทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ถือได้ว่ามีความปลอดภัย ซึ่งนักลงทุนใช้หลบภัย เมื่อสินทรัพย์อื่น ๆ ที่ลงทุนมีความผันผวนมาก ดังนั้นสมมติฐานเบื้องต้นคือ เมื่อเกิดสงคราม นักลงทุนอาจหันไปสนใจลงทุนในทองคำมากขึ้น ไม่ใช่แค่เพราะสงครามเท่านั้นที่นำไปสู่ความสนใจที่มากขึ้นในการลงทุนทองคำ แต่ด้วยการพิมพ์ธนบัตรที่มากขึ้น และการใช้จ่ายของรัฐบาลที่มากขึ้น และราคาทองคำสูงขึ้นตามไปด้วย

ในอดีต เราจะเห็นความเป็นไปที่ผ่านมาว่าในสงครามหลาย ๆ ครั้ง ราคาทองก็เพิ่มขึ้นจริง ๆ อย่างในช่วงปลายปีทศวรรษ 1970 ซึ่งมีการเรียกร้องการปฎิรูปหรือปฎิวัติภายในหลายประเทศ รวมไปถึงการปฏิวัติอิหร่านในช่วงปี 1978 สงครามอิหร่านอิรักในปี 1979 การบุกรุกเข้าอัฟกานิสถานโดยสหภาพโซเวียต และปมความขัดแย้งสหรัฐและอิหร่าน เป็นที่เห็นได้ชัดว่าราคาทองคำสูงขึ้นเมื่อมีวิกฤติ อย่างในปี 1977 ราคาทองคำพุ่งขึ้นสูง 23% ในปี 1978 ราคาทองคำเพิ่มขึ้นสูง 37% และในปี 1979 ราคาทองคำพุ่งขึ้นสูงถึง 126%

ในสงครามอ่าวเปอร์เซีย เมื่ออิรักรุกรานคูเวตในปี 1990 ราคาทองตำทะยานขึ้นสูงอีกครั้ง หลายจากสงครามหลายปี ราคาทองคำถึงเริ่มลดลงมาเท่า ๆ กับช่วงก่อนเกิดสงคราม

ในเหตุการณ์ 911 เช่นเดียวกัน เมื่อเกิดเหตุการณ์แล้ว ราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้นมาก ตามมาด้วยการรุกรานอิรักโดยสหรัฐอเมริกาในปี 2003 ก็ยิ่งคงค่าราคาทองให้แพง อย่างไรก็ตาม เมื่อมีความมั่นใจในระดับหนึ่งว่าเหตุการณ์สงครามจะไม่เกิดขึ้น และสถานการณ์กลับมาสู่ปกติ ราคาทองก็จะลดลงไปเป็นราคาก่อนสงคราม

แม้กระทั่งในปี 2014 เมื่อตอนที่มีข่าวลือว่าสหรัฐอเมริกาอาจเข้าไปแทรกแซงปัญหาในซีเรีย ราคาทองคำก็ขึ้นสูงอย่างมาก เช่นเดียวกันกับท่าทีที่สหรัฐอเมริกามีต่อปัญหา ISIS ปัญหาในยุโรปก็ดูเหมือนจะเป็นวิกฤติที่ควบคุมได้ยาก อย่างในออสเตรีย อัตราการซื้อปืนเพิ่มขึ้นสูงมาก ผู้คนพยายามปกป้องตัวเองจากการโจมตีเนื่องด้วยปัญหาผู้ลี้ภัยในยุโรป

สำหรับวิกฤติการณ์ยูเครน-รัซเซีย ซึ่งกำลังเป็นประเด็นร้อนในปัจจุบัน พบว่าราคาทองคำเพิ่มขึ้นในอัตรา 6% ในปี 2022 และเป็นที่เห็นได้ชัดว่านักลงทุนกำลังย้ายการลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ไปลงกับทองคำมากขึ้นด้วย
ปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้ราคาทองคำสูงขึ้นในช่วงสงครามเป็นเพราะ มูลค่าในตัวทองคำนั้นเอง ทองคำนั้นมีประโยชน์ในฐานะโลหะสื่อกลางการแลกเปลี่ยนเงินตรา และยังถูกใช้เป็นเงินทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ ทองคำนั้นมีมูลค่าในตนเอง จัดเป็นสินค้าปลอดภัย (Safe haven assets) ในยามวิกฤต ทองคำนั้นเป็นสินค้าที่มีมูลค่าลดลงไม่มาก ผิดกับเงินตราสกุลต่างๆที่อาจเพิ่มหรือลดได้ตามการแปรผันของสภาพเศรษฐกิจ