Kodokushi Seiso ธุรกิจหลังความตาย สะท้อนปัญหาสังคมใหญ่
หากใครได้ติดตามภาพยนตร์ซีรีส์ที่ออกฉายทาง Netflix อย่างเรื่อง Move to heaven ก็คงจะพอคุ้นเคยกับเรื่องราวของธุรกิจรับทำความสะอาดหลังการเสียชีวิต ซึ่งสร้างจากหนังสือเรื่อง Things You Left Behind ของ Kim Sae-byeol แน่นอนว่าต้องมีหลายคนที่ตั้งคำถามว่าธุรกิจนี้มีจริงหรือไม่ ซึ่งสำหรับธุรกิจประเภทนี้นั้นเป็นที่รู้จักกันดีในประเทศญี่ปุ่น คือธุรกิจการทำความสะอาดหลังการเสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยว (The Lonely Death Cleaner) มีคำเรียกเฉพาะว่า “Kodokushi Seiso โคโดคูชิ เซโซ” เกิดขึ้นเนื่องจากในประเทศญี่ปุ่นมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของอัตราการตายอย่างโดดเดี่ยว หรือ “Kodokushi โคโดคูชิ” ซึ่งคำนี้เป็นคำที่แพร่หลายตั้งแต่ช่วงเกิดแผ่นดินไหว Great Hanshin ในปี 1995 เมื่อผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่นหลายพันคนถูกย้ายไปอาศัยอยู่ที่อื่น ถูกกีดกันหรือแยกตัวจากครอบครัวรวมถึงเพื่อนฝูง และเริ่มตายเพียงลำพัง
การตายแบบโดดเดี่ยวมักเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้มีข้าวของถูกทิ้งไว้กระจัดกระจายจากชีวิตประจำวันของผู้ตาย อย่างอาหารที่ถูกวางทิ้งไว้ข้างศพ เศษบุหรี่ หรือแม้แต่กระป๋องเครื่องดื่มที่ยังดื่มไม่หมด ซึ่งโดยปรกติแล้วนั้นเมื่อเกิดกรณีโคโดคูชิ กว่าจะมีคนมาพบนั้นมักผ่านไปหลายวัน หลายสัปดาห์ หรือแม้กระทั่งหลายเดือน และโดยส่วนใหญ่แล้วนั้นก็มักจะเป็นเพื่อนบ้านที่รับรู้ได้ถึงความผิดปรกติที่เกิดขึ้นเป็นคนแรก ๆ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นเหม็นหรือของเหลวจากร่างกายผู้ตายที่อาจมีการไหลซึมออกมาจากบริเวณห้องพัก
การทำความสะอาดหลังการเสียชีวิต มักใช้เวลาจัดการไม่เกิน 1 วัน ระยะเวลาจะอยู่ที่ 2-12 ชั่วโมง การคิดราคาเกิดจากการตกลงร่วมกันของผู้ว่าจ้างซึ่งอาจจะเป็นญาติผู้ตายหรือเจ้าของที่พักกับผู้ถูกว่าจ้าง ราคาจะมีความแตกต่างกันไปตั้งแต่หลักหมื่นเยนไปจนถึงล้านเยนซึ่งจะประเมินจากความยากง่ายและขนาดของพื้นที่ หลัก ๆ แล้วผู้รับจ้างจะต้องกำจัดกลิ่น ของเหลว และแมลง โดยบริษัทรับจ้างประเภทนี้มักมีความเชี่ยวชาญพิเศษในการใช้สารเคมีที่เหมาะสมกับการกำจัดสิ่งปฏิกูลแต่ละรูปแบบ สำหรับธุรกิจ Kodokushi Seiso นี้ไม่เพียงแต่เป็นการจัดการข้าวของและทำความสะอาดพื้นที่อยู่อาศัยของผู้ตายให้กลับมาอยู่ในสภาพปรกติเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการจัดระเบียบความทรงจำของผู้ตายอีกด้วย ข้าวของที่มีความสำคัญทางจิตใจอย่างถ้วยรางวัล แหวนแต่งงาน ภาพถ่าย หรือแม้แต่สมุดบันทึก จะถูกจัดแยกลงกล่อง พร้อมกับติดต่อญาติของผู้ตาย หากญาติผู้ตายปฏิเสธการรับ ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ที่จะนำสิ่งของเหล่านี้ไปทำพิธีที่วัด สวดภาวนา และจัดการคัดแยกเพื่อทำลาย ขาย หรือรีไซเคิลต่อไป
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าญี่ปุ่นสมัยใหม่เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจอย่างกว้างขวางในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา เกิดการผสมผสานของปัจจัยทางสังคม วัฒนธรรม และประชากรของญี่ปุ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวทำให้เกิดกรณีโคโดคูชิเพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันสังคมญี่ปุ่นกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ผู้สูงวัยชาวญี่ปุ่นมักแยกตัวอยู่ลำพังและขาดการปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ส่วนชาวญี่ปุ่นวัยกลางคนก็เลือกที่จะอยู่คนเดียวเพิ่มมากขึ้น อัตราการแต่งงานลดลง อัตราคนโสดเพิ่มมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ต่างประเมินการเสียชีวิตแบบโคโดคูชิไว้ที่ 30,000 รายต่อปี ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนที่สูงมากทีเดียว สำหรับธุรกิจ Kodokushi Seiso คิดเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ของธุรกิจการทำความสะอาดทุกประเภทในประเทศญี่ปุ่น และมีการคาดการว่าจะมีการเติบโตเพิ่มมากขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบสังคมญี่ปุ่นในอนาคตอันใกล้นี้
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE
พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์
อ้างอิง
https://www.aljazeera.com/features/2017/10/14/the-woman-who-cleans-up-after-lonely-deaths-in-japan/
https://www.straitstimes.com/asia/east-asia/dying-alone-in-the-worlds-most-populous-city
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :