สงครามเขตแดนเหนือน่านน้ำทะเลจีนใต้ ระเบิดเวลาลูกใหญ่ที่รอวันปะทุ
พื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลที่มีแต่เวิ้งน้ำ ไร้ผู้คนอยู่อาศัย ไม่ได้เป็นพื้นที่ที่ไร้ซึ่งคนจับจองแต่อย่างใด ข้อพิพาทเหนือทะเลจีนใต้มีมาช้านาน และมีการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือเขตแดนนี้อยู่เสมอ เมื่อกล่าวถึงพื้นที่ทะเลจีนใต้ ประเทศที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ดังกล่าวมีตั้งแต่จีน ไต้หวัน เวียดนาม มาเลเซีย บรูไน และฟิลิปปินส์ รวมไปถึงสหรัฐอเมริกา ที่แม้จะไม่ได้มีเขตแดนติดกับทะเลจีนใต้ แต่ก็มักแสดงความเห็นในประเด็นนี้อยู่เสมอ โดยสหรัฐอเมริกาเสนอจุดยืนด้านการปลดปล่อยให้เขตแดนเหนือน่านน้ำทะเลเป็นพื้นที่ที่ทุกชาติสามารถใช้งานได้อย่างเสรี [1]
อย่างไรก็ตาม จุดยืนดังกล่าวนี้ไม่ได้รับการตอบรับจากผู้คนที่อยู่ในวงพิพาทแต่อย่างใด ดังจะเห็นได้ว่าน่านน้ำแห่งนี้ยังคงมีเหตุขัดแย้งกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งประเด็นด้านแผนที่ของจีนที่แบ่งเขตแดนทะเลจีนใต้ผ่านเส้นประ 9 เส้น และการพิพาทกันเหนือน่านน้ำ เช่น เรือเสบียงสินค้าของฟิลิปปินส์และเรือสังเกตการณ์ของจีนที่ปะทะกันในช่วงที่ผ่านมา [2] เสรีภาพเหนือน่านน้ำทะเลจีนใต้ไม่อาจเกิดขึ้นง่ายดาย เพราะพื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยผลประโยชน์มากมาย ทั้งเส้นทางการเดินเรือที่สร้างมูลค่าให้ได้มหาศาล การกุมอำนาจทางเศรษฐกิจ และการเป็นเจ้าของทรัพยากรธรรมชาติที่นานาประเทศล้วนต้องการ [3]
หากพิจารณาผ่านมุมมองของจีน ซึ่งเป็นประเทศที่อ้างสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้มากที่สุด ทั้งการปะทะกับเรือของชาติอื่นเหนือลำน้ำ และการเสนอแผนที่เส้นประ 9 เส้น การครอบครองทะเลจีนใต้ส่งผลต่อการครองอำนาจของจีนเป็นอย่างมาก แม้ว่าอำนาจทางการทหารของจีนโดยมากมาจากทางบก แต่จีนต้องการอำนาจทางการทหารเหนือน่านน้ำให้ได้มากที่สุด รวมทั้งในมหาสมุทรอินเดีย และมหาสมุทรแปซิฟิก เพื่อให้แน่ใจว่าจีนสามารถควบคุมเส้นทางการส่งสินค้าไปยังทั่วโลก รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติอันล้ำค่า ได้แก่ น้ำมันดิบและก๊าซ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
การยึดครองทะเลจีนใต้จะมีส่วนช่วยให้จีนควบคุมเขตแดนทางน้ำได้ครบถ้วนทั้งหมดดังที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม ความปรารถนาของจีนไม่อาจสำเร็จง่ายดายเพียงนั้น เมื่อหลายประเทศยังคงใช้ทะเลจีนใต้อยู่ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นไต้หวัน มาเลเซีย เวียดนาม หรือฟิลิปปินส์ รวมทั้งบรูไน ชาติเหล่านี้ต้องการปกป้องเขตแดนของตนอย่างสุดกำลังเช่นกัน ทั้งพื้นดินท้องทะเล การประมง และเกาะทั้งหลายที่อยู่ในบริเวณข้อพิพาท ในขณะที่อินโดนีเซียและสหรัฐอเมริกาก็ต้องการปกป้องสิทธิเพื่อรักษาอำนาจในการควบคุมเส้นทางส่งสินค้าทางทะเล
น่านน้ำทะเลจีนใต้กลายเป็นแหล่งรวมผลประโยชน์ที่ผู้เข้าชิงทุกฝ่ายล้วนไม่ยอมเพลี่ยงพล้ำ ทางออกของข้อพิพาทที่มีมาเนิ่นนานนับร้อยปีนี้ อาจเป็นไปได้ 3 ทาง ตามการวิเคราะห์ของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ ทางแรก คือจีนเซ็นสัญญาตกลงกันกับประเทศกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน เพื่อให้ประเทศเหล่านี้ยอมรับการอ้างสิทธิ์ของจีนโดยสันติ ทางที่สอง คือการสู้รบกันไปโดยไม่จบสิ้น ผู้มีกำลังมากกว่า อาจเป็นผู้ชนะไปในท้ายที่สุด หรือทางออกที่สาม คือการตกลงกันให้ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ ถอยคนละก้าวและหาจุดยืนตรงกลางที่ทั้งจีนและชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถใช้ทะเลจีนใต้ได้ร่วมกัน
ทางออกที่สามดูเป็นคำตอบที่อยู่ในอุดมคติที่สุด เพราะชาติอาเซียนทั้งหลายได้เคยเจรจาแล้ว แต่จีนยังไม่มีท่าทีตอบรับ เพราะผลประโยชน์ที่จีนจะได้รับนั้นมีมากมายมหาศาล และจีนก็ได้ทุ่มกำลังอย่างมากในการแย่งชิงพื้นที่ส่วนนี้เป็นของตนให้จงได้ ความขัดแย้งครั้งนี้จึงอาจจบลงด้วยการปะทะเพื่อหาผู้ชนะ หรืออาจจบลงที่การประนีประนอมก็ได้ ตราบใดที่ยังไม่มีทางออกที่แท้จริงให้กับปัญหา น่านน้ำทะเลจีนใต้ก็คล้ายมีระเบิดเวลา ที่เราคงต้องเฝ้าจับตาดูต่อไปว่า จะระเบิดขึ้นมา และส่งผลกระทบอย่างไรในสักวัน
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , และ WEBSITE
อ้างอิง
[1] เอกรินทร์ บำรุงภักดิ์. (2562). ข้อพิพาททะเลจีนใต้: ใครอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่นี้บ้าง. สืบค้นจาก https://www.bbc.com/thai/international-53893154
[2] George Wright. (December 10, 2023). South China Sea: Philippine and Chinese vessels collide in contested waters. Retrieved from https://www.bbc.com/news/world-asia-67668930
[3] Al Jazeera. (August 9, 2023). What’s behind rising China-Philippines tensions in the South China Sea?. Retrieved from https://www.aljazeera.com/news/2023/8/9/whats-behind-rising-china-philippines-tensions-in-the-south-china-sea
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :