อย่าปล่อยให้การควบคุมอะไรไม่ได้ ทำให้เรากลายเป็นคนสิ้นหวัง
ในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับสิ่งต่าง ๆ ที่ควบคุมไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการแพร่กระจายของโรคระบาด ตลาดหุ้นที่ผันผวนติดลบจนต้องหยุดทำการ สินค้าขาดตลาดและสินค้าฉวยโอกาสโก่งราคา การเจ็บป่วยที่ตามองไม่เห็นเป็นโรคเมื่อไหร่ก็ไม่มีทางแน่ใจ ถ้าคุณยังอยากจะก้าวต่อไป อย่าปล่อยให้การควบคุมอะไรไม่ได้ ทำให้เรากลายเป็นคนสิ้นหวัง
Martin Seligman และ Steven Mailer นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน ได้ค้นพบปรากฎการณ์ที่เรียกว่า ความสิ้นหวังที่เกิดจากการเรียนรู้ความหลัง หรือ Learned Helplessness เป็นปรากฏการณ์ที่สิ่งมีชีวิตยอมจำนนต่อสถานการณ์ตรงหน้า เพราะความสิ้นหวัง คิดไปว่าไม่มีอะไรจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นไปได้กว่านี้ ทำให้แม้มีโอกาสผ่านเข้ามาก็ไม่ต้องการจะคว้าไว้ ไม่ดิ้นรนอยากทำอะไรอีกต่อไป
ความสิ้นหวังนี้เป็นอย่างไร ?
Martin Seligman นำสุนัขมาแบ่งเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 (กลุ่มควบคุม) นำมาใส่ปลอกคอล่ามไว้แล้วเมื่อเวลาผ่านไปก็ปล่อยเป็นอิสระ
กลุ่มที่ 2 นำมาใส่ปลอกคอล่ามไว้แล้วช็อตด้วยไฟฟ้า โดยหากเอาเท้าไปกดคานไฟฟ้าก็จะหยุดช็อต
กลุ่มที่ 3 นำมาใส่ปลอกคอและโดนไฟฟ้าช็อตตลอดเวลา แม้กดคาน ดิ้น ร้อง หรือกระโดดอย่างไรไฟฟ้าก็ไม่หยุด
หลังจากนั้นนำสุนัขทั้ง 3 กลุ่ม มาทดลองในกล่องที่แบ่งพื้นที่เป็นสองฝั่งด้วยรั้วเตี้ย ๆ ที่กระโดดข้ามได้ เพื่อหนีจากการถูกช็อต ปรากฏว่าสุนัขกลุ่มที่ 1 และ กลุ่มที่ 2 เมื่อไฟฟ้าช็อตก็เรียนรู้ที่จะกระโดดข้ามฝั่งไปยังพื้นที่ที่ไม่ถูกช็อต แต่สุนัขกลุ่มที่ 3 ที่ก่อนหน้านี้เคยถูกช็อตและไม่สามารถหนีได้ แม้มีทางที่จะเลี่ยงการถูกช็อตได้ก็กลับนอนอยู่นิ่ง ๆ ยอมที่จะโดนไฟฟ้าช็อตต่อไปเรื่อย ๆ ไม่สนใจที่จะข้ามไปอีกฝั่ง
ยังคงยอมจำนน แม้ว่าสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว
จะเห็นได้ว่าแม้ภายหลังมีโอกาสให้ไม่โดนไฟฟ้าช็อต แต่สุนัขก็ยอมจำนนไม่สนใจต่อโอกาสตรงหน้าอีกต่อไป ซึ่งไม่ใช่เพียงแต่สุนัข แต่สัตว์อีกหลายชนิดก็พบลักษณะที่คล้ายกัน ยกตัวอย่างเช่น ช้างในประเทศอินเดียหลังคลอดจะถูกจับมาล่ามไว้กับเสาด้วยเชือก ในช่วงแรกช้างก็พยายามที่จะดิ้นรนเพื่อให้หลุดออกจากพันธนาการ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเมื่อทำซ้ำ ๆ แล้วไม่สามารถหลุดจากการมัดนี้ได้ก็หยุดที่จะดิ้นรน ต่อมาแม้ว่าจะตัวโตขึ้นแล้วมีพละกำลังที่สามารถกระชากเชือกให้หลุดจากพันธนาการได้ แต่ก็ไม่พบว่าช้างเชือกนั้นจะทำ เลือกที่จะยอมแพ้จำนนเพราะเรียนรู้มาจากอดีตว่าทำไปคงไม่สามารถหลุดพ้น ดิ้นรนไปคงไม่เกิดประโยชน์อะไร
ความสิ้นหวังที่เกิดจากการเรียนรู้ความหลังในมนุษย์
เด็กที่ไม่เก่งวิชาคณิตศาสตร์ เมื่อทำคะแนนได้ไม่ดี ผิดพลาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ล้มเลิกที่จะเรียนรู้หรือยอมจำนนว่าตนเองโง่ ไม่มีความสามารถไม่มีทักษะ ทำอะไรก็คงจะไม่ประสบความสำเร็จ หรือในผู้ใหญ่ที่โตมาแบบถูกห้าม หรือถูกทำร้าย ไม่ได้รับโอกาสให้ได้ควบคุมหรือเลือกชีวิตตัวเองมาตลอดชีวิต วันหนึ่งก็กลายเป็นคนที่ยอมจำนนทำตามคำสั่งไม่ขัดข้อง แม้ในใจจะทุกข์ทนและทรมานเพียงใด หรือสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปแล้วก็ไม่แม้แต่จะเรียกร้อง ต่อรอง หรือยืนกรานในความต้องการของตัวเอง เพราะยอมจำนนและเชื่อไปก่อนแล้วว่า “คงไม่ได้” “ไม่มีหวัง”
การมองโลกที่ส่งผลชีวิตนี้ดูสิ้นหวัง
การมีมุมมองต่อเหตุการณ์ทางลบว่าเป็นสิ่งที่ถาวรไม่มีทางแก้ไขได้ (permanent) เป็นความผิดของตนเองเพียงคนเดียวเท่านั้น (personal) และเมื่อเกิดเรื่องร้ายขึ้นหนึ่งครั้งเช่นนี้ก็จะเกิดขึ้นอีกซ้ำ ๆ กับเรื่องอื่น ๆ ด้วย (pervasive)
เลือกที่จะเรียนรู้การมองโลกในมุมดี
สิ่งที่ตรงข้ามกับความสิ้นหวังที่เกิดจากการเรียนรู้ความหลัง คือ การเรียนรู้ที่จะมองสิ่งต่าง ๆ ในทางบวก (learned optimism) ซึ่งปรับเปลี่ยนได้โดย
- มองเรื่องที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นว่าสาเหตุอาจเกิดได้จากทั้งปัจจัยภายในและภายนอก (Internal vs External) คือ เราอาจมีส่วนผิดเพียงส่วนหนึ่งแต่ไม่ใช่ทั้งหมด สอบตกอาจจะมาจากสติปัญญาและความสามารถส่วนหนึ่ง แต่ก็อาจมาจากความยากของข้อสอบ จำนวนชั่วโมงที่ใช้ในการฝึกฝน แบบฝึกหัดที่หัดลองทำไม่ตรงกับสิ่งที่วัดผล
- การมองว่าปัญหานั้นมันมีวันที่จะจบลงและเปลี่ยนแปลงไปไม่ถาวร (Stable vs Unstable)
- การมองว่าเรื่องที่แย่และเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นนั้น มันก็สามารถเกิดขึ้นกับคนทั่วไปไม่เจาะจงแค่เรา และมันก็เกิดและปรากฏขึ้นตามจังหวะเวลาและช่วงวัย ไม่ได้เป็นเช่นนี้ตลอดชีวิต (Local vs Global)
สุดท้ายแล้วไม่ว่าดีหรือร้าย สิ่งที่เข้ามาท้าทายชีวิตจะหนักหนาสาหัสเพียงใด แต่มันก็มีวันที่จะผ่านไป ไม่ว่าช้าหรือเร็วเราก็จะค่อย ๆ ปรับและรับมือกับมันได้ และสิ่งร้าย ๆ ที่เกิดขึ้น มันก็เป็นสิ่งที่เกิดกับทุกคนไม่ใช่เพียงแต่แค่กับเรา และมันก็ไม่ได้จะอยู่กับเราไปตลอดทั้งชีวิต
ไม่ว่าจะโลกของการลงทุนหรือโลกของการใช้ชีวิต มันก็ต่างมีความไม่แน่นอน มีทั้งควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ การมองโลกในแง่ดีบ้าง อาจจะทำให้เราอยากที่จะเรียนรู้ วิ่งเข้าหาคำแนะนำ และทำให้เรายังไปต่อได้ไม่จำนนอยู่กับที่ เราอาจจะต้องเชื่อในมุมบวกบ้าง ขยับและก้าวต่อไปจนกว่าจะถึงวันนั้นที่เราประสบความสำเร็จทำได้ตามที่เราตั้งใจ
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE
พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :