ทัศนคติ

ทำไมเราถึงชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น

ทำไมเราถึงชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น

ทำไมเราถึงชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น

 

เวลาที่ได้รู้ว่าคนรู้จักก็กำลังลงทุนอยู่ในตลาดหุ้นเหมือนกัน คำถามที่นักลงทุนมือใหม่หลาย ๆ คนมักจะถาม คือ ตอนนี้ดอยไหม กำไรอยู่หรือเปล่า ผลตอบแทนเป็นอย่างไรบ้าง ทำไมเราถึงชอบถามและอยากรู้ว่าคนอื่นเป็นอย่างไร ทำไมเราถึงชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ?

 

ทฤษฎีการเปรียบเทียบทางสังคม (Social Comparison Theory) ถูกพัฒนาและศึกษาตั้งแต่ปี ค.ศ.1954 โดยนักจิตวิทยา Leon Festinger โดยได้ตั้งสมมติฐานและตรวจสอบ เพื่ออธิบายว่าเราไม่ได้ “ชอบ” ที่จะเปรียบเทียบ แต่มันเป็นกระบวนการที่เรา “หลีกเลี่ยงไม่ได้” ถ้าต้องการมีชีวิตรอด โดยมีคำอธิบายที่น่าสนใจ อาทิเช่น

 

1 เรามีแรงผลักดันให้เปรียบเทียบความสามารถหรือความคิดเห็นเรากับคนอื่นเพื่อการอยู่รอดของชีวิต – ในสมัยก่อนตอนเรายังเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่กันเป็นฝูงเป็นกลุ่ม ถ้าเราคิดเห็นแตกต่างมากไป หรือ ความสามารถเข้ากันไม่ได้ มีความเป็นไปได้สูงที่เราจะตายจากความโหดร้ายของธรรมชาติ

 

2 เราจะอิงกับการเปรียบเทียบทางสังคมมากขึ้น เมื่อสิ่งที่เราต้องการวัดนั้นไม่มีวิธีมาตรฐานหรือมาตรวัดที่ชัดเจน – งานทดลองหนึ่งถามว่า “คุณสามารถทำสิ่งนี้ได้ไหม?” (Can you do …?) กับ “คุณทำสิ่งนี้ได้ดีไหม?” (Are you good in …..?) พบว่าการถามแบบหลังกระตุ้นให้เกิดการเปรียบเทียบมากกว่า เพราะไม่มีเกณฑ์ที่ชัดเจนจะมาวัดได้ว่าที่กำลังทำอยู่ดีหรือไม่ดี

 

3 ถ้าความคิดหรือความสามารถแตกต่างกันมาก มีแนวโน้มที่จะเกิดการเปรียบเทียบน้อยลง – เรามักจะเปรียบเทียบกับคนที่มีระดับใกล้เคียงกับเราและมีความสามารถในมิติที่คล้ายกันกับเรา (basis of similarity) ใครที่มีความสามารถในระดับที่ต่างจากเรามาก ๆ หรือไม่มีคุณลักษณะในมิติที่เราสนใจ เรามักจะไม่อยากเปรียบเทียบด้วย เพราะจะทำให้การเปรียบเทียบนั้นให้ข้อมูลได้ไม่แม่นยำ

 

4 เรามีแรงผลักดันที่ต้องการจะทำให้ได้ดีกว่าเป้าหมายที่เราเปรียบเทียบด้วย (Drive upward) – เมื่อผู้เข้าร่วมการทดลองมีหลักฐานหรือผลที่บอกว่าตัวเองทำได้ดีกว่าเป้าหมายที่เปรียบเทียบด้วย คนกลุ่มนั้นมีแนวโน้มที่จะรายงานว่ามีความพอใจสูงกว่า มีความภูมิใจในตัวเองที่มากกว่า เมื่อเทียบกับสถานการณ์ที่ตัวเองตกอยู่สถานะที่ด้อยกว่า

 

การเปรียบเทียบกับคนที่เก่งกว่าช่วยให้เราพัฒนา?

 

การเปรียบเทียบทางสังคมในแต่ละครั้งเราเลือกเป้าหมายที่ใช้เปรียบเทียบ (Comparison Target) แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละเป้าหมายให้ประโยชน์และส่งผลให้เกิดอารมณ์ตามมาที่ไม่เหมือนกัน การเปรียบเทียบกับคนที่คล้ายกันกับเรา (Lateral Comparison) ทำให้เรารู้สถานะและความสามารถของเรา (Self-Evaluation) การเปรียบเทียบกับคนที่ด้อยกว่าเรา (Downward Comparison) จะทำให้เรารู้สึกพอใจกับสถานะที่เป็นอยู่และรู้สึกดีกับชีวิตมากขึ้น (Self-enhancement)

 

แต่ถ้าคนที่เปรียบเทียบด้วยนั้นเป็นคนที่ใกล้ชิด แล้วเราเหนือกว่าเขาไปมากก็จะเกิดเป็นความรู้สึกผิด (guilt) ตามมา การเปรียบเทียบกับคนที่เหนือกว่าเรา (Upward Comparison) จะทำให้เรามีแรงผลักดันหรือความพยายามที่จะพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น (Self-improvement) แต่ถ้าคนที่เราเปรียบเทียบด้วยเหนือกว่าเรามากไป ก็อาจทำให้เรารู้สึกกลัวและไม่เป็นสุข (Threat)

 

การเปรียบเทียบกับคนอื่นแม้จะเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่เมื่อเข้าใจและยอมรับได้ว่า ในโลกของการลงทุนคนแต่ละคนต่างมีเป้าหมายในการลงทุนต่างกัน มีความสามารถในการรับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน และมีปัจจัยข้อจำกัดอื่น ๆ อีกมากมายที่เราไม่อาจรู้

 

สิ่งสำคัญ คือ การเก็บใจความสำคัญของการเปรียบเทียบไว้ว่าวัตถุประสงค์ที่แท้จริงคืออะไร แล้วพิจารณาด้วยตัวเอง หมั่นประเมินเป้าหมายการลงทุนและทำความเข้าใจตัวเอง (Self-evaluation) รู้จักที่จะให้อภัยและพอใจในผลลัพธ์จากความพยายามที่ผ่านมาของตัวเอง (Self-enhancement) ค่อย ๆ กระตุ้นตัวเองให้พัฒนาอยู่เสมอ (Self-development) สามสิ่งนี้ คือ หัวใจสำคัญของการเป็นนักลงทุนที่จะเติบโตไปได้ไกล

 

ลงทุนศาสตร์ – Investerest

ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE

 

พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์

 

อัพเดทล่าสุดเมื่อ :

เกี่ยวกับผู้เขียน

ลงทุนศาสตร์

ผมเขียนบทความเกี่ยวกับการลงทุนตั้งแต่เบื้องต้น เหมาะสำหรับผู้ลงทุนหรือผู้ที่มีความสนใจที่จะลงทุนที่รักหรือมีทีท่าว่าจะรักในศาสตร์ของการลงทุนเหมือนกัน