AI ปรับเปลี่ยนประสบการณ์อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างไร
นวัตกรรม AI กําลังกำหนดบทบาทใหม่ของการเดินทาง ธุรกิจในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว กําลังใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดําเนินงาน ด้านการบริหาร การบริการ รวมไปถึงการสร้างประสบการณ์ของลูกค้า และกระบวนการตัดสินใจ ความสามารถของปัญญาประดิษฐ์นั้น มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เนื่องจากการปรับใช้ AI สามารถช่วยประหยัดทรัพยากรอย่างเวลาและเงิน ในขณะเดี๋ยวกัน ก็สามารถกําจัดข้อผิดพลาดของมนุษย์ และยังช่วยให้สามารถดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
แม้ในช่วงเวลาที่การท่องเที่ยวต้องหยุดชะงัก จากการแพร่ระบาดใหญ่ของ COVID-19 เราก็ได้เห็นระบบนิเวศที่ขับเคลื่อนด้วย AI จากการบูรณาการระหว่างเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR) เพื่อสร้างประสบการณ์การเดินทาง โดยการจัดทำทัวร์เสมือนจริงบนแผนที่ออนไลน์ และยังมีรูปแบบการโต้ตอบ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่สมจริง ซึ่งช่วยให้นักเดินทางสามารถสํารวจจุดหมายปลายทางได้ โดยไม่ต้องเดินทางไปยังสถานที่นั้น ๆ อีกด้วย
ในขณะที่หลังจากหมดช่วงโควิด19 การท่องเที่ยวก็ยิ่งกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง ทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค เราได้เห็นเทคโนโลยี AI เพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น
– การใช้ระบบจดจําใบหน้าสำหรับการเช็คอินที่สนามบินและโรงแรม
– หุ่นยนต์ที่มีความสามารถ AI ถูกนำมาใช้ในการต้อนรับ การอํานวยความสะดวก และการทำความสะอาด โดยสนามบินบางแห่งยังนำหุ่นยนต์มาใช้ สำหรับการจัดการกับสัมภาระของลูกค้าอีกด้วย
– แชตบอต (Chatbot) หรือการโต้ตอบแบบอัตโนมัติ ช่วยให้นักเดินทางสามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดการจอง และความช่วยเหลือต่าง ๆ ที่พร้อมให้บริการผู้ใช้งานตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ส่วนปัญหาหรือคำถามที่ซับซ้อนขึ้น ก็จะยังคงมีมนุษย์เข้ามาช่วยเพิ่มเติมอยู่บ้าง
– ผู้ช่วยเสมือนเป็นอัลกอริทึม AI ที่ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย ในการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้ ตั้งแต่การตั้งค่าและประวัติการเดินทางที่ผ่านมา เพื่อนำเสนอคำแนะนําส่วนบุคคลสำหรับจุดหมายปลายทาง ที่พักและรูปแบบกิจกรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า
AI ยังถูกใช้วิเคราะห์ เพื่อกำหนดกลไกราคาผ่านประวัติการจองของลูกค้า ความต้องการของตลาดและปัจจัยภายนอก เช่นฤดูกาล สภาพอากาศ เทศกาลและเหตุการณ์สำคัญ ๆ ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการกำหนดราคาแบบเรียลไทม์ ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถปรับราคาเพื่อเพิ่มรายได้ และอัตราการเข้าพักในโรงแรมสูงสุดเท่าที่รองรับได้
นอกจากนี้ AI ยังถูกนำมาช่วยในการคาดการณ์ และแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับระบบขนส่ง ซึ่งเป็นการประเมินเหตุการณ์ล่วงหน้า เช่นการคำนวณความล่าช้าของเวลาบิน การแจ้งเตือนล่วงหน้า ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยลดความเสียหาย จากการหยุดชะงักทางยานพาหนะแบบกะทันหัน ยกตัวอย่างเช่น Lufthansa ใช้ AI เพื่อคาดการณ์ทิศทางลมของสนามบินซูริค ที่อาจส่งผลให้เที่ยวบินล่าช้าและถูกยกเลิก ซึ่ง AI ทำให้ Lufthansa สามารถทํานายทิศทางลมได้อย่างแม่นยํา 40% ส่งผลให้การทำงานมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ส่วนสนามบิน JFK ในนิวยอร์กซิตี้ก็นำ AI มาใช้วิเคราะห์เพื่อลดความล่าช้าภาคพื้นดิน การปรับปรุงนี้ช่วยประหยัดต้นทุนได้ 40 ล้านดอลลาร์ฯ ต่อปี
การผลักดัน AI สอดคล้องกับตลาดการท่องเที่ยวที่กำลังเติบโต ทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค อนาคตของ AI ในการเดินทางพร้อมที่จะมุ่งเน้นไปที่กระบวนการที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งปรับให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ บริษัทท่องเที่ยวยังสามารถใช้ข้อมูลเชิงลึกที่สร้างขึ้นโดย AI เพื่อลดความเสี่ยงและตัดสินใจอย่างชาญฉลาด เกี่ยวกับกลยุทธ์ทางการตลาดการและแผนการขยายธุรกิจ มีการคาดการ์ณว่าในปี ค.ศ. 2024 บริษัทการท่องเที่ยวชั้นนำส่วนใหญ่ จะจัดสรรงบประมาณด้านเทคโนโลยี ให้กับ AI ราว 33% ซึ่งแสดงถึงระยะต่อไปของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และเน้นย้ำถึงความสำคัญของ AI
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , และ WEBSITE
https://www.statista.com/statistics/1378046/ai-revenue-share-travel-companies-worldwide/
https://www.revfine.com/artificial-intelligence-travel-industry/
https://www.fool.com/investing/stock-market/market-sectors/information-technology/ai-stocks/ai-in-travel/
https://www.weforum.org/agenda/2023/12/how-is-ai-reshaping-the-travel-tourism/
https://www.bocasay.com/future-travel-ai-transforming-tourism/
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :