ชวนทำความรู้จัก Cristie's บริษัทประมูลชั้นนำจากอังกฤษ

ชวนทำความรู้จัก Cristie’s บริษัทประมูลชั้นนำจากอังกฤษ

Christie’s เป็นที่รู้จักกันดีในระดับสากลว่า เป็นสถาบันการประมูลชั้นนำระดับโลก โดยทำหน้าที่เป็น บริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งหมายความว่าเมื่อมีคนต้องการขายหรือซื้อ คริสตี้จะทำหน้าที่เป็นคนกลางในการทำธุรกรรมนั้น ผ่านการประมูลสาธารณะ หรือผ่านการขายแบบส่วนตัว ซึ่งนอกเหนือไปจากการจัดประมูลสินค้าหรูหรา ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะ งานออกแบบ นาฬิกา ไวน์ อัญมณี สุรา และอื่น ๆ แล้วนั้น Christie’s ยังคงดำเนินงานในด้านอื่น ๆ อีกด้วย

ตั้งแต่การจัดหาเงินทุนด้านศิลปะ ด้านการศึกษา ไปจนถึงด้านอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบันมีการจัดประมูลทั้งแบบออฟไลน์ และออนไลน์ รวมถึงมีสถานประกอบการ (physical presence) ในกว่า 46 ประเทศทั่วอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชียแปซิฟิก

โดยมีศูนย์กลางการค้าขายระหว่างประเทศที่สำคัญ ตั้งใน 5 เมืองใหญ่อย่าง นิวยอร์ก ลอนดอน ฮ่องกง ปารีส และเจนีวา นอกจากนี้ยังเป็นสถาบันประมูลระหว่างประเทศเพียงแห่งเดียว ที่ได้รับอนุญาตให้ซื้อขายในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ (เซี่ยงไฮ้)

ในปี ค.ศ. 2022 Christie’s ยังคงเป็นสถาบันประมูลที่อยู่ลำดับต้น ๆ ของตลาดศิลปะระดับโลก โดยมียอดขายราว 3.04 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็น 76 % ของส่วนแบ่งทางการตลาด ตามมาด้วยสถาบันการประมูลอย่าง Sotheby’s 24.0% (956.6 ล้านดอลลาร์) และ Phillips 0.01% (547,207 ดอลลาร์)

Christie’s ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1766 โดยนาย เจมส์ คริสตี้ (James Christie) ซึ่งเป็นผู้ขายและตัวแทนจัดจําหน่ายหนังสือ ครอบครัวคริสตี้ได้ดูแลกิจการ Christie’s จนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1973 เมื่อบริษัทได้จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน

ในปี ค.ศ. 1977 Christie’s ได้ทำการจัดประมูลครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือได้ว่าช่วงเวลานี้ มีความสำคัญต่อการพัฒนา และเติบโตในระดับสากลเป็นอย่างมาก ต่อมาในปี ค.ศ. 1996 ยอดขายของ Christie’s สูงกว่าสถาบันการประมูลเก่าแก่อย่าง Sotheby’s เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปีค.ศ. 1954 ทำให้ Christie’s ขยับขึ้นไปอยู่แนวหน้าของสถาบันการประมูลอื่น ๆ

การประมูลของคริสตี้ ครอบคลุมสินค้าหรูหรา รวมถึงสินค้าหมวดหมู่ศิลปะมากกว่า 80 ประเภท และมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 200 ดอลลาร์ไปจนถึงมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Christie’s ประสบความสำเร็จ ในการประมูลงานศิลปะเป็นอย่างมาก

โดยการประมูลขายที่มีมูลค่าสูงสุดและโด่งดังที่สุดของ Christie’s คือการประมูลภาพวาด Salvador Mundi ที่เป็นผลงานชิ้นเอกของ Leonardo da Vinci ซึ่งถูกขายไปในราคา 400 ล้านดอลลาร์ (450.3 ล้านดอลลาร์รวมถึงเบี้ยประกันภัยของผู้ซื้อ) และได้กลายเป็นภาพวาดที่แพงที่สุดเท่าที่ Christie’s เคยขายมา

และอีกหนึ่งตัวอย่างการประมูลของ Cristie’s ที่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับวงการตลาดศิลปะ คือการขายงาน NFT ที่มีชื่อว่า “Everydays: the First 5000 Days” สร้างสรรค์โดยศิลปิน Mike Winkelmann หรือชื่อในวงการคือ บีพเพิล (Beeple) ผลงานชิ้นนี้ ถือเป็นงานศิลปะดิจิทัลชิ้นแรก ที่ถูกนําเสนอในการประมูล และเป็นครั้งแรกของการประมูลที่ยอมรับสกุลเงินดิจิทัล

การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์การดำเนินงาน ทำให้ Cristie’s กลายเป็นสถาบันประมูลแห่งแรกของโลก ที่ได้ปูทาง และเปิดพรมแดนให้กับตลาดศิลปะดิจิทัล ซึ่งถือเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญ ที่ทำให้ Cristie’s ยังสามารถคงความเป็นสถาบันการประมูลระดับแนวหน้าของโลกได้