ธุรกิจ

RS เมื่อการขายของมาช่วยชีวิตยุคโควิด

RS เมื่อการขายของมาช่วยชีวิตยุคโควิด

RS เมื่อการขายของมาช่วยชีวิตยุคโควิด

 

หากพูดถึงบริษัทที่สามารถปรับตัวได้เร็วและแหวกแนวที่สุด RS อาจนับได้ว่าเป็นหนึ่งในบริษัทเหล่านั้น

 

เราอาจรู้จัก RS ในฐานะของบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเพลงมาช้านาน และรายได้หลักก็คงหนีไม่พ้นธุรกิจเพลง อย่างการขายเพลง ขายแผ่นอัลบั้ม หรือจัดคอนเสิร์ต แต่รู้หรือไม่ว่า ที่จริงแล้วสัดส่วนรายได้ที่มากที่สุดของ RS ไม่ได้มาจากธุรกิจเพลงอีกต่อไป

 

แต่มาจากธุรกิจพาณิชย์ (ขายของ) ธุรกิจที่สามารถเติบโตได้แม้ในวันที่เกิด COVID-19

 

 

 

 

ถ้าย้อนไปหลายปีก่อน ธุรกิจเพลงยังเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สามารถทำเงินได้ มีธุรกิจค่ายเพลงน้อยใหญ่เกินขึ้นเพื่อช่วงชิงนักร้องมากความสามารถให้อยู่ในสังกัดของตน เพราะยิ่งมีนักร้องในสังกัดมากเท่าไหร่ มีเพลงโดนใจมากเท่าไหร่ ย่อมหมายถึงการขายเพลงหรือจัดคอนเสิร์ตเพื่อสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้มากขึ้น

 

แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ธุรกิจเพลง (รวมถึงธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับสื่อ) ล้วนต้องเผชิญกับการมาถึงของอินเทอร์เน็ต ที่ทำให้ต้นทุนในการเข้าถึงดนตรีนั้นถูกลงมาก การฟังเพลงก็สามารถฟังผ่าน YouTube หรือแอปเพลงได้โดยแทบไม่ต้องเสียเงินสักบาท จึงไม่แปลกถ้าคนจะลดการซื่อเพลงมาฟังเหมือนยุคสมัยเก่า

 

ถ้าบริษัทเพลงแห่งใดก็ตามที่ยังคงทำธุรกิจในรูปแบบเดิมต่อไป ในไม่ช้าก็คงไม่อาจหลักเลี่ยงการขาดทุนได้ บริษัท RS เองก็รู้ถึงอุปสรรคข้อนี้ดี ต่อให้มีเพลงที่ดีในมือ มีสถานีโทรทัศน์ในมือ แต่ถ้าทำเงินไม่ได้ หาโฆษณามาลงไม่ได้ ทุกอย่างก็คือจบ

 

นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ RS หันมาสนใจธุรกิจที่เกี่ยวกับการขายของ เพราะในเมื่อตัวเองก็มีทั้งศิลปินชื่อดัง มีช่องทีวีของตัวเอง แล้วทำไมจะขายของให้กับลูกค้าเองไม่ได้กันเล่า?

 

 

 

งบการเงิน RS รายปี

 

ปี 2561
รายได้ 3,827 ล้านบาท
ค่าใช้จ่าย 3,311 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 516 ล้านบาท
สัดส่วนรายได้ธุรกิจพาณิชย์ 55.6%

 

ปี 2562
รายได้ 3,611 ล้านบาท
ค่าใช้จ่าย 3,248 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 363 ล้านบาท
สัดส่วนรายได้ธุรกิจพาณิชย์ 55.7%

 

ปี 2563

รายได้ 3,774 ล้านบาท
ค่าใช้จ่าย 3,246 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 528 ล้านบาท
สัดส่วนรายได้ธุรกิจพาณิชย์ 63.1%

 

 

 

 

เห็นได้ชัดว่า RS ไม่ได้ทำแค่ธุรกิจเพลงเพียงอย่างเดียวแล้ว เรียกได้ว่าแทบจะเป็นธุรกิจที่ขายของแบบเต็มตัว อีกทั้งบริษัทก็ยังได้ย้ายหมวดอุตสาหกรรมของตัวเองจากธุรกิจสื่อมาเป็นธุรกิจพาณิชย์ด้วย

 

แต่ความน่าสนใจในการปรับตัวของ RS ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น หากสังเกตในตัวเลขรายได้และกำไรสุทธิของปีล่าสุด จะเห็นว่าบริษัทมีทั้งรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นแม้จะมีเรื่อง COVID-19 เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะช่องทางการขายที่ RS ทำคือการขายผ่านโทรศัพท์และขายผ่านอินเทอร์เน็ต

ดังนั้น ต่อให้คนจะไม่สามารถเดินทางออกไปซื้อของได้เหมือนเดิม ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สามารถสั่งของผ่านโทรศัพท์หรือสั่งผ่านออนไลน์ได้ อีกทั้ง RS เองก็หาสินค้าใหม่ ๆ มาขายอยู่ตลอด ตั้งแต่เครื่องสำอางไปจนถึงอาหารสัตว์เลี้ยง จึงไม่แปลกที่สัดส่วนรายได้จากการขายของจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

 

และเมื่อรวมกับข้อได้เปรียบที่ RS มีทั้งดารานักร้อง รวมถึงช่องทีวีอยู่ในมือ ก็เรียกได้ว่า RS เป็นบริษัทขายของที่มีสื่ออยู่ในมือแบบครบวงจรเลยทีเดียว ก็ยิ่งทำให้ต้นทุนในการประชาสัมพันธ์ถูกกว่า ล่าสุด RS ก็ถึงขั้นจ้างโรงงานเพื่อผลิตสินค้าบางอย่างด้วยตัวเองแล้ว เพื่อทำให้อัตรากำไรสุทธิสูงขึ้น

 

เป็นธุรกิจที่ปรับตัวตามท่วงทำนองของผู้บริโภคได้อย่างลื่นไหลจริง ๆ

 

ลงทุนศาสตร์ – Investerest

ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE

 

พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์

 

อ้างอิง

คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ 2563 : https://www.set.or.th/set/pdfnews.do?newsId=16141163348301&sequence=2021021122

คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ 2562 : https://www.set.or.th/set/pdfnews.do?newsId=15821503401961&sequence=2020016727

เฮียฮ้อ รีแบรนด์ 40 ปี RS Group “ยุคนี้ปลาฉลาดกินปลาโง่” | The Secret Sauce EP.286 : https://www.youtube.com/watch?v=xWQRp9z_N8Y

 

อัพเดทล่าสุดเมื่อ :

เกี่ยวกับผู้เขียน

ลงทุนศาสตร์

ผมเขียนบทความเกี่ยวกับการลงทุนตั้งแต่เบื้องต้น เหมาะสำหรับผู้ลงทุนหรือผู้ที่มีความสนใจที่จะลงทุนที่รักหรือมีทีท่าว่าจะรักในศาสตร์ของการลงทุนเหมือนกัน