สรุปข้อมูลบริษัท Tesla : รถยนต์แห่งอนาคต ราคาหุ้นแห่งอนาคต
หากย้อนไปเมื่อสัก 80 ปีก่อน ชื่อของ Tesla ที่เปรียบได้กับคู่แข่งตลอดกาลของ Edison อาจจะเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องผู้คิดค้นระบบกระแสไฟฟ้าสลับ แต่ในปัจจุบัน ชื่อของ Tesla กำลังก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในโลกที่เกี่ยวกับไฟฟ้าอีกครั้ง แต่มาในรูปของบริษัทรถยนต์ที่ชื่อ Tesla
แม้จะเป็นบริษัทที่ก่อตั้งมาแค่ 16 ปี ซึ่งนับว่าอายุน้อยมากหากเทียบกับค่ายรถยักษ์ใหญ่ที่ก่อตั้งมานานนับทศวรรษ แต่เชื่อหรือไม่ว่า ยอดขายในปีล่าสุดของ Tesla ได้แซงหน้าบริษัทรถยนต์ทุกแห่งในอเมริกาเรียบร้อยแล้ว (ในกลุ่มของรถยนต์หรู)
เพราะนี่ไม่ใช่บริษัทรถยนต์ธรรมดา Tesla คือบริษัทผู้ผลิต “รถยนต์ไฟฟ้า” ที่กำลังจะเปลี่ยนอุตสาหกรรมรถยนต์ไปตลอดกาล
Tesla ก่อตั้งขึ้นในปี 2003 หลายคนอาจคิดกันว่าคนก่อตั้งคือ Elon Musk มหาเศรษฐีและนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นเจ้าของบริษัทในปัจจุบัน แต่แท้จริงแล้วผู้ก่อตั้งคือ Martin Eberhard และ Marc Tarpenning สองนักธุรกิจอเมริกันที่อยากจะพัฒนารถสปอร์ตซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า
หลังจากนั้นอีกหนึ่งปี ทั้งสองคนได้ชักชวน Elon Musk ให้เข้ามาร่วมลงทุนด้วย ตอนนั้น Musk เองก็เป็นเศรษฐีย่อมๆ คนหนึ่งแล้วหลังจากที่ขาย PayPal ระบบธนาคารออนไลน์ให้แก่ eBay และได้เงินมาร่วม 165 ล้านเหรียญ จึงไม่แปลกที่บรรดาธุรกิจเกิดใหม่จะเข้ามาหาคนที่มีเงินทุนมากมายเหมือนเขา ซึ่งคนที่ลงทุนก็มักจะลงเงินเพื่อแลกกับการถือหุ้นในบริษัท และปล่อยให้ผู้บริหารชุดเดิมทำงานต่อ
แต่ดูเหมือน Elon Musk จะชอบโครงการนี้มากเป็นพิเศษ เขาตัดสินใจลงเงินกับ Tesla กว่า 30 ล้านเหรียญ และเข้ามาเป็นประธานบริษัทในปี 2004 อันเป็นจุดเริ่มต้นตำนานของบริษัท Tesla
พอถึงปี 2010 บริษัทก็ใหญ่พอที่จะพาตัวเองเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ โดยช่วงนั้นมีรายได้รวมอยู่ที่ราวๆ 100 ล้านเหรียญ
ผ่านไปแค่ 8 ปีเท่านั้น รายได้ของบริษัทก็เติบโตขึ้นไปถึงกว่า 21,000 ล้านเหรียญ พร้อมกับราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นมาเกือบ 20 เท่านับตั้งแต่วันแรกที่จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่เชื่อหรือไม่ว่า นับตั้งแต่ที่ก้าวสู่การเป็นมหาชน บริษัทยังไม่มีกำไรสุทธิเลยแม้แต่ปีเดียว
ปี 2016
รายได้ 7,000 ล้านเหรียญ
ค่าใช้จ่าย 7,675 ล้านเหรียญ
ขาดทุนสุทธิ 675 ล้านเหรียญ
ปี 2017
รายได้ 11,759 ล้านเหรียญ
ค่าใช้จ่าย 13,720 ล้านเหรียญ
ขาดทุนสุทธิ 1,961 ล้านเหรียญ
ปี 2018
รายได้ 21,461 ล้านเหรียญ
ค่าใช้จ่าย 22,437 ล้านเหรียญ
ขาดทุนสุทธิ 976 ล้านเหรียญ
นั่นก็เพราะว่า ถึงแม้รถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทจะขายดีได้เทน้ำเทท่าขนาดไหน แต่ตัว Tesla เองก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงอยู่ โดยเฉพาะในส่วนของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร รวมถึงค่าเสื่อมราคา (บริษัทไหนต้องลงทุนในโรงงานและเครื่องจักรมากๆ จะมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้สูง) ซึ่งหากเทียบกับแบรนด์รถยนต์ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันอย่าง Toyota จะพบว่าค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะอยู่ที่ราวๆ 10% ของรายได้รวม และค่าเสื่อมราคาอยู่ที่ราวๆ 5% ของรายได้รวม ในขณะที่ค่าใช้จ่ายทั้งสองส่วนของ Tesla เมื่อเทียบกับรายได้แล้วอยู่ที่ 15% และ 10% ตามลำดับ จึงทำให้ Tesla มีผลรวมสุดท้ายของงบการเงินออกมาเป็นลบ
ถ้าเป็นหุ้นของบริษัทอื่นๆ ที่ผลประกอบการขาดทุนทุกปีขนาดนี้ ร้อยทั้งร้อยจะต้องมีราคาหุ้นที่ตกต่ำตามผลประกอบการของบริษัท แล้วทำไมราคาหุ้นของ Tesla จึงยังขึ้นไปสูงได้กว่า 20 เท่านับตั้งแต่วันแรกที่จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ ?
จริงอยู่ว่า ราคาหุ้นมักจะสะท้อนผลประกอบการของบริษัท แต่ในกรณีของ Tesla นั้น ดูเหมือนนักลงทุนจะให้ความสำคัญกับ “อนาคต” ของบริษัทไม่น้อยไปกว่าผลกำไรขาดทุนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต แม้บริษัทจะขาดทุนต่อเนื่อง แต่ Tesla ก็มียอดขายเพิ่มขึ้นทุกปีแบบก้าวกระโดด
นั่นแปลว่า การที่บริษัทขาดทุน ไม่ได้เป็นเพราะไม่มีคนซื้อรถยนต์สุดเท่ของบริษัทมาใช้ แต่เป็นเพราะค่าใช้จ่ายในองค์กรที่ยังสูงอยู่ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ต้องลงทุนสูงมาก
แต่ลองคิดดูว่า ถ้าถึงวันหนึ่งที่รถยนต์ Tesla เข้ามาตีตลาดรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลได้มากกว่านี้ ค่าใช้จ่ายต่อการผลิตรถ 1 คันย่อมลดลงตามหลักของการประหยัดจากขนาด (economy of scale) ถ้ารายได้ยังเติบโตได้ในระดับนี้ ถึงจุดหนึ่งสัดส่วนของค่าใช้จ่ายต่างๆ ย่อมลดลงเมื่อเทียบกับรายได้รวม และแน่นอนว่า Tesla ก็จะกลับมามีกำไรได้
Tesla จึงเป็นหุ้นที่นักลงทุนเข้าซื้อโดยให้ความสำคัญกับอนาคตมากกว่าอดีตพอสมควร มันอาจจะเสี่ยงไปเสียหน่อยที่เข้าลงทุนในหุ้นซึ่งมีผลประกอบการติดลบ แต่อย่าลืมว่า การขับรถที่ดีนั้นจะมองแต่กระจกหลังเพียงอย่างเดียวก็คงไม่ได้ เพราะกระจกหน้าก็สำคัญไม่แพ้กัน
กระจกหน้าของรถยนต์ Tesla จะสดใสหรือขุ่นมัว เราก็คงต้องติดตามกันต่อไป
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE
พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์
เอกสารอ้างอิง
Tesla, Inc. : britannica.com
Tesla Business Model : bstrategyhub.com
งบการเงิน Tesla : jitta.com
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :