เศรษฐกิจ

เยอรมนีกลับมายิ่งใหญ่ได้อย่างไรหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

เยอรมนีกลับมายิ่งใหญ่ได้อย่างไรหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

เยอรมนีกลับมายิ่งใหญ่ได้อย่างไรหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

 

สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่จบลงในวันที่ 8 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก [1] โดยเฉพาะประเทศฝ่ายอักษะที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำเยอรมนีถูกประณามอย่างหนักด้านการใช้ความรุนแรงในช่วงสงคราม [2] ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เยอรมนีถูกแบ่งเขตยึดครองออกเป็น 4 ส่วน โดยบริเตนใหญ่ครอบครองในฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ ฝรั่งเศสครอบครองในฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ สหรัฐอเมริกาครอบครองทางใต้ และสหภาพโซเวียตครอบครองฝั่งตะวันออก [3] ฝั่งที่ถูกยึดครองโดยบริเตนใหญ่ ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกาเรียกรวมกันเป็นฝั่งเยอรมนีตะวันตก ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ในขณะที่ฝั่งที่ถูกยึดครองโดยสหภาพโซเวียตนับเป็นเยอรมนีตะวันออก ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ [4]

 

สถานการณ์ในเยอรมนีหลังจากจบสงครามโลกครั้งที่ 2 ย่ำแย่อย่างมาก นอกจากจะถูกยึดครองเขตแดนแล้ว เยอรมนียังสูญเสียประชากรจำนวนมากไปในสงคราม ทหาร 3,500,000 คนถูกสังหารหรือเสียชีวิตในคุก ทหารอีก 5,000,000 คนได้รับบาดเจ็บ และทหารจำนวน 3,400,000 คนสูญหายหรือถูกจับขังคุก ในขณะที่ประชาชนเสียชีวิตมากถึง 780,000 คน [5] บ้านเรือนถูกทำลายมากถึงร้อยละ 70 [6] นอกจากนี้ เยอรมนียังต้องรับผิดชอบการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชาวยิวที่ดำเนินการโดยพรรคนาซีที่ส่งผลให้ชาวยิวเสียชีวิตราว 6,000,000 คน [7] ดูเหมือนว่าเยอรมนีไม่มีทางกลับมายิ่งใหญ่ได้เลย อย่างไรก็ตาม เยอรมนีใช้เวลาเพียง 45 ปีในการรวมฝั่งตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกันอีกครั้ง [8]

 

สงครามโลกครั้งที่ 2 ส่งผลให้คลังสินค้าและโรงงานถูกทำลาย ผู้คนขาดรายได้และเข้าสู่ภาวะอดอยาก สหรัฐอเมริกาต้องการตลาดกระจายสินค้า และต้องการฟื้นฟูเศรษฐกิจของยุโรป ดังนั้น ในปีค.ศ.1947 สหรัฐอเมริกาจึงทุ่มเงินมากถึง 13.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อเริ่มแผนการมาร์แชล หรือเรียกอย่างเป็นทางการว่าแผนงานฟื้นฟูยุโรป เศรษฐกิจเยอรมนีฝั่งตะวันตกเริ่มฟื้นตัวขึ้นช้า ๆ [9] และต่อมา ในปีค.ศ. 1950 Walter Eucken ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐศาสตร์ได้แนะนำแนวคิดเศรษฐกิจระบบตลาดและสังคม ซึ่งเน้นการค้าเสรีที่มีรัฐคอยควบคุมไม่ให้เกิดการผูกขาดทางการค้าโดยคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง [10]

เศรษฐกิจของเยอรมนีตะวันตกค่อย ๆ เติบโตขึ้นจนมีคำเรียกว่า “Wirtschaftswunder” ซึ่งหมายถึงปาฏิหาริย์ทางเศรษฐกิจ ในช่วงปีค.ศ.1950-1963 โรงงานในเยอรมนีตะวันตกเพิ่มขึ้นร้อยละ 185 แรงงานจากต่างชาติมากมาย ทั้งอิตาลีและตุรกีพากันเดินทางเข้ามาในเยอรมนีตะวันตก นับเป็นการเปลี่ยนแปลงภาพจำของเยอรมนี จากที่เคยเป็นดินแดนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ กลายเป็นดินแดนในฝันของแรงงานอพยพ [9] ต่อมา ในปีค.ศ.1990 หลังจากสหภาพโซเวียตสูญเสียอำนาจ เยอรมนีฝั่งตะวันออกได้กลับมารวมกับฝั่งตะวันตกอีกครั้ง ส่งผลให้เยอรมนีกลับมาเข้มแข็งทั้งในด้านกำลังคนและสภาพเศรษฐกิจ [8]

 

เยอรมนีกลับมารุ่งเรืองได้หลังสงครามโลกอีกครั้งด้วยการรับความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา รวมถึงนโยบายเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เยอรมนียังเติบโตอย่างเข้มแข็งจากมาตรการขจัดระบอบนาซี (Denazification) ที่เด็ดขาด ได้แก่ 1) การสั่งห้ามจัดตั้งพรรคนาซี 2) การห้ามแสดงสัญลักษณ์นาซีในที่สาธารณะ 3) การกำหนดให้ชาวเยอรมันต้องกรอกข้อมูลแสดงว่าตนเองมีส่วนร่วมในพรรคนาซีหรือไม่ และ 4) การสั่งให้ผู้ที่เคยเกี่ยวข้องกับพรรคนาซีต้องรับชมวิดีโอบันทึกภาพเหตุการณ์ที่แสดงถึงความโหดร้ายที่เกิดขึ้นภายในค่ายกักกันชาวยิว [11] แม้สิ่งที่เกิดขึ้นที่เยอรมนีสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จะโหดร้าย แต่การพัฒนาประเทศให้กลับมายิ่งใหญ่ได้นับเป็นสิ่งสำคัญที่แต่ละประเทศควรถอดบทเรียนเพื่อศึกษาต่อไปในอนาคต

 

ลงทุนศาสตร์ – Investerest

ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE

 

พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์

 

รายการอ้างอิง

[1] BBC. (2011). What happened to Germany after the War?. Retrieved from http://downloads.bbc.co.uk/schools/gcsebitesize/wjec/history/pdf/berlin_blockade.pdf

[2] BBC Bitesize. (n.d.d.). World War Two: What caused the war?. Retrieved from https://www.bbc.co.uk/bitesize/guides/z9s9q6f/revision/5

[3] Center for European Studies. (n.d.d.).THE END OF WWII AND THE DIVISION OF EUROPE. Retrieved from https://europe.unc.edu/the-end-of-wwii-and-the-division-of-europe/

[4] Britannica. (n.d.d.).The era of partition Allied occupation and the formation of the two Germanys, 1945–49. Retrieved from https://www.britannica.com/place/Germany/The-era-of-partition

[5] Britannica. (n.d.d.). Costs of the war Killed, wounded, prisoners, or missing. Retrieved from https://www.britannica.com/event/World-War-II/Costs-of-the-war

[6] The Guardian. (September 11, 2009). Rebuilding the world after the second world war. Retrieved from https://www.theguardian.com/world/2009/sep/11/second-world-war-rebuilding

[7] Taylor, A. (October 16, 2011). World War II: The Holocaust. Retrieved from https://www.theatlantic.com/photo/2011/10/world-war-ii-the-holocaust/100170/

[8] History.com Editors. (November 13, 2009). East and West Germany reunite after 45 years. Retrieved from https://www.history.com/this-day-in-history/east-and-west-germany-reunite-after-45-years

[9] Davis, M. (May 5, 2015). How World War II shaped modern Germany. Retrieved from https://www.euronews.com/2015/05/05/how-world-war-ii-shaped-modern-germany

[10] เรวัต ตันตยานนท์. (8 เมษายน 2558). Social Market Economy: เศรษฐกิจระบบตลาดและสังคม. สืบค้นจาก https://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/634136

[11] BBC Bitesize. (n.d.d.). World War Two and Germany, 1939-1945. Retrieved from https://www.bbc.co.uk/bitesize/guides/zwrfj6f/revision/5

 

อัพเดทล่าสุดเมื่อ :

เกี่ยวกับผู้เขียน

ลงทุนศาสตร์

ผมเขียนบทความเกี่ยวกับการลงทุนตั้งแต่เบื้องต้น เหมาะสำหรับผู้ลงทุนหรือผู้ที่มีความสนใจที่จะลงทุนที่รักหรือมีทีท่าว่าจะรักในศาสตร์ของการลงทุนเหมือนกัน