Michael Burry ชายผู้ทำนายวิกฤตเศรษฐกิจ

มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มองการณ์ไกลและความสามารถวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด จนทำให้พวกเขากลายเป็นตำนาน หนึ่งในนั้นคือ Michael Burry อดีตผู้จัดการกองทุน Hedge fund ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากการทำนายวิกฤตการเงินโลกในปี ค.ศ. 2008 เรื่องราวของ Burry เป็นที่รู้จักจากกลยุทธ์การลงทุนที่เป็นเอกลักษณ์และการคิดที่แปลกใหม่ซึ่งยังคงดึงดูดทั้งมืออาชีพและผู้ที่สนใจในโลกการเงิน

Michael Burry เกิดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 1971 ในเมืองSan Jose รัฐ California เขาแสดงให้เห็นความถนัดด้านตัวเลขและการวิเคราะห์และหลงใหลในด้านการเงินและเศรษฐศาสตร์ Burry เข้าเรียนที่ University of California, Los Angeles (UCLA) ซึ่งเขาได้รับปริญญาสาขาเศรษฐศาสตร์ ต่อมา เขาได้รับปริญญาทางการแพทย์จาก Vanderbilt University School of Medicine ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เขามีมุมมองที่ไม่เหมือนใครในโลกการเงินและการลงทุน

ในปี 2000 Burry ได้ก่อตั้ง Scion Capital ซึ่งเป็นกองทุน Hedge fund เขาเป็นที่รู้จักจากงานวิจัยอย่างละเอียดของเขาทำให้ตระหนักว่าตลาดที่อยู่อาศัยมีมูลค่าสูงเกินไปและกำลังใกล้จะล่มสลาย Burry ตระหนักถึงการผสมผสานที่เป็นพิษของการจำนอง Subprime ภาระหนี้ที่มีหลักประกัน (CDO) และสัญญาแลกเปลี่ยนสินเชื่อที่ผิดนัดชำระหนี้ที่กระตุ้นให้เกิดฟองสบู่ที่อยู่อาศัย โดยเขาได้ลงทุนอย่างกล้าหาญหลายครั้งในช่วงต้นปี 2000 เขาซื้อสัญญาแลกเปลี่ยนเครดิตเริ่มต้นสำหรับหลักทรัพย์ที่มีการจำนองค้ำประกัน โดยวางเดิมพันได้อย่างมีประสิทธิภาพว่าหลักทรัพย์เหล่านี้จะผิดนัดชำระหนี้ การเคลื่อนไหวที่ขัดแย้งกันนี้ดึงดูดความสนใจและความสงสัยอย่างมากจากเหล่านักลงทุน

การคาดการณ์ของ Burry เกี่ยวกับวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2008 เป็นไปตามคาด ฟองสบู่ที่อยู่อาศัยแตก นำไปสู่ผลกระทบแบบโดมิโนที่สะท้อนไปทั่วเศรษฐกิจโลก สถาบันการเงินเผชิญกับความสูญเสียครั้งใหญ่เนื่องจากตลาดจำนอง Subprime พังทลายลง และมูลค่าหลักทรัพย์ค้ำประกันก็ดิ่งลง Lehman Brothers หนึ่งในธนาคารเพื่อการลงทุนที่ใหญ่ที่สุด ได้ถูกฟ้องล้มละลาย ทำให้เกิดคลื่นกระแทกทั่วทั้งภาคการเงิน

วิกฤติดังกล่าวยังเผยให้เห็นข้อบกพร่องในระบบการเงิน เนื่องจากก่อนหน้านี้เครื่องมือทางการเงินที่ไม่ชัดเจน เช่น CDO ได้รับการเปิดเผยว่ามีความเสี่ยงสูงและเชื่อมโยงถึงกัน ผลกระทบจากวิกฤตดังกล่าวเกิดขึ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นตกต่ำ การว่างงานเพิ่มสูงขึ้น และรัฐบาลประเทศต่าง ๆ พากันพยายามดิ้นรนเพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจของตน

หลังจากเกิดวิกฤติทางการเงิน Burry ได้รับผลกำไรมหาศาล เขาได้ปิดกองทุน Hedge fund และเปลี่ยนความสนใจไปที่กิจการอื่น Burry ยังคงลงทุนในตลาดต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง และแสดงความสนใจอย่างมากในด้านต่าง ๆ เช่น สิทธิน้ำ พลังงานที่ยั่งยืน และการดูแลสุขภาพ มุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ของ Burry และตัวเลือกการลงทุนที่แหวกแนวของเขาเกิดจากการคิดอย่างอิสระและความกล้าที่จะท้าทายความรู้สึกของตลาดที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ความสำเร็จของ Burry เกิดขึ้นจากความสามารถของเขาในการตั้งคำถามบวกกับต้นทุนทางสติปัญญาของเขารวมถึงการศึกษาละเอียดต่าง ๆ อย่างรอบคอบเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจในทุกการลงทุนของเขานั่นเอง โดยรายละเอียดของการคาดการณ์ดังกล่าวอยู่ในหนังสือ “The Big Short” โดย Michael Lewis ในภายหลังได้ดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลออสการ์ หนังสือเล่มนี้เน้นย้ำถึงการแสวงหาความจริงอย่างไม่หยุดยั้งของ Burry และความเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ในกลยุทธ์การลงทุนของเขา แม้ว่าจะต้องเผชิญกับคำวิพากษ์วิจารณ์และความสงสัยก็ตาม