วิเคราะห์เจาะลึกข้อดีข้อเสีย กองทุน SSF กองทุนลดหย่อนภาษีที่จะมาแทน LTF
คลอดออกมาเป็นที่เรียบร้อย สำหรับกองทุน SSF (Super Saving Fund) กองทุนลดหย่อนภาษีน้องใหม่ที่จะมาแทนที่กองทุน LTF (Long Term Equity Fund) ที่กำลังจะยกเลิก และให้ใช้สิทธิประโยชน์ในปีนี้เป็นปีสุดท้าย
สรุปเงื่อนไข SSF และ RMF ปรับปรุงใหม่ที่ควรรู้
วิเคราะห์ ข้อดี – ข้อเสีย ของ SSF และ RMF เงื่อนไขใหม่
ข้อดี
1) มีกองทุนใหม่ SSF ให้ช่วยลดหย่อนภาษีได้ หลักจากตอนแรกที่หลายคนคิดว่าอาจจะไม่มีอะไรมาทดแทน การที่รัฐบาลยังออกนโยบายใหม่มาก็ถือได้ว่าเป็นข้อดี
2) SSF ลงทุนในสินทรัพย์ได้ทุกประเภท จุดนี้ถือว่าเป็นข้อดีมาก ๆ ของ SSF เพราะช่วยลดปัญหาเดิมที่ LTF ต้องลงทุนในหุ้นเป็นหลัก การกระจายสินทรัพย์อื่นได้เพิ่มความคล่องตัว ประยุกต์ใช้กับการวางแผนการเงินได้อย่างหลากหลาย และเลือกระดับความเสี่ยงให้เหมาะกับแต่ละคนได้มากขึ้น
3) เพดานซื้อของ SSF และ RMF ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน การปรับเพดาน % ตรงนี้จะช่วยให้คนที่มีรายได้น้อยลงสามารถเข้าถึงการลดหย่อนภาษีได้มากขึ้น จากเดิมที่หากจะลดหย่อนภาษี LTF หรือ RMF ได้เต็มพิกัด เราจะต้องมีเงินได้พึงประเมินสูงถึง 3,333,333 บาท แต่จากเงื่อนไขปัจจุบัน เพดานนี้จะลดเหลือ 666,666 บาท สำหรับกองทุน SSF และ 1,666,666 บาท สำหรับกองทุน RMF เท่านั้น
4) ทั้ง SSF และ RMF ไม่มีกำหนดการซื้อขั้นต่ำ ช่วยลดภาระเรื่องเงินจ่ายในช่วงตึงมือได้
ข้อเสีย
1) SSF ถือครองยาวมากถึง 10 ปีนับจากวันที่ซื้อ หรือ 10 ปีเต็ม ต่างจาก LTF ที่ถือครอง 7 ปีปฏิทิน หรือสามารถใช้ลูกเล่นได้เหลือเพียง 5 ปีเศษเท่านั้น ระยะเวลาที่ยาวนานขึ้นจึงทำให้ ผลตอบแทนจากการลดหย่อนภาษีหายไปครึ่งหนึ่งโดยเฉลี่ยต่อปี ยกตัวอย่างเช่น หากเรามีฐานภาษี 30% LTF ถือครอง 5 ปีเศษ จะได้ผลตอบแทนส่วนเพิ่มประมาณ 6% ต่อปี ในขณะที่ SSF ถือครอง 10 ปี จะได้ผลตอบแทนส่วนเพิ่มประมาณ 3% ต่อปี เท่านั้น
2) ยอดเพดานสูงสุดที่สามารถซื้อเพื่อลดหย่อนภาษีได้น้อยลง จาก 500,000 บาท ของ LTF เหลือเพียง 200,000 บาท ใน SSF ตรงนี้จะทำให้วงเงินในการลดหย่อนภาษีน้อยลง
3) คำนวณการลดหย่อนภาษีสูงสุดรวมกันระหว่าง SSF กับ RMF ในขณะที่ในอดีต คำนวณแยกกันระหว่าง LTF กับ RMF ทำให้วงเงินการลดหย่อนภาษีสูงสุดลดลงจาก 1,000,000 บาท เหลือเพียง 500,000 บาทเท่านั้น
สรุป
กองทุน SSF ถูกออกแบบมาให้ออม และลงทุนในระยะยาวจริง ๆ เพราะระยะการถือครองยาวนานถึง 10 ปี หากใครไม่ได้มีเงินเย็น และมีความตั้งใจจะออม หรือลงทุนระยะยาวอยู่แล้ว SSF อาจจะดูไม่ค่อยเหมาะนัก เพราะเงินไปจมนาน แต่ถ้าใครตั้งใจจะออม หรือลงทุนระยะยาวอยู่แล้วพอดี SSF จะเหมาะมาก เพราะมีนโยบายการลงทุนหลากหลาย และมีสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีได้ด้วย
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE
พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :