การเงิน

พลังที่ซ่อนอยู่ของคนที่มีบุคลิกเก็บตัว

พลังที่ซ่อนอยู่ของคนที่มีบุคลิกเก็บตัว

พลังที่ซ่อนอยู่ของคนที่มีบุคลิกเก็บตัว

 

สิ่งหนึ่งขัดเกลาเรามาตั้งแต่อายุยังน้อยคือ เราต้องเป็นผู้นำ หากมองดูที่ชั้นหนังสือที่เรียงรายมากมายจะพบว่าหนังสือกลุ่มหนึ่งที่ขายดีมากคือหนังสือการพัฒนาตัวเอง หลายครั้งคุณสมบัติสำคัญในการพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นคือการพูด การโน้มน้าวใจผู้อื่น เราถูกทำให้เชื่อว่าการเก็บตัวและพูดน้อยเท่ากับความขี้อาย และนั่นเป็นปัญหา แต่ Susan Cain เล่าให้เราฟังใน Ted Talk ที่ชื่อว่า “พลังของคนชอบเก็บตัว” หรือ “The power of introverts” ถึงเหตุผลว่าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบเก็บตัว คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมัน

 

สมัยเด็กของซูซานเป็นโลกแห่งการผจญภัย ผจญภัยไปในโลกของตัวอักษรและหนังสือ เมื่อปิดเทอมฤดูร้อนมาเยือน ซูซานจะเก็บหนังสือเข้ากระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ใช้เวลากับครอบครัวโดยมีหนังสือเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญ ซึ่งนั่นทำให้ซูซานมีความสุขอย่างมาก เพราะเธอได้ใช้เวลาเรียนรู้ไปกับเรื่องที่เธอสนใจ แต่แล้วทุกอย่างก็มาเปลี่ยนไปเมื่อเริ่มเข้าโรงเรียน ค่ายปิดเทอมฤดูร้อนมีกิจกรรมที่ให้ทุกคนตะโกนออกไปดัง ๆ พูดพร้อมกัน เด็กนักเรียนที่ไปเข้าค่ายถูกคาดหวังให้ร่าเริงเสียงดังและสนุกสนาน

 

ซูซานที่เดินทางไปพร้อมกับหนังสือกองใหญ่ถูกมองว่าเป็นเด็กที่มีพฤติกรรมน่ากังวล เพราะไม่สนุกเท่าที่ควร พูดน้อย ใช้เวลากับตนเองมากเกินไป ไม่แสดงออกถึงความเป็นหัวหน้าในหมู่นักเรียน ซูซานต้องเก็บหนังสือที่เธอตื่นเต้นจะอ่านมันไว้ในกระเป๋าเดินทาง ซ่อนไว้ใต้หมอน และออกไปทำกิจกรรม ด้วยความรู้สึกผิดว่าทำไมเธอถึงไม่สนุกกับกิจกรรมที่จัดขึ้นเท่ากับเพื่อนคนอื่น ๆ ทำไมเธอถึงเป็นคนพูดน้อย ทำไมเธอถึงไม่เป็นดาวเด่นและมีความเป็นผู้นำ

 

สิ่งหนึ่งที่คนเก็บตัวทำคือการฝืนทำในสิ่งที่ตนเองไม่ได้ต้องการ เพื่อยัดตัวเองเข้าไปกับกรอบบุคลิกภาพที่ควรจะเป็น หวังจะเติบโตไปให้ไกลในสายอาชีพ และลดทอนสิ่งที่ตนเองเป็นและต้องการลงไป เมื่อดูกันที่จำนวนประชากร พบว่าประชากรหนึ่งในสาม หรือมากไปถึงครึ่งหนึ่งของโลกมีบุคลิกเป็นคนเก็บตัว นั่นจึงหมายความว่าระบบที่พยายามกำจัดเวลาส่วนตัว ส่งเสริมให้ทุกคนเป็นคนแสดงออกและเข้าสังคมมาก คือความล้มเหลวต่อธรรมชาติของประชากรกลุ่มนี้

 

ลองนึกภาพโรงเรียนหรือสถานที่ทำงาน ปัจจุบันการจัดสถานที่ทางกายภาพก็เอื้อให้ผู้คนคุยกัน โต๊ะเรียนนั่งเป็นแบบกลุ่ม นักเรียนหันหน้าเข้าหากัน แม้กระทั่งการเรียนวิชาอย่างคณิตศาสตร์ที่เน้นไปที่การคิดคำณวนและใช้สมาธิ ในขณะที่การจัดสำนักงานก็เริ่มไปในรูปแบบของสำนักงานที่ไม่มีกำแพงกั้น ทุกคนหันหน้าเข้าหากัน คุย แลกเปลี่ยน เสียงดังรบกวนมากขึ้น สมาธิและการใช้เวลากับตัวเองลดลง

 

การมองว่าคนเก็บตัวไม่มีความเป็นผู้นำก็เป็นความคิดที่ผิด ผู้นำในอดีตอย่างอิลินอร์ รูสเวลต์ โรซ่า พาร์ค หรือคานธี คนเหล่านี้ก็เป็นบุคคลที่มีบุคลิกภาพแบบเก็บตัว พวกเขาไม่ได้พยายามกำกับคนอื่น หรืออยากโดดเด่น พวกเขาแค่อยู่ในจุดที่เป็นผู้นำเพราะเขาคิดว่าเขาทำในสิ่งที่ถูกต้อง

 

สิ่งที่ซูซานพยายามพูดถึงไม่ใช่การสร้างโลกที่เอื้อให้แต่คนที่มีบุคลิกแบบเก็บตัว แต่ต้องเป็นโลกที่ปล่อยให้ความหลากหลายของคนประเภทต่าง ๆ ได้โลดแล่น ต้องมีทั้งหยินและหยาง ซูซานไม่ได้กำลังจะบอกว่าทักษะทางสังคมไม่ใช่เรื่องสำคัญ ไม่ได้ต้องการจะบอกว่าให้ยกเลิกการทำงานกลุ่ม แต่ให้ให้อิสระมากขึ้นต่อคนที่มีความต้องการแตกต่างกัน ได้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับเขาเหล่านั้น

 

เราเริ่มเปลี่ยนแปลงมันได้ โดย หนึ่ง สนับสนุนความเป็นกันเองและปฏิสัมพันธ์ที่เป็นอิสระ สอง เรียนรู้สิ่งที่เราคิด ใช้เวลากับตัวเองบ้าง และสาม ลองมองย้อนกลับไปว่าอะไรเป็นความสนใจจริง ๆ ของคุณ อะไรเป็นสิ่งที่คุณอยากทำเมื่อว่าง

 

โลกต้องการสิ่งที่คุณรู้ ที่คุณเป็น เพราะคนเราไม่ได้มีแบบเดียว

 

ลงทุนศาสตร์ – Investerest

ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE

 

พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์

 

อัพเดทล่าสุดเมื่อ :

เกี่ยวกับผู้เขียน

ลงทุนศาสตร์

ผมเขียนบทความเกี่ยวกับการลงทุนตั้งแต่เบื้องต้น เหมาะสำหรับผู้ลงทุนหรือผู้ที่มีความสนใจที่จะลงทุนที่รักหรือมีทีท่าว่าจะรักในศาสตร์ของการลงทุนเหมือนกัน