Fast Fashion ก่อให้เกิดปัญหาอะไรบ้าง

คำว่า Fast แปลว่า เร็ว ส่วนคำว่าแฟชั่น เป็นคำทับศัพท์ที่หมายถึงความนิยมของคนส่วนใหญ่ในช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่ง ดังนั้นเมื่อนำสองคำนี้มารวมกัน จึงหมายความถึงแฟชั่นที่มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว นี่คือการวิเคราะห์คำว่า Fast Fashion อย่างง่าย ๆ ตามบริบทการแปล

หากลองค้นหาคำว่า Fast Fashion ในอินเตอร์เน็ต เพื่อทำความเข้าใจนิยามของคำว่า Fast Fashion ก็จะพบได้ว่า Fast Fashion ถูกอธิบายว่าเป็นแฟชั่นการแต่งกายที่เน้นราคาถูก มีสไตล์ทันกระแส การผลิตสินค้าแต่ละชิ้นจะผลิตเยอะมาก ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ที่แย่ไปกว่านั้นคือการใช้แรงงานอย่างเอารัดเอาเปรียบ ให้ทำงานในชั่วโมงที่มากเกินไป ผลตอบแทนน้อย และไม่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ

ในแง่สิ่งแวดล้อม ปัญหาของ Fast Fashion ได้แก่ การโยนทิ้งเสื้อผ้าที่ไม่อยากจะใส่แล้วไปได้ง่าย ๆ เพราะราคาที่ซื้อมาราคาไม่แพง แถมวัสดุที่ใช้ก็เป็นผ้าคุณภาพไม่ดี ใส่ไม่สบาย ชำรุดฉีกขาดง่าย ซึ่งมีการนำไปรีไซเคิลเป็นสัดส่วนน้อยมาก หากเทียบกับจำนวนขยะเศษผ้ามากมาย

นอกจากนั้น การขนส่งสินค้าจากประเทศหรือแหล่งที่ผลิต ไปยังภูมิภาคที่อื่น ๆ ก็อาศัยระบบโลจิสติกส์ ไม่ว่าจะเป็นการส่งสินค้าทางเครื่องบิน หรือทางเรือ ซึ่งก็เป็นพาหนะที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซ้ำร้ายไปอีกต่อ เมื่อสินค้าวางขาย ไม่ว่าจะออนไลน์หรือออฟไลน์ การจะซื้อหรือส่งของ ก็อาศัยการเดินทางด้วยพาหนะที่ผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เช่นกัน

ปัญหาอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้คนอาจนึกไม่ถึงคือ ปัญหามลพิษทางน้ำ เพราะเส้นใยที่ใช้ในการผลิตเสื้อผ้าที่พยายามควบคุมราคาให้ถูกที่สุด เป็นเนื้อผ้าที่มีไมโครพลาสติก เมื่อเสื้อผ้านั้นถูกซักล้าง ทำความสะอาด ไมโครพลาสติกเล็ก ๆ นั่นก็จะเป็นปัญหามลพิษทางน้ำไปอีกต่อนึง

สำหรับเรื่องใหญ่ที่คนพูดถึงเป็นเรื่องแรก ๆ เกี่ยวกับปัญหาของ Fast Fashion คือการเอารัดเอาเปรียบ ขูดรีดพนักงาน เพราะความพยายามที่จะผลิตสินค้าจำนวนมาก จึงต้องใช้คนจำนวนมาก และเน้นการทำงานที่เร็ว เพื่อให้สินค้าออกไปทันกระแสความนิยม โรงงานส่วนใหญ่จึงให้คนงานทำงานนานเกินไป มีเวลาพักผ่อนน้อย ทำงานในหน้าที่เดิมอยู่นาน ๆ ไม่ได้ลุกปรับอิริยาบถ แถมโครงสร้างโรงงานก็ไม่ได้ปลอดภัย สารเคมี สีย้อมผ้า ไมโครพลาสติก เหล่านี้ส่งผลกระทบต่อคนทำงานโดยตรง

ถามว่า แล้วเราจะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจาก Fast Fashion ได้อย่างไร

ประการแรกคือ ซักผ้าอย่างระมัดระวัง พยายามยืดระยะเวลาที่จะใช้เสื้อผ้าชิ้นหนึ่งให้นานขึ้น

ประการที่สอง หากมีความเสียหายบางอย่าง เช่น ซิปแตก กระดุมหลุด ควรนำไปซ่อม มากกว่าจะโยนทิ้ง

ประการที่สาม บริจาคเสื้อผ้าให้คนที่ต้องการ

ประการสุดท้าย แลกเสื้อผ้ากันใส่กับเพื่อน ๆ

Fast Fashion เป็นมหกรรมการผลิตมหึมา เราเป็นหนึ่งในหน่วยที่อยู่ในวงจรนี้ ถึงแม้เราจะเป็นแค่คนคนหนึ่งในสังคม แต่การตระหนักรู้ถึงปัญหา และการพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองเพื่อวงจรนี้ ก็เป็นจุดเริ่มต้นแรก ๆ ที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเราเอง