หรือสังคมสมัยใหม่จะทำให้ความเป็นเพื่อนถดถอย ? ทำความรู้จักกับ friendship recession

ไม่ว่าจะยุคสมัยใด ความเป็นเพื่อนย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องการ การได้เป็นเพื่อนกับใครสักคนส่งผลต่อชีวิตอย่างมากมายมหาศาล หากมีเพื่อนดี ย่อมนำมาซึ่งการมีคนเคียงข้างคอยรับฟัง คอยให้คำแนะนำอันเป็นประโยชน์ และถึงแม้จะมีเพื่อนที่ไม่ดี อย่างน้อยเราก็ย่อมได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างจากความสัมพันธ์นั้น อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ดูเหมือนว่า “ความเป็นเพื่อน” ที่เราเคยรู้จัก อาจไม่เกิดขึ้นได้ง่ายดายเหมือนในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ ผู้คนในสังคมสมัยใหม่อาจกำลังเผชิญกับภาวะความเป็นเพื่อนถดถอย หรือที่เรียกว่า friendship recession [1]

การกล่าวถึง “ภาวะความเป็นเพื่อนถดถอย” นั้น มีความเกี่ยวข้องกับจำนวน “มาก” หรือ “น้อย” อยู่ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ นิยามความมากหรือน้อยในความเป็นเพื่อนของแต่ละคนอาจมีความแตกต่างกัน สำหรับบางคน การมีเพื่อนเพียงคนเดียวดีกว่ามีเพื่อนหลายคนที่ไม่สนิทใจ หรือระดับความสนิทใจอาจไม่ต้องมากมาย แค่มีเพื่อนเที่ยวเล่นด้วยกันบ้างก็พอแล้ว ไม่ว่าแต่ละคนมีคำนิยามความเป็นเพื่อนอย่างไร หากพิจารณาจากผลสำรวจชาวอเมริกันในปี ค.ศ. 2021 ซึ่งนับเป็นช่วงที่การระบาดของโควิด-19 สงบลงบ้างแล้ว จะเห็นได้ชัดเจนว่า ชาวอเมริกันรู้สึกว่าเพื่อนสนิทมีจำนวนลดลง [2]

ความรู้สึกถึงภาวะความเป็นเพื่อนถดถอยนี้มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง จากผลการสำรวจผู้ใหญ่มากกว่า 2,000 คนในสหรัฐอเมริกา ผู้ชายที่พอใจในจำนวนเพื่อนที่มีอยู่มีจำนวนไม่ถึงครึ่ง ในขณะเดียวกัน ผู้ชายร้อยละ 15 ตอบการสำรวจว่าไม่มีเพื่อนสนิทอยู่เลย เมื่อเทียบกับผลการสำรวจในปี ค.ศ. 1990 แล้ว เท่ากับว่าผู้ชายมีจำนวนเพื่อนสนิทน้อยลงถึง 5 เท่า นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าผู้ชายมีแนวโน้มที่จะไม่พูดคุยกับเพื่อนในเรื่องอารมณ์ความรู้สึกส่วนตัว ในขณะที่ผู้หญิงเต็มใจแบ่งปันเรื่องราวที่เกี่ยวกับความรู้สึกได้มากกว่า [3]

จากที่กล่าวมานี้ อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงเองก็ได้รับผลกระทบจากสภาพสังคมหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยเช่นกัน ความสัมพันธ์แบบเพื่อนนั้นมีหลายรูปแบบ ทั้งการพบเจอกันแบบตัวต่อตัว การเจอกันแบบออนไลน์ สังคมหลังการแพร่ระบาดทำให้ผู้คนออกมาพบปะพูดคุยกันน้อยลง ในขณะที่ความสัมพันธ์แบบเพื่อนสำหรับผู้หญิงนั้นมักจะให้ความสำคัญกับการได้พบเจอกัน การสบตา จับมือ แตะไหล่ โอบกอด ล้วนช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แต่การพบกันในลักษณะนี้ก็น้อยลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกิดการระบาด [1]

แม้ว่าโควิด-19 จะลดระดับความรุนแรงลงไปแล้ว แต่สภาพสังคมก็ไม่มีวันกลับไปเหมือนก่อนการแพร่ระบาด ยิ่งไปกว่านั้น ความเจริญทางเทคโนโลยีก็ทำให้ผู้คนติดต่อกันทางออนไลน์มากขึ้น และอาจมีแนวโน้มที่จะมีเพื่อนเป็นแชทบอทหรือเอไอได้มากยิ่งขึ้น ความเคร่งเครียดในงาน การไม่มีเวลาให้กันอาจค่อย ๆ ทำให้ความเป็นเพื่อนถดถอยลงไป

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แม้สภาพสังคมที่เปลี่ยนไปอาจส่งผลให้ความเป็นเพื่อนที่ผู้คนมีให้กันลดน้อยลง ลงทุนศาสตร์หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านผู้อ่านจะยังคงรักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนคนสำคัญไว้อย่างดี หรือหากมีบางสิ่งที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไป ก็ขอให้ท่านสามารถซ่อมแซมแก้ไขฟื้นฟูความสัมพันธ์นั้นได้ทันเวลา เพราะความเหงาและความว้าเหว่นั้นอันตรายพอ ๆ กับการสูบบุหรี่ 15 มวนต่อวันเลยทีเดียว [1]