Martin Shkreli อาชญกรผู้ถูกเกลียดชังที่สุดในอเมริกา

Martin Shkreli ชายที่ถูกเกลียดมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา ชื่อของเขากลายเป็นประเด็นที่สร้างความสนใจและความโกรธแค้นจากสาธารณชนหลังจากที่ประกาศเพิ่มราคายา Daraprim ถึง 5,000 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มีการต่อต้านอย่างรรุนแรงจากทั้งสาธารณชนและผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองหลายคน

Martin Shkreli เกิดปี ค.ศ. 1983 ใน Brooklyn เขาเข้ารับการศึกษาในมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon ก่อนจะลาออกและผันตัวเข้าสู่แวดวงการลงทุนเมื่อได้เพียงอายุ 16 ปี เขาได้รับการฝึกงานจาก Cramer, Berkowitz & Co. ที่ได้รับการกำกับดูแลโดย Jim Cramer ผู้ดำรงตำแหน่ง Mad Money ของ CNBC การฝึกงานที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตในวงการการเงินของ Shkreli.

ปี 2004 Shkreli สำเร็จการศึกษาปริญญาธุรกิจจาก Baruch หลังจากนั้นเขาเข้าทำงานที่ UBS และ Intrepid Capital Management ก่อนที่จะกลายเป็นเจ้าของกองทุน MSMB Capital Management ในปี 2009 เขามักทำการ Short Stock หุ้นบริษัท Biotech พร้อม ๆ โจมตีบริษัทเหล่านั้นผ่านโซเชียลมีเดีย

ปี 2011 Shkreli ก่อตั้ง Retrophin ซึ่งเป็นบริษัททางเภสัชกรรมที่มุ่งเน้นการพัฒนาวิธีการรักษาโรคหายาก ปีเดียวกันนั้นเองเขาต้องเผชิญกับความสูญเสียในการลงทุนขนาดใหญ่จากการขายหุ้นของ Orexigen Therapeutics กองทุนของเขาสูญเสียเงินไปถึง 7 ล้านดอลลาร์ อีกทั้งยังได้รับความเสียหายในการเทรดอื่น ๆ อีก 1 ล้านดอลลาร์ ด้วยทรัพย์สินที่เหลือน้อยกว่า 60,000 ดอลลาร์ MSMB จึงหยุดการเทรดทั้งหมด

Shkreli ปกปิดการขาดทุนด้วยการส่งรายงานความคืบหน้าให้แก่นักลงทุนเกี่ยวกับ MSMB Capital เสมือนว่าบริษัทนั้นยังคงมีสถานะทางการเงินมั่นคงดี และยังนำเงินของ Retrophin มาชำระหนี้ให้กับ MSMB และหนี้ส่วนตัว อีกทั้งสร้างหลักฐานธุรกรรมปลอมเพื่อทำให้ดูเหมือน MSMB Capital ลงทุนใน Retrophin ไม่นานหลังจากนั้นนักลงทุนใน Retrophin ก็จับได้และถูกไล่ออกจากบริษัท

ปี 2015 Shkreli ก่อตั้ง Turing Pharmaceuticals และซื้อสิทธิ์ทางการค้าของยา Daraprim ยารักษาโรค toxoplasmosis ซึ่งเป็นการติดเชื้อปรสิตที่อันตรายอย่างยิ่งต่อสตรีมีครรภ์ ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง และผู้สูงอายุ ซึ่งอาจนำไปสู่การชัก ตาบอด ความพิการแต่กำเนิดในทารกของมารดาที่ติดเชื้อ และในบางกรณีอาจถึงแก่ชีวิตได้ ยาดังกล่าวถูกเพิ่มจากเม็ดละ 13.50 เหรียญไปที่ราคา 750 เหรียญในชั่วข้ามคืน Shkreli ก็กลายเป็นบุคคลที่ผู้คนต่างพากันก่นด่าในชั่วข้ามคืนเช่นเดียวกัน

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ใช้พื้นที่บนสื่อสังคมออนไลน์เพื่อปกปิดการเพิ่มราคาที่ไม่เป็นที่ยอมรับและหาความชอบธรรมให้กับการกระทำของเขาเอง และบริจาคเงินจำนวน 2,700 ดอลลาร์ ให้กับแคมเปญของBernie Sanders แต่เธอกลับปฏิเสธที่จะรับเงินและส่งเงินไปที่คลินิค HIV แทน สร้างความขุ่นเคืองใจให้ Shkreli อย่างมาก

ปี 2015 Shkreli ซื้อหุ้น KaloBios Pharmaceuticals ด้วยความตั้งใจที่จะเพิ่มราคาของยาที่ใช้ในการรักษาโรค Chagas ช่วงเดือนธันวาคมปีเดียวกันเขาถูกจับกุมเกี่ยวกับข้อกล่าวหาการทุจริตในหลักทรัพย์ เขาต้องลาออกจากตำแหน่ง CEO ของ Turing หุ้นของ KaloBios (KBIO) ที่เขาซื้อลงจำนวน 50% หลังจากจับกุม, โดยการหยุดการซื้อขายไปทั้งวัน ต้นปี 2016 Shkreli ถูกพบความผิดในข้อกล่าวหาทางการเงิน 3 กระทง และต้องเผชิญหน้ากับโทษที่สูงสุดถึง 20 ปี

ปัจจุบัน Shkreli ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำหลักถูกจำคุกเพียง 6 ปี 5 เดือน เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาฉ้อโกงหลักทรัพย์สองกระทงจากการหลอกลวงนักลงทุนกองทุนเฮดจ์ฟันด์ใน MSMB Capital Management และ MSMB Healthcare เกี่ยวกับผลการดำเนินงานทางการเงินของบริษัทที่เขาจัดการ

นอกจากนี้ เขายังถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานสมคบคิดฉ้อโกงหลักทรัพย์จากการปั่นหุ้นของ Retrophin ซึ่งเป็นบริษัทอื่นที่เขาสร้างขึ้นอีกด้วย จากคำพิพากษา Shkreli ถูกริบทรัพย์สินประมาณ 7.4 ล้านดอลลาร์และจ่ายค่าปรับ 75,000 ดอลลาร์ เขายังถูกบังคับให้ยึดทรัพย์สินส่วนตัวต่าง ๆ เช่น อัลบั้ม Wu-Tang Clan ไวน์หายาก เครื่องเข้ารหัส Enigma และภาพวาดของ Picasso หากจำเป็นเพื่อชดใช้ค่าใช้จ่ายในการคืนทรัพย์สิน