BEAUTY กับกำไรล่องหน | ลงทุนศาสตร์ Investerest.co

BEAUTY หรือ บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) ถือเป็นหุ้นที่แสนโด่งดังตัวหนึ่งในตลาดหุ้นไทย ช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ด้วยการเติบโตของกำไรระดับมหาศาล แถมราคาหุ้นก็วิ่งแบบทะลุฟ้า จาก 2 บาทขึ้นไป 20 บาท กลายเป็นหุ้นมหาชนที่หลายคนรัก แต่ช่วงหลัง BEAUTY เริ่มเปลี่ยนไป ราคาหุ้นทรงๆ ทรุดๆ รายได้และกำไรก็ไม่เติบโตเหมือนก่อน กลายเป็นเรื่องราวที่น่าจะเรียกได้ว่า BEAUTY และกำไรล่องหน

มหากาพย์ BEAUTY เริ่มต้นในช่วงปลายปี 2017 ถึงต้นปี 2018

จากปรกติที่รายได้ และกำไรของ BEAUTY จะเติบโตมหาศาลมาตลอด แต่ถึงวันหนึ่งก็เกิดการหยุดชะงัก ด้วยมรสุมรุมเร้าหลายอย่าง ทั้งการลดลงของนักท่องเที่ยวจีนที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลัก ทั้งเรื่องของการคุมเข้มจาก อย. ที่ทำให้บรรยากาศวงการเครื่องสำอางไม่สดใส รวมไปจนถึง สินค้าที่เคยขายดีมากๆ ที่เคยดังเป็นพลุแตกก็ไม่ดังเหมือนแต่ก่อนแล้ว

ราคาหุ้นที่เคยไปทำจุดสูงสุดค้างฟ้าไว้ที่ 23.70 บาท ก็ค่อยๆ ไหลลงไปเรื่อยๆ เด้งบ้าง ฟลอร์บ้าง แต่สุดท้ายก็มาทำจุดต่ำสุดที่ 5.40 บาท หรือเทียบเท่ากับมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่หายไปกว่า 77.21%

งบไตรมาส 1 ปี 2019 ก็ออกมาตอกย้ำอีกว่า ความกังวลของนายตลาด ไม่ใช่เรื่องผิดพลาดมากนัก

รายได้รวม ไตรมาส 1 ลดลง 39.36%
กำไรขั้นต้น ไตรมาส 1 ลดลง 45.65%
กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี ไตรมาส 1 ลดลง 74.79%
กำไรสุทธิ ไตรมาส 1 ลดลง 75.37%

ตัวเลขสำคัญของธุรกิจค้าปลีกอย่าง SSSG (Same Store Sales Growth) หรือ การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม ไตรมาส 1 นี้ก็ลดลงมากถึง 48.39%

คำชี้แจงหลักของบริษัทก็ยังคงมาจากปัจจัยเดิมที่ตลาดเคยกังวลก่อนหน้านี้

ทั้งงบการเงิน ทั้งสารพัดปัจจัยที่ยังรุมเร้าก็ทำให้นักลงทุนน่าจะยังกังวลกับหุ้นนี้ได้อีกพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงก่อนหน้านี้ BEAUTY เคยได้รับมุมมองว่าเป็นหุ้นที่เติบโตอย่างมาก ค่า PE ของหุ้นเคยขึ้นเทรดสูงถึง 50 – 60 เท่า พอภาพกลับเปลี่ยนเป็นตรงกันข้าม ราคาหุ้นจึงถูกซ้ำเติมจากการปรับลดค่า PE ได้มาก อย่างในปัจจุบัน ค่า PE ของหุ้นก็เทรดกันอยู่ที่ 10 กว่าเท่าเท่านั้น กลับกลายเป็นว่า แค่ปรับลด PE ลงอย่างเดียว มูลค่าหุ้นก็หายไปมหาศาล ไม่นับรวมกำไรที่ลดลงมากอีกด้วย

ไม่รู้ว่ากำไรของ BEAUTY จะฟื้นกลับมาอีกทีเมื่อไหร่ ใครที่สนใจลงทุนคงต้องพิจารณาถึงเหตุปัจจัยว่า กำไรของ BEAUTY จะล่องหนไปอีกนานเท่าไหร่กัน