วันนี้จะพาไปรู้จักค้าปลีกแห่งอนาคต ถ้าคุณเดาว่าห้างนี้ต้องเป็นร้านค้าออนไลน์ หรือเป็นห้างไร้พนักงาน หรือเป็นห้างที่ใช้โรบอตควบคุม คุณเดาผิดทั้งหมด เพราะ FRETAIL คือค้าปลีกแห่งอนาคต เนื่องจากชื่อของมันย่อมาจาก Future Retail และ Future แปลว่าอนาคต (ตลกไหม)
FRETAIL หรือ Future Retail Limited เป็นบริษัทจดทะเบียนอยู่ที่ตลาด The National Stock Exchange of India (NSE) ประเทศอินเดีย บริษัทประกอบธุรกิจค้าปลีกในประเทศอินเดียมีธุรกิจในเครือได้แก่ ไฮเปอร์มาเก็ตและซูเปอร์มาร์เก็ต Big Bazaar, Easyday Club, Food Hall และห้างเฉพาะทางขายอุปกรณ์ตกแต่งและซ่อมแซมบ้าน Hometown, eZone และ Fab Furnish โดยพื้นที่ขายของ Future Retail ทั้งหมดรวมกันมากกว่า 11 ล้านตารางฟุต ครอบคลุม 240 เมืองในประเทศอินเดีย และในแต่ละปีมีลูกค้ามาใช้บริการรวมกว่า 330 ล้านคน
รายได้และกำไรของ Future Retail ก็ดูมีอนาคตสมชื่อ
ปี 2014 รายได้ 17,794 ล้านรูปี ขาดทุน 3,792 ล้านรูปี
ปี 2015 รายได้ 68,451 ล้านรูปี กำไร 150 ล้านรูปี
ปี 2016 รายได้ 170,750 ล้านรูปี กำไร 3,682 ล้านรูปี
ปี 2017 รายได้รวม 6 เดือนแรก 91,888 ล้านรูปี กำไร 2,710 รูปี
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ค้าปลีกที่มาจากอนาคตแต่ธุรกิจก็ดูดีมีอนาคต
เพราะประเทศอินเดียเป็นประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตสูงมาก ส่วนหนึ่งมาจากจำนวนประชากรที่มากและรายได้ต่อหัวยังไม่เยอะ เทียบกับประเทศจีนที่ดูเป็นยักษ์ใหญ่เหมือนกัน ปัจจุบันจีนมีประชากรราว 1,379 ล้านคน มีรายได้ต่อหัวอยู่ที่ประมาณ 8,123.18 USD ต่อปีต่อคน ในขณะที่อินเดียมีประชากรราว 1,324 ล้านคน แต่มีรายได้ต่อหัวอยู่ที่ประมาณ 1,709.39 USD ต่อปีต่อคน เรียกได้ว่าแค่อินเดียสามารถเติบโตไปมีรายได้สักแค่ครึ่งหนึ่งของจีน GDP ของอินเดียก็เติบโตอย่างมหาศาลแล้ว และยิ่งประชาชนมีรายได้ต่อหัวสูงมากขึ้น จำนวนชนชั้นกลางจะเพิ่มมากขึ้น แล้วจะส่งผลให้ภาคบริโภคภายในประเทศเติบโตซึ่งเป็นผลดีโดยตรงกับอุตสาหกรรมค้าปลีก อย่างที่เคยเกิดกับประเทศไทยที่หุ้นค้าปลีกเติบโตอย่างมากมายมหาศาลในช่วงประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมา
ในปี 2017 ตลาดหุ้นอินเดียเองก็ถือว่าเป็นตลาดหุ้นหนึ่งของโลกที่ให้ผลตอบแทนดีมากถ้าเทียบในระดับโลก โดยตลาดหุ้นอินเดียให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 27.8% ในขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นโลก MSCI World ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 20.3% ในขณะที่ตลาดหุ้นประเทศไทย SET index ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 13.7%
ปัจจุบัน ราคาหุ้น Future Retail ปิด ณ สิ้นปี 2017 อยู่ที่ 524.85 รูปี เทียบเท่ากับมูลค่ากิจการตามราคาตลาดที่ 263,462 ล้านรูปี หรือประมาณ 131,731 ล้านบาทไทย เทียบกับ CPALL ของไทยที่ปิดปี 2017 อยู่ที่ 77 บาท หรือมูลค่ากิจการที่ 691,698 ล้านบาท โดย Future Retail ซื้อขายกันอยู่ที่ PE 48.04 เท่า ในขณะที่ CPALL ซื้อขายกันอยู่ที่ PE 37.02 เท่า
อินเดียมีศักยภาพที่จะกลายเป็นประเทศที่มีการเติบโตของ GDP อย่างมากมายเหมือนอย่างจีนที่เกิดขึ้นผ่านมาตั้งแต่การปฏิรูปเศรษฐกิจ สิ่งสำคัญคือใครจะเป็นผู้ได้ประโยชน์จากการก้าวกระโดดของดินแดนภารตะในครั้งนี้บ้าง
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE
พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :