ส่องงบ แหลมเกต อินฟินิท และดราม่าเวาเชอร์

หากพูดถึงร้านอาหารที่ดังมากๆ เรื่องธุรกิจ แหลมเกต อินฟินิท น่าจะเป็นอีกชื่อหนึ่งที่ติดเข้ามาในโผ แต่ประเด็นที่ติดเข้ามาอาจจะแตกต่างจากร้านอื่น เพราะร้านอาหารนี้ มีปัญหาดราม่าเรื่องการขายเวาเชอร์ แต่ไม่สามารถใช้บริการได้ จนต้องทำเรื่องคืนเงิน แต่ก็ยังคาราคาซังไม่จบสิ้น วันนี้ลงทุนศาสตร์จึงขอพาไป ส่องงบ แหลมเกต อินฟินิท ว่าในเชิงการเงินแล้ว บริษัทนี้มีภูมิหลังอย่างไรบ้าง

ขอเท้าความถึงดราม่าแหลมเกตเสียหน่อย

ประเด็นคือ แหลมเกต อินฟินิต เป็นร้านอาหารทะเลในกรุงเทพที่รีแบรนด์มาจากร้านอาหารทะเลชื่อดังในชลบุรี ช่วงแรกเปิดร้านขายแบบบุฟเฟ่อะลาคาทแล้วขายดิบขายดีมาก ราคาเริ่มต้นประมาณ 777 บาท ต่อจากนั้นก็ย้ายสาขามาเรื่อย และเริ่มทำร้านหรูขึ้นเรื่อยๆ จนสาขาล่าสุดที่ Show DC ทำเป็นเหมือนโรงละคร อลังการงานสร้างมาก

ประเด็น คือ ระหว่างทาง แหลมเกต อินฟินิท ขายเวาเชอร์มาตลอด

จากราคาเต็ม 777 บาท ก็ลดลงมาเรื่อยๆ ไป 555 บาท ไป 350 บาท จนท้าย ใบละต่ำกว่า 100 บาทก็มี แต่คนซื้อเวาเชอร์กลับเจอปัญหา คือ ร้านจองแทบไม่ได้ หรือจองได้ก็มักจะถูกยกเลิก ทำให้ใช้เวาเชอร์ไม่ทัน เวาเชอร์หมดอายุ เกิดกระทู้ดราม่าจำนวนมากในพันทิป นอกจากนี้ยังมีคนรวมตัวกันไปเรียกร้องกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อขอเงินคืน แต่เรื่องราวก็คาราคาซัง ยังไม่เสร็จสิ้นเสียที

ลองมาดูงบกำไรขาดทุน ปี 2016 – 2017 กันก่อน

ปี 2016
รายได้ 10,823,437.42 บาท
ขาดทุนสุทธิ 8,532,069.79 บาท

ปี 2017
รายได้ 19,706,520.48 บาท
กำไรสุทธิ 86,253.87 บาท

สังเกตว่าปี 2016 บริษัทขาดทุนหนักมาก คิดเป็นอัตราขาดทุนสุทธิสูงถึง 78.80% ช่วงปี 2017 เป็นช่วงที่บริษัทเริ่มขายเวาเชอร์ช่วงแรกๆ รายได้ของบริษัทกลับมาสูงขึ้นเกือบ 100% อาจจะเป็นทั้งส่วนของคนกินที่เยอะขึ้นจากการขายเวาเชอร์กระตุ้น รวมไปถึงลูกค้าที่ซื้อเวาเชอร์แต่ใช้ไม่ทัน บริษัทก็สามารถรับรู้เป็นรายได้ด้วยเช่นกัน ปี 2017 บริษัทจึงพลิกมาเป็นกำไรได้จางๆ

งบแสดงฐานะทางการเงิน ปี 2016 – 2017

ปี 2016
สินทรัพย์รวม 12,051,377.60 บาท
หนี้สิน 19,583,447.39 บาท
ส่วนของผู้ถือหุ้น -7,532,069.79 บาท

ปี 2017
สินทรัพย์ 10,256,813.04 บาท
หนี้สิน 13,702,628.96 บาท
ส่วนของผู้ถือหุ้น -3,445,815.92 บาท

ข้อสังเกตแรก คือ ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทติดลบ 2 ปีติดกัน สถานะทางการเงินของบริษัทค่อนข้างตกอยู่ในภาวะลำบาก มีโอกาสจะล้มละลายสูงมาก หากไม่เพิ่มทุน ส่วนสินทรัพย์มากกว่า 80% ก็ไปอยู่ที่ ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ ตรงนี้อาจจะสะท้อนว่าบริษัททำสถานที่ในสัดส่วนที่เยอะ เมื่อเทียบกับเงินบริษัท หนี้สินเกือบ 100% เป็นหนี้สินหมุนเวียนหมด อาจจะมีทั้งเงินกู้ และเงินขายเวาเชอร์ ตรงนี้ก็แสดงความตึงตัวทางการเงินได้ดี เพราะหนี้สูงมาก และมีภาระต้องรีบเคลียร์ในระยะเวลาอันสั้น

เห็นแบบนี้ก็เรียกได้ว่าเหนื่อยทีเดียว โดยส่วนตัวก็เอาใจช่วยให้พลิกฟื้นธุรกิจได้ เพื่อที่จะได้สามารถนำเงินมาชำระคืนทุกฝ่าย และทุกคนจะได้ผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ด้วยดี