ธุรกิจ

Life of Sugar การเดินทางของความหวาน

Life of Sugar การเดินทางของความหวาน

Life of Sugar การเดินทางของความหวาน

 

การเสพติดน้ำตาลมีประวัติศาสตร์มายาวนานนับร้อยปี นับตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของประวัติศาสตร์มนุษย์ น้ำตาลได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน โดยในยุคเริ่มต้นของอเมริกานั้น น้ำตาลไม่ได้มีในปริมาณมากนัก นัก ประวัติศาสตร์ค้นพบหลักฐานสำคัญทางด้านทันตกรรมของศพร่างหนึ่ง ที่มีอายุมากกว่า 300 ปี พบว่า สภาพฟันที่ผุพังหรือหลุดหายไปบางส่วน อาจแสดงถึงการบริโภคน้ำตาล หรือติดหวานอย่างหนัก สามารถบ่งชี้ได้ว่าฐานะทางการเงินของคนเหล่านั้น เรียกว่าดีเลยทีเดียว เนื่องจากน้ำตาลในสมัยนั้น ถือว่าเป็นสิ่งหรูหรา นักประวัติศาสตร์จึงมักพบหลักฐานเหล่านี้ กับร่างของบุคคลที่มีฐานะสูงศักดิ์และร่ำรวยเงินทอง

 

การค้นพบโลกใหม่ ทำให้เกิดการปฏิวัติการบริโภคน้ำตาล อาณานิคมของยุโรปได้ก่อตั้งสวนน้ำตาลขึ้นในทะเลแคริบเบียน โดยใช้ชาวแอฟริกันที่เป็นทาสมาเพาะปลูกและแปรรูปพืชผล ด้วยการผลิตที่เพิ่มขึ้น น้ำตาลจึงมีราคาไม่แพงมากขึ้น และเข้าถึงได้สำหรับคนจำนวนมาก ซึ่งนำไปสู่การเสพติดน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นอย่างกว้างขวาง

 

ในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรม ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และการขนส่งได้กระตุ้นให้เกิดการค้าน้ำตาลมากขึ้น น้ำตาลไม่ได้เป็นสิ่งฟุ่มเฟือยที่สงวนไว้สำหรับชนชั้นสูงอีกต่อไป แต่กลายเป็นส่วนประกอบหลัก ในอาหารของชนชั้นแรงงาน การพัฒนาโรงกลั่นน้ำตาล ทำให้สามารถผลิตน้ำตาลทรายขาวได้ ซึ่งมีเสน่ห์ดึงดูดมากยิ่งขึ้นเนื่องจากมีรูปลักษณ์ที่บริสุทธิ์ และรสชาติที่เหนือกว่า

 

ในสหรัฐอเมริกา เมื่ออุตสาหกรรมการเพาะปลูกหัวบีทเติบโตขึ้น น้ำตาลหาง่าย จึงทำให้ราคาของมันลดลง ผู้คนสามารถซื้อหาและเข้าถึงน้ำตาลได้มากขึ้น อุตสาหกรรมน้ำจึงเริ่มต้นเมื่อ สหรัฐอเมริกาได้ทำสัญญากับฮาวาย ในปี ค.ศ. 1876 เพื่อผลิตน้ำตาลที่ให้กับประชาชนอเมริกัน บริษัทอาหารรวมถึงผู้ผลิตลูกกวาดและขนม ก็เริ่มนำน้ำตาลใส่ลงในผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น โดยในปี 1897 ชาวอเมริกันบริโภคช็อคโกแลตนมกันมากกว่า 26 ล้านปอนด์ต่อปี อุตสาหกรรมขนมและอาหารเติบโตมากขึ้น รวมถึงอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ก็พลอยเติบโตกันไปด้วย

 

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีข้อห้ามไม่ให้บริโภคน้ำอัดลมที่มีรสหวาน แต่เมื่อข้อห้ามดังกล่าวสิ้นสุดลง น้ำอัดลมรสหวาน ก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งอย่างรวดเร็ว และยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน

 

ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์การบริโภคน้ำตาล เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากน้ำตาลถูกจำกัดการบริโภค เนื่องจากพืชสวนไร่นาจำนวนมาก ถูกเผาและเสียหายจากการสู้รบในสงคราม อีกทั้งยังถูกทำลายด้วยความตั้งใจ เพื่อหวังตัดเสบียงและสายการผลิตของศัตรู อีกทั้งน้ำตาล ยังเป็นที่ต้องการในการผลิตยาฆ่าเชื้อ และวัตถุระเบิดเพื่อใช้สงคราม เรียกได้น้ำตาลนั้นขาดแคลนเลยทีเดียว

 

เมื่อสงครามโลกสิ้นสุดลง ยอดขายน้ำตาลเพิ่มขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากการบริโภคน้ำตาลเพิ่มขึ้น น้ำตาลส่วนใหญ่ที่บริโภคในปัจจุบัน จะอยู่ในรูปของน้ำเชื่อมข้าวโพดที่มีฟรุกโตสสูง หรือ Hight Fructose Corn Syrup (HFCS) ซึ่งเป็นสารให้ความหวานที่ มีราคาไม่แพงและมีปริมาณมาก ซึ่งใช้ในการปรุงรสอาหารและเครื่องดื่มหลายชนิด

 

การเสพติดน้ำตาลพุ่งสูงขึ้นใหม่ จากการโหมกระหน่ำทำการตลาดแบบมวลชน บริษัทอาหารผลิตน้ำหวานและนำอัดลมนานา ชนิดเข้าสู่ตลาดผู้บริโภคโดยมุ่งเป้าไปที่เด็ก ๆ สิ่งเหล่านี้ ล้วนสร้างความอยากและเสพติดน้ำตาลในแบบไม่รู้จบไปตลอดชีวิต

 

การโฆษณาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ซีเรียลเคลือบน้ำตาล น้ำตาล น้ำอัดลม และของขบเคี้ยวแปรรูปกลายเป็นเรื่องปกติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ นำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการบริโภคน้ำตาลในหมู่คนรุ่นใหม่เพิ่มมากขึ้น

 

ลงทุนศาสตร์ – Investerest

ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , และ WEBSITE

 

อ้างอิง
https://blogs.ifas.ufl.edu/wakullaco/2019/02/22/a-brief-history-sweet-addiction/
https://www.smithsonianmag.com/history/unsavory-history-sugar-american-craving-180962766/
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6234835/

 

อัพเดทล่าสุดเมื่อ :

เกี่ยวกับผู้เขียน

ลงทุนศาสตร์

ผมเขียนบทความเกี่ยวกับการลงทุนตั้งแต่เบื้องต้น เหมาะสำหรับผู้ลงทุนหรือผู้ที่มีความสนใจที่จะลงทุนที่รักหรือมีทีท่าว่าจะรักในศาสตร์ของการลงทุนเหมือนกัน