หุ้น Netflix ดิ่งลงต่ำสุดในรอบห้าปี บอกอะไรเราได้บ้าง

เมื่อเร็ว ๆ นี้หลายคนคงได้ยินข่าวที่หุ้นของบริษัท Netflix ดิ่งลงสู่จุดต่ำสุดในรอบห้าปีโดยร่วงลงถึง 35.13% เหตุการณ์นี้เรียกได้ว่าเป็นข่าวใหญ่อยู่ไม่น้อย เพราะ Netflix นั้นถือได้ว่าเป็นแอปพลิเคชันสตรีมมิงที่ใหญ่ (ผู้ใช้บริการ200ล้านรายทั่วโลก) และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา และเคยได้รับการจัดอันดับว่าเป็นหนึ่งในบริษัทสตรีมมิงที่ผู้คนชื่นชอบมากที่สุด

ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้มีการเปิดเผยถึงผลประกอบการของ Netflix ที่ดูไม่ค่อยจะดีนัก เมื่อยอดผู้ติดตามนั้นลดลงกว่าราว ๆ 200,000 บัญชี ในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นการลดลงต่ำสุดของจำนวนผู้ใช้บริการในรอบ 10 ปีและมีโอกาสที่จำนวนยอดผู้ใช้บริการรวมทั่วโลกอาจจะลดลงได้ถึงสองล้านคนในไตรมาสปัจจุบัน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นต่อศักยภาพในการเติบโตของบริษัทในระยะยาวมีความสั่นคลอน

หนึ่งในสาเหตุสำคัญคือการที่ปัจจุบัน Netflix มีจำนวนคู่แข่งทางธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Disney + หรือ HBO Max เป็นต้น รวมไปถึงการที่ช่วงหลังมานี้เป็นช่วงคลายล็อกดาวน์จากสถานการณ์โรคระบาดโควิด – 19 ในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้ผู้คนต่างใช้เวลาบนแพลตฟอร์มดิจิทัลน้อยลง ส่งผลให้ยอดผู้ชมบน Netflix ในช่วงเวลานี้นั้นน้อยกว่าช่วงที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ยังเป็นผลเกี่ยวเนื่องมาจากสถานการณ์โลก ไม่ว่าจะเป็นการเกิดสภาวะเงินเฟ้อทำให้ผู้คนต่างพยายามควบคุมรายจ่ายโดยการลดการบริโภคสิ่งที่ไม่จำเป็นหรือฟุ่มเฟือยลง หรือแม้แต่สถาณ์การสงครามยูเครน – รัสเซีย ที่ทำให้ Netflix ต้องถอนการให้บริการในประเทศรัสเซียออก เรียกได้ว่าทำให้ยอดผู้ใช้บริการจากฝั่งยุโรปตะวันออกหายไปเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน

ซึ่งนักวิจารณ์หลาย ๆ คนต่างก็ออกมากล่าวว่าการที่ผลประกอบการของบริษัทไม่ดี อาจจะทำให้ Netflix มีการแก้เกมทางธุรกิจโดยเบนเข็มมาที่ฝั่งผู้บริโภค จากการที่โดยปรกติแล้วมีการอนุญาตให้แชร์บัญชีผู้ใช้ได้ ก็อาจจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบโดยการไม่สามารถที่จะเชื่อมบัญชีผู้ใช้แบบหลายคนได้ หรือการพยายามเพิ่มปริมาณโฆษณาให้มากขึ้นและอาจจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบแพ็คเกจการให้บริการเพื่อเพิ่มช่องทางรายได้เข้าสู่บริษัทเพิ่ม ซึ่งในส่วนนี้ก็จะกลายเป็นการเพิ่มต้นทุนในฝั่งของผู้บริโภคไปโดยปริยาย ทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างมองว่านี่ไม่ใช่ทางออกในระยะยาวที่ดีนักต่อบริษัท เพราะอาจจะยิ่งทำให้ผู้บริโภคเลือกที่จะหยุดใช้บริการแบบถาวรก็เป็นได้

เหตุการณ์นี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งบทเรียนของนักลงทุนในสาย Expectation ที่อาจจะมองว่าหุ้น Netflix ที่มีการเติบโตที่ดีมาโดยตลอดและก็น่าจะเติบโตได้ดีต่อไปเรื่อย ๆ ในอนาคตแบบไม่มีอะไรมากระทบ แต่กลับกลายเป็นว่าจากเมื่อปลายปีที่แล้ว (ค.ศ.2021) ฐานลูกค้าของ Netflix ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเพียงแค่ระยะเวลาสามเดือนแรกในปีถัดมา (ค.ศ.2022) ลูกค้าของNetflixกลับลดลงไปดื้อ ๆ เสียอย่างนั้น แสดงให้เห็นว่าในทุกธุรกิจย่อมมีโอกาสที่จะถูก Disrupt ได้อยู่เสมอ ๆ