PERNOD RICARD ผู้ผลิตไวน์และสุราพรีเมียมแห่งฝรั่งเศส
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เองก็เป็นเครื่องดื่มคลาสสิกในการละลายพฤติกรรม และเป็นเครื่องดื่มสำหรับการเข้าสังคมที่มีช่วงราคาที่กว้าง และหลากหลายชนิดให้เลือกสรร แต่ก็ทำให้มึนเมาด้วยเช่นกัน
และปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า ตอนที่เราเดินผ่านร้านขายสุรา หรือแม้แต่การได้ไปงานเลี้ยงที่มีสังสรรค์ร่ำสุราเราคงสังเกตเห็นแอลกอฮอล์แบรนด์ ABSOLUT, CHIVAS REGAL, HAVANA CLUB, MARTELL, THE GLENLIVET ที่ถูกบรรจุลงในบรรจุภัณฑ์แสนเรียบหรูมีคุณค่า ผ่านตามาบ้างไม่มากก็น้อย
PERNOD RICARD เป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญและโชกโชนในธุรกิจนี้ และเป็นเจ้าของแบรนด์แอลกอฮอล์ที่กล่าวมาด้านบนทั้งหมด โดยบริษัทนี้ก่อตั้งมาแล้วเพียง 48 ปีเท่านั้น จากการรวมตัวกันของ 2 บริษัทรุ่นคุณปู่ทวดอย่าง Pernod Fils และ Ricard ซึ่ง 2 บริษัทนี้ ก็นับว่าเป็นบริษัทสุราที่มีอายุมาแล้วเกือบ 100 ปีทั้งสิ้น โดย Pernod Fils ถูกก่อตั้งเมื่อปี 1805 และ Ricard ที่ถูกก่อตั้งตอนปี 1932
แม้ว่าธุรกิจสุราและไวน์จะดูเป็นธุรกิจที่ดูโบราณ บริษัทก็มีกลยุทธ์การเติบโตในแบบของตัวเองเหมือนกันครับ ซึ่งหลัก ๆ แล้วมากจากการเข้าซื้อกิจการนั่นเอง
เมื่อ PERNOD RICARD มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานจากผลิตภัณฑ์ในแบรนด์ของตัวเองแล้ว บริษัทก็ใช้โอกาสนี้ในการที่จะซื้อกิจการอื่นที่อยู่ในขอบข่ายของบริษัทตัวเอง และอีกวิธีหนึ่ง คือการครองตลาดพรีเมียมเพื่อที่จะสามารถขายสินค้าในราคาที่สูงกว่าปกติได้ พร้อมปรับราคาสินค้าเพื่อสู้เงินเฟ้อได้ในยามจำเป็น
นอกจากนี้แล้ว การที่บริษัทมีอัตรากำไรที่ค่อนข้างสูง (Gross Margin ระดับ 57-60%) ทำให้บริษัทมีกำไรในการที่จะใช้กับงบการตลาดในการที่จะเพิ่มยอดขายได้ และด้วยบริษัทมี Free Cash Flow ที่เป็นบวกมาอย่างน้อย 6 ปีล่าสุด ทำให้บริษัทมีเงินทุนมากเพียงพอที่จะใช้ซื้อกิจการ (ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น) รวมถึงปรับกระบวนการภายในอย่างการซื้อเครื่องจักรประสิทธิภาพสูง ซึ่งช่วยทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลง รักษาอัตรากำไรได้ดียิ่งขึ้น
และบริษัทเองก็มีความแน่วแน่ในการดำรงไว้ซึ่งนโยบาย ESG เหมือนกับบริษัทอื่น ๆ ในทวีปยุโรป ซึ่งอาจมอบโอกาสให้บริษัทอย่างน้อย 2 แนวทาง ได้แก่
1) เป็นการเชื้อเชิญให้กองทุนสาย ESG มาลงทุน เป็นแรงผลักให้หุ้นบริษัทขึ้นจากการที่ปริมาณหุ้นในตลาดน้อยลงจากกองทุนส่วนนี้ (แต่ต้องไม่ลืมว่าบริษัทก็ต้องมีตัวเลขทางการเงินพร้อมสตอรี่ที่ดีด้วยเพื่อจูงใจกองทุน)
2) บริษัทอาจได้ต้นทุนการเงินที่ถูกลงมากขึ้น จากการออก Green Bond ในยุคที่ดอกเบี้ยสูงอีกด้วย
แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้อีกว่า ปัจจัยฉุดให้หุ้นของบริษัทราคาตกลงได้ ก็คือเรื่องปัจจัยลบของการหดตัวของเศรษฐกิจจีน และกำลังซื้อที่หดตัวในตลาด USA ซึ่งมีผู้บริโภคในสัดส่วนที่สูง โดยเฉพาะกำลังซื้อของทางประเทศจีนนับว่ามีความน่าเป็นห่วงในปี 2023
สำหรับ PERNOD RICARD จะเป็นอย่างไรนั้น สำหรับเราในฐานะนักลงทุนแล้ว การติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทนี้คงเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ หากต้องการเป็นเจ้าของบริษัทสุราและไวน์พรีเมียมที่ครองใจคนทั่วโลก
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , และ WEBSITE
https://www.pernod-ricard.com/en/brands#View%20all
https://www.tradingview.com/symbols/EURONEXT-RI/financials-income-statement/?statements-period=FY
https://www.pernod-ricard.com/en/investors/presentations-regulatory-information
https://www.pernod-ricard.com/en/our-group/our-history
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :