สรุปข้อมูลบริษัท NVIDIA : NVIDIA ผู้ได้ประโยชน์จากเกม AI และคริปโต

ถ้าซีพียูเปรียบได้กับ “สมอง” ของคอมพิวเตอร์ “การ์ดจอ” คงเปรียบได้กับผู้ช่วยสมองที่ทำสมองมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เราอาจคุ้นเคยกับผู้ผลิตซีพียูยักษ์ใหญ่สองบริษัท อย่าง Intel และ AMD กันมากกว่าการ์ดจอ เพราะซีพียูคือสิ่งที่ถูกใส่ไว้ในคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง แต่สำหรับการ์ดจอ อาจไม่ใช่ทุกคนที่เห็นความสำคัญของมัน เพราะบ่อยครั้งมันถูกมองว่าการ์ดจอคืออุปกรณ์ช่วยสำหรับคนที่เล่นเกมมากกว่า

แต่รู้หรือไม่ว่า การ์ดจอนี้เองที่ทำให้นวัตกรรมหลายๆ อย่างในโลกก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว พร้อมกับทำให้บริษัทผู้ผลิตการ์ดจอแห่งหนึ่งมีราคาหุ้นกระโดดขึ้นไปอย่างรวดเร็วไม่แพ้กัน โดยราคาหุ้นสามารถขึ้นไปได้ถึง 10 เท่าในเวลาเพียงแค่ 3 ปีเท่านั้น

บริษัทที่ว่าคือ Nvidia

Nvidia คือบริษัทผลิตการ์ดจอที่อยู่ในสหรัฐ แต่ก่อตั้งโดยชาวไต้หวันที่ชื่อ Jensen Huang เมื่อปี 1993 ในช่วงที่ตลาดเกมเริ่มได้รับความนิยมพอดิบพอดี

แน่นอนว่าการ์ดจอที่บริษัทผลิตสามารถตอบสนองต่อการประมวลผลภาพของเกมได้อย่างดีเยี่ยม สินค้าขายดิบดีจนบริษัทสามารถพาตัวเองเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ในปี 1999 แต่อันที่จริง Huang นั้นหวังไว้สูงกว่าการนำพาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพราะเขาเชื่อว่าการ์ดจอที่เขาทำจะสามารถใช้ประโยชน์ได้มากกว่าวงการเกมแน่ ๆ เพียงแต่เมื่อราว ๆ 20 ปีก่อน คงไม่มีใครจะจินตนาการออกว่ามันเอาไปใช้ทำอะไรได้อีกนอกจากเล่นเกม

แต่เมื่อสองสามปีก่อน หลายคนก็ได้เห็นกระแสการ์ดจอขาดตลาดจากการที่มีคนซื้อการ์ดจอไปใช้ขุดเหมืองสกุลเงินดิจิทัลที่กำลังอยู่ในภาวะฟองสบู่ หรือวงการ AI ที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงในการประมวลผลจึงต้องใช้สินค้าของ Nvidia เข้ามาเสริมสมรรถนะคอมพิวเตอร์ นี่เองคือจุดที่การ์ดจอไม่ได้จำกัดอยู่แค่วงการเกมอย่างที่ Huang เชื่อมาตลอด และทำให้ผลกำไรและราคาหุ้นของ Nvidia เพิ่มขึ้นแบบฉุดไม่อยู่

งบการเงิน Nvidia

ปี 2017
รายได้ 6,910 ล้านเหรียญ
ค่าใช้จ่าย 5,244 ล้านเหรียญ
กำไรสุทธิ 1,666 ล้านเหรียญ

ปี 2018
รายได้ 9,714 ล้านเหรียญ
ค่าใช้จ่าย 6,667 ล้านเหรียญ
กำไรสุทธิ 3,047 ล้านเหรียญ

ปี 2019
รายได้ 11,716 ล้านเหรียญ
ค่าใช้จ่าย 7,575 ล้านเหรียญ
กำไรสุทธิ 4,141 ล้านเหรียญ

***งบของ NVDA เหลื่อมปีปฏิทิน นักลงทุนจำเป็นต้องตรวจสอบเดือนในงบการเงินเพื่อทำความเข้าใจการเทียบกับเดือนจริง***

ตลอดสามปีที่ผ่านมา ราคาหุ้นได้เพิ่มขึ้นจากราว ๆ 20 เหรียญไปสู่จุดสูงสุดที่ราคาเกือบ 300 เหรียญ อีกทั้งตัวเลขรายได้และผลกำไรที่เพิ่มขึ้นไวขนาดนี้ (รายได้เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในบริษัทขนาดหมื่นล้าน) จึงทำให้หลายคนเชื่อได้อย่างง่ายดายว่า Nvidia จะเป็นคลื่นลูกใหม่ ยังไงการ์ดจอก็ต้องเป็นที่ต้องการอยู่เรื่อย ๆ จนอาจเชื่อว่าหุ้นของบริษัทนี้คุ้มค่าที่จะเสี่ยง

นั่นก็เป็นความจริงอยู่ส่วนหนึ่ง เพราะตลาดของเกมและ AI คือสิ่งที่เราเห็นได้ชัดว่ามันโตมาต่อเนื่องหลายปีแล้ว แต่อ่ย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงของ Nvidia ก็ยังมีอยู่ตรงที่รายได้จากกลุ่มลูกค้าที่ซื้อการ์ดจอไปขุดเหมืองก็มีสัดส่วนที่มีนัยอยู่บ้าง เนื่องจากรายได้ในไตรมาสล่าสุดที่ประกาศออกมาว่ารายได้ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนหนึ่งก็เพราะความต้องการการ์ดจอเพื่อใช้ขุดเหมืองสกุลเงินดิจิทัลน้อยลงนั่นเอง

และตลาดของเกมก็ใช่ว่าจะเป็นขาขึ้นอยู่เสมอ

ทางบริษัทได้เปิดเผยด้วยว่ารายได้จากลูกค้ากลุ่มที่ซื้อการ์ดจอไปใช้เพื่อเล่มเกมลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อาจเป็นเรื่องจริงที่ว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมเกมจะเติบโตขึ้น แต่ก็ใช่ว่ามันจะเติบโตได้ทุกช่วงเวลา ดังนั้น หากจังหวะใดก็ตามที่อุตสาหกรรมอย่างเกม, AI หรือตลาดคริปโตเริ่มชะลอตัว ย่อมส่งผลต่อราคาหุ้นของ Nvidia ไม่มากก็น้อย อย่างในช่วงปี 2018 ที่ตลาดเงินคริปโตเสื่อมความนิยม ราคาหุ้นของ Nvidia ก็ลดลงจากจุดสูงสุดราว ๆ 300 เหรียญ มาทำจุดต่ำสุดที่ 120 เหรียญเลยทีเดียว

การซื้อหุ้นในอุตสาหกรรมที่กำลังโตย่อมเป็นเรื่องที่ดี แต่มันเป็นคนละเรื่องกับการซื้อหุ้นแล้วเชื่อว่าอุตสาหกรรมนั้นจะโตได้ตลอดเวลา

ลงทุนศาสตร์ – Investerest

ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE

พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์

เอกสารอ้างอิง
Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia จากการ์ดจอเกม สู่ A.I., Cryptocurrency เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก : brandinside.asia
NVIDIA ไตรมาสล่าสุด รายได้จากกลุ่มเกมเริ่มเห็นการฟื้นตัว: blognone.com
งบการเงิน NVIDIA : finance.yahoo.com

อัพเดทล่าสุดเมื่อ : 9 เมษายน 2020