AbbVie สร้างรายได้อย่างไรในฐานะบริษัทลูก

ในบางครั้งบางคราวเราจะพบว่าบริษัทใหญ่ ๆ แยกบริษัทลูกออกมาเพื่อให้เติบโตแข่งขันกับบริษัทแม่ ในกรณีนี้เห็นได้ชัดเจนจากการแยกตัวของ AbbVie Inc. (ABBV) ออกจากบริษัทแม่อย่าง Abbott Laboratories (ABT) โดยในไตรมาสที่ 1 ของปี ค.ศ. 2022 AbbVie Inc. มีมูลค่าตลาด 285 พันล้านดอลลาร์ ส่วน Abbott Laboratories (ABT) มีมูลค่าตลาด 210 พันล้านดอลลาร์ฯ

AbbVie ตั้งอยู่ในชิคาโก ได้รับการคิดค้นขึ้นในฐานะเป็นหน่วยงานวิจัยของ Abbott โดย AbbVie เน้นไปที่งานวิจัยและพัฒนายาใหม่ ๆ โดยผลิตยาหลัก 16 รายการ รวมถึง Imbruvica, Lupron และ Humira ในขณะที่ Abbott ยังคงรักษาผลประโยชน์ที่ไม่ใช่ด้านการวิจัย ซึ่งมีตั้งแต่โภชนาการด้านกีฬา นมผงสําหรับทารก ไปจนถึงการใส่ขดลวดหัวใจ ผู้บริหารของ Abbott กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงในการแยกบริษัทครั้งนี้ช่วยทำให้นักลงทุนมีโอกาสใหม่ ๆ กับธุรกิจสองแห่งที่มุ่งหน้าไปในเป้าหมายที่แตกต่างกัน

ไลน์ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ AbbVie ประกอบด้วยยาหลัก ๆ อย่าง Lupron (สําหรับมะเร็งต่อมลูกหมาก), Androgel (ตัวกระตุ้นฮอร์โมนเพศชาย) และ Creon (การบําบัดด้วยตับอ่อน) แต่ยาตัวที่เรียกได้ว่าโดดเด่นที่สุดของบริษัทคือ Humira ซึ่งเป็นยาต้านการอักเสบที่เป็นหนึ่งในยาที่ขายดีที่สุดในโลก โดยในปี ค.ศ. 2021 AbbVie ขาย Humira ไปทั่วโลกมีมูลค่ารวมมากกว่า 20 พันล้านดอลลาร์ แพทย์ใช้ Humira เพื่อรักษาโรคต่าง ๆ อย่าง โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ซึ่งเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมที่สร้างความเสียหายและเจ็บปวดมากกว่าโรคข้อเข่าเสื่อมทั่วไปที่ไม่มีอาการอักเสบ มีรายงานว่า AbbVie ขายใบสั่งยา Humira ได้ประมาณ 3.1 ล้านใบสั่งยาต่อปี ซึ่ง Humira มีความหมายต่อ AbbVie เกือบเท่ากับ ยางรถยนต์ที่มีต่อมิชลิน โดย Humira เพียงชนิดเดียวนับเป็นสัดส่วนราว 43% ของรายได้ AbbVie ในปี ค.ศ. 2020

แต่แน่นอนว่า AbbVie เองก็เคยได้รับผลกระทบจากการที่สิทธิบัตรยาหมดอายุลงจนทำให้เกิดคู่แข่งจากฝั่งยุโรปและอินเดีย ทำให้ช่วงเวลานั้นหุ้นของ AbbVie ลดลงอย่างน่าตกใจ แต่ทางออกสำหรับข้อกังวลในเรื่องนี้นั้น AbbVie ใช้วิธีการคิดค้นยาตัวใหม่ ๆ ออกมาแทนที่เรื่อย ๆ โดยบริษัทเชื่อว่ายาที่สร้างเงินหนึ่งปีไม่จำเป็นต้องเป็นยาที่สร้างรายได้ตลอดไป AbbVie ยังคงพัฒนายาและลู่ทางเภสัชกรรมอื่น ๆ อย่างจริงจัง ผ่านการวางแผนการดำเนินงานสำหรับอนาคตที่หลากหลาย ทั้งการพัฒนาชนิดยาและการเข้าซื้อกิจการ

โดยในปี ค.ศ. 2019 บริษัทได้รับการอนุมัติ Rinvoq สำหรับการรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ในระดับปานกลางถึงรุนแรง และ Skyrizi ซึ่งเป็นยารักษาโรคสะเก็ดเงิน จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)

นอกจากนี้ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2019 AbbVie ยังประกาศการเข้าซื้อกิจการของ Allergan ซึ่งเป็นบริษัทผลิตโบท็อกซ์ ในราคาสูงถึง 63 พันล้านดอลลาร์ โดย AbbVie เชื่อว่าข้อตกลงนี้อาจช่วยประหยัดเงินได้ในระยะยาว เนื่องจากช่วยให้บริษัทมีผลิตภัณฑ์ยอดนิยมโดยไม่ต้องเสียเงินในการวิจัยและพัฒนา

ณ เดือนมกราคม ค.ศ. 2024 AbbVie มีมูลค่าตลาด 291.17 พันล้านดอลลาร์ ทําให้ AbbVie เป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับที่ 31 ของโลกตามมูลค่าตลาด