สรุปข้อมูลบริษัท Alibaba : ประวัติศาสตร์ IPO ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
หากเอ่ยชื่อของ Alibaba หลายคนอาจเข้าใจว่านี่คือ Amazon ในเวอร์ชั่นประเทศจีน ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะทั้งสองบริษัทนี้ทำธุรกิจ eCommerce ทั้งคู่
แต่ถ้าทั้งสองบริษัทนี้เหมือนกันจริง ตัวเลขผลกำไรมันคงมีอะไรที่ผิดปกติแน่ๆ เพราะถึงแม้ว่า Amazon จะมีรายได้มากกว่า Alibaba กว่า 3 เท่า แต่กำไรกลับสู้ Alibaba ไม่ได้ นั่นแปลว่า Alibaba อาจไม่ได้เหมือนกับคู่แข่งในฟากฝั่งตะวันตกอย่างที่คิด
แล้ว Alibaba ทำธุรกิจอะไรบ้าง ?
Alibaba ก่อตั้งขึ้นในปี 1998 โดย Jack Ma นักธุรกิจผู้เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนสู้ชีวิตทุกคน เพราะเขาเคยเกือบไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัย สมัครงานบางที่ก็ไม่รับ แต่ก็กลายมาเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งของโลก
Jack Ma ได้แนวคิดการก่อตั้ง Alibaba จากการที่เขาไปอเมริกาในช่วงนั้นซึ่งฟองสบู่อินเทอร์เน็ตกำลังบูมสุดขีด ทันทีที่เขาได้สัมผัสกับอินเทอร์เน็ตและลองใช้มัน เขาก็รู้ทันทีว่านี่คืออนาคตที่จะทำให้ตลาดการค้าของจีนโตได้ จนนำไปสู่การก่อตั้งบริษัท
จากนั้นเกือบ 20 ปีให้หลัง บริษัทลายมังกรนี้ก็ได้โลดแล่นอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของอเมริกา แถมยังกลายเป็นหุ้น IPO ที่ระดมเงินทุนไปได้กว่า 25,000 ล้านเหรียญ สูงกว่าตอนที่ Google และ Facebook เข้าตลาดหุ้นเสียอีก และขึ้นแท่นการ IPO ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นโลก
โครงสร้างของ Alibaba ประกอบด้วยธุรกิจหลักสามส่วน คือ Alibaba, TaoBao และ Tmall
Alibaba เป็นเว็บไซต์แรกสุดที่ก่อตั้งขึ้นมา เป็นแพลตฟอร์มสำหรับขายสินค้าแบบธุรกิจถึงธุรกิจ (B2B), TaoBao เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับขายสินค้าแบบธุรกิจถึงผู้บริโภคโดยตรง (B2C) และผู้บริโภคถึงผู้บริโภคโดยตรง (C2C), ส่วน Tmall จะขายสินค้าที่เป็นแบรนด์ต่างประเทศด้วย เน้นจับกลุ่มคนชั้นกลางเป็นหลัก
หากดูจากมุมนี้อาจยังไม่เห็นความแตกต่างระหว่าง Alibaba และ Amazon สักเท่าไหร่ แต่จุดต่างสำคัญจริงๆ คือ Alibaba เป็นเพียงแค่แพลตฟอร์มสำหรับซื้อขายสินค้า ไม่มีโกดังหรือระบบจัดการสินค้าเป็นของตนเอง ในขณะที่ Amazon ลงทุนกับเรื่องพวกนี้เยอะมาก จึงส่งผลให้กำไรของ Amazon น้อยกว่า Alibaba อย่างไม่น่าเชื่อ
แล้วกำไรของ Amazon อยู่ที่เท่าไหร่ ? ในปีล่าสุดนั้นอยู่ที่ 10,073 ล้านเหรียญเท่านั้น น้อยกว่ากำไรสุทธิของ Alibaba ซึ่งอยู่ที่ 13,094 ล้านเหรียญ ทั้งที่ Amazon มีรายได้สูงกว่า 4 เท่า
งบกำไรขาดทุน Alibaba (ปีบัญชีสิ้นสุดเดือนมีนาคม)
ปี 2017
รายได้ 22,972 ล้านเหรียญ
ค่าใช้จ่าย 16,633 ล้านเหรียญ
กำไรสุทธิ 6,339 ล้านเหรียญ
ปี 2018
รายได้ 39,809 ล้านเหรียญ
ค่าใช้จ่าย 29,614 ล้านเหรียญ
กำไรสุทธิ 10,195 ล้านเหรียญ
ปี 2019
รายได้ 56,144 ล้านเหรียญ
ค่าใช้จ่าย 43,050 ล้านเหรียญ
กำไรสุทธิ 13,094 ล้านเหรียญ
จากงบการเงินย้อนหลัง จะเห็นว่ารายได้และกำไรเติบโตขึ้นกว่าเท่าตัวในเวลาเพียงแค่ 2 ปี จนส่งผลให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นมากว่า 3 เท่าแล้วนับตั้งแต่ราคาที่ให้จองซื้อหุ้น IPO ตอนแรก (ราคาปัจจุบันอยู่ที่ราวๆ 180 เหรียญ)
อาจดูเป็นมังกรยักษ์ที่ไร้เทียมทานเพราะรายได้เติบโตปีแล้วปีเล่า แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าจะเป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะในปีที่ผ่านมานั้นสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐได้ทวีความรุนแรงขึ้น ไม่มีใครรู้ได้ว่ากำไรของบริษัทในอนาคตจะได้รับผลกระทบจากเรื่องเหล่านี้แค่ไหน แม้แต่ช่วงหนึ่งที่มีข่าวว่าจะถอดหุ้นบริษัทจีนออกจากตลาดหุ้นสหรัฐ ก็ทำให้ราคาหุ้นของ Alibaba หล่นวูบไปไม่น้อยเลย
ด้วยความที่เป็นธุรกิจใหญ่ระดับชาติ ความเสี่ยงในระดับนโยบายจึงมีความสำคัญไม่แพ้ความเสี่ยงจากตัวธุรกิจ ตัว Alibaba เองก็มีคู่แข่งรอบด้าน โดยเฉพาะ Amazon จากฝั่งอเมริกา และกลุ่ม JD ในประเทศจีนที่พร้อมจะมาเขย่าบัลลังก์ได้ทุกเมื่อ
แต่ไม่ว่าจะแข่งขันรุนแรงแค่ไหน งานนี้ผู้บริโภคอย่างเราก็ได้ประโยชน์เต็มๆ จากโปรโมชั่นอันดุเดือดของยักษ์ใหญ่เหล่านี้ทุกครั้งไป
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE
พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์
เอกสารอ้างอิง
Understanding the Alibaba Business Model : investopedia.com
หุ้น“อาลีบาบา”-“ไป่ตู้”วูบในตลาดหุ้นสหรัฐหวั่นถูกถอดจาดตลาดหุ้น : bangkokbiznews.com
งบการเงิน Alibaba : jitta.com
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :