ส่องงบการเงิน แว่นท็อปเจริญ

หากพูดถึงอุตสาหกรรมค้าปลีกแว่นตา “ แว่นท็อปเจริญ ” คงจะเป็นชื่อร้านค้าปลีกที่ขึ้นมาเป็นอันดับแรก ๆ ด้วยส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรม ปัจจุบัน ร้านแว่นท็อปเจริญ มีสาขาทั้งหมดเกือบ 2,000 สาขา และยืนหนึ่งในการครองฐานะผู้นำตลาดมาเป็นเวลานาน

อุตสาหกรรมแว่นตา ไม่ได้แย่อย่างที่ใครหลายคนคิด

ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน เทรนด์การไม่ใส่แว่นตา เช่น การใช้คอนแทคเลนส์ การทำเลสิค ถือว่าได้รับความนิยม โดยเฉพาะในกลุ่มคนเมืองที่ใส่ใจในเรื่องบุคลิกภาพมาก ๆ เทรนด์นี้อาจจะทำให้ใครหลายคนคิดว่า อุตสาหกรรมตลาดแว่นตาน่าจะแย่ แต่ในความเป็นจริง ตลาดแว่นตาไทย มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องทุกปี เฉลี่ยปีละ 10%

ร้านแว่นท๊อปเจริญ คือ เบอร์ 1 ในอุตสาหกรรมนี้

ร้านแว่นท็อปเจริญ ก่อตั้งโดยและดำเนินกิจการโดยตระกูล ตรีพรชัยศักดิ์ และเปิดให้บริการมายาวนานกว่า 60 ปีแล้ว ปัจจุบันครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ประมาณ 40% ภาพรวมของงบการเงินยังมีการเติบโต และมีอัตราการทำกำไรที่ใช้ได้ทีเดียว

งบการเงิน ร้านแว่นท็อปเจริญ 2016 – 2018

ปี 2016
รายได้รวม 4,086,337,504 บาท
ค่าใช้จ่ายรวม 3,872,699,176 บาท
กำไรสุทธิ 167,570,956 บาท

ปี 2017
รายได้รวม 4,083,962,306 บาท
ค่าใช้จ่ายรวม 3,907,086,010 บาท
กำไรสุทธิ 136,646,826 บาท

ปี 2018
รายได้รวม 4,555,598,498 บาท
ค่าใช้จ่ายรวม 4,339,830,784 บาท
กำไรสุทธิ 169,830,694 บาท

จากภาพรวมของธุรกิจจะเห็นว่า รายได้ของธุรกิจยังมีการโตต่อเนื่อง กำไรสุทธิก็ยังทรงตัวอยู่ได้ ส่วนอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin ; NPM) ทำได้อยู่ที่ประมาณ 3.7% ซึ่งถือว่าไม่แย่สำหรับธุรกิจค้าปลีกแบบนี้

การที่คนอื่นมองว่าตลาดแว่นตาไม่ดีอาจจะเป็นข้อดีของธุรกิจก็ได้

เพราะเมื่อคนอื่นคิดว่าไม่ดี คนก็เลือกที่จะเข้ามาแข่งขันน้อย ถึงแม้ว่าตลาดจะไม่ได้เติบโตแบบก้าวกระโดดมาก แต่การไม่มีการแข่งขันที่รุนแรงก็จะช่วยเป็นแรงเสริมให้ธุรกิจมีความสามารถในการตั้งราคาได้ และมีความสามารถในการทำกำไรได้ดี