ผลกระทบทางเศรษฐกิจในแอฟริกา ภายหลังการระบาดของ Ebola

จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี ค.ศ. 2019 จนมาถึงปัจจุบัน ที่เรียกได้ว่าอยู่ในระยะที่ลดลงมากแล้ว หากแต่ถ้ามองย้อนกลับไปในตอนที่การระบาดยังคงหนักอยู่นั้น ก็เรียกได้ว่าเป็นโรคระบาดที่คร่าชีวิตผู้คนไปนับล้าน รวมไปถึงการสร้างความบกพร่องในระบบทางเดินหายใจเอาไว้อีกด้วย

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการใช้ชีวิตของผู้คนขณะนั้น นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อสังคมในด้านอื่น ๆ โดยยังลามไปถึงด้านเศรษฐกิจที่ส่งผลทำให้ภาครัฐและภาคเอกชนจำเป็นที่จะต้องประคองเศรษฐกิจเหล่านี้ให้สามารถดำรงไปได้ด้วยดี โดยมีผลลัพธ์ก็คือ สภาพเศรษฐกิจของแต่ละประเทศภายหลังจากการระบาดของ COVID-19 อย่างหนักในปัจจุบันนั่นเอง

หากย้อนมองไปในประวัติศาสตร์โลก มนุษย์จำเป็นที่จะต้องทำสงครามกับเชื้อโรคเหล่านี้มาตลอด โดยมีการแก้ไขปัญหาด้วยการย้ายเมือง ไปจนถึงการจัดทำที่กักกันเพื่อทำให้การแพร่ระบาดของโรคเหล่านั้นไม่กระจายมากเพิ่มขึ้น จนกระทั่งเมื่อเราได้เรียนรู้ถึงวิธีการจัดการกับเชื้อโรค ด้วยการแก้ไขระบบสาธารณูปโภค และด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ที่ช่วยทำให้เราสามารถฆ่าหรือทำให้เชื้อโรคจางลงจนหายไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราเห็นได้ชัดเจนในปัจจุบัน รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของอีโบลาด้วย

โรคอีโบลา คือหนึ่งในโรคระบาดในทวีปแอฟริกาที่ยังคงส่งผลที่อันตรายอยู่จนถึงทุกวันนี้ โดยมีความร้ายแรงยิ่งกว่า COVID-19 โดยสำหรับอาการของโรคดังกล่าว จะเริ่มมีอาการคล้ายกับไข้หวัดใหญ่อย่างฉับพลัน โดยเราจะสามารถรู้ตัวเองได้ภายใน 2-21 วัน ก่อนที่จะเข้าสู่ระยะเลือดออก ที่จะส่งผลทำให้มีอาการเลือดออกผ่านการไอ การจาม หรือแม้แต่การอาเจียน ซึ่งก็จะส่งผลทำให้เสียชีวิตได้

สำหรับการแพร่เชื้อ สามารถแพร่ด้านผ่านทางเลือด รวมไปถึงสารน้ำจากร่างกายของผู้ติดเชื้อ ในปัจจุบันเราก็ยังคงเห็นการแพร่ระบาดเหล่านี้เป็นจำนวนมาก และแน่นอนว่าต้องกระทบต่อเศรษฐกิจอีกด้วย โดยเฉพาะในแถบแอฟริกาตะวันตก เช่น ประเทศเซียร์ราลีโอน กินี เซเนกัล ไลบีเรีย และไซบีเรีย เป็นต้น ที่ถือว่ามีการระบาดอย่างหนัก โดยจะเห็นได้อย่างชัดเจนในปี ค.ศ. 2014 – 2016 ที่มีการระบาดครั้งใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ประเทศเหล่านี้ถือว่ามีอุตสาหกรรมที่น่าสนใจอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแร่ธาตุชั้นเยี่ยม

และการแพร่ระบาดของอีโบลา ที่เกิดขึ้นภายในประเทศในแถบนั้นต้องประสบปัญหาเป็นจำนวนมาก จนทำให้จำเป็นที่จะต้องปิดเส้นทางการส่งออกของประเทศทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวบิน หรือการส่งออกทางทะเล ซึ่งส่งผลทำให้เกิดการสูญเสียรายได้เฉลี่ยอย่างน้อย 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ และแน่นอนว่าส่งผลทำให้ GDP ของแต่ละประเทศต้องลดลงไปด้วย

ส่วนใหญ่ประเทศเหล่านี้มักจะต้องเจอกับปัญหาความยากจน รวมไปถึงความขัดแย้งในประเทศอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น การที่จะต้องพบเจอกับปัญหาการแพร่ระบาดของอีโบลา จึงได้กลายเป็นวิกฤตหนักที่ทำให้ประเทศดังกล่าวนี้แทบจะลืมตาอ้าปากได้ยากยิ่ง

ซึ่งนอกจากนี้ โรคอีโบลาก็ยังคงมีแพร่ระบาดในประเทศอื่น ๆ ในแถบแอฟริกา ซึ่งก็ยิ่งทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่ลงมากกว่าเดิม จึงส่งผลทำให้องค์การอนามัยโลกจำเป็นที่จะต้องหาแนวทางในการรักษาโรคมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาวัคซีน ไปจนถึงแนวทางการปฏิบัติตัวเพื่อไม่ให้รับเชื้อมา และจะทำให้การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวได้หยุดลง