ปัจจัยที่ทำให้ฮ่องกงเป็นมิตรกับการทำธุรกิจ
ฮ่องกงเป็นประเทศที่รู้จักกันดีในตลาดโลกว่าเป็นมิตรกับการทำธุรกิจ(Business-friendly system) เนื่องจากฮ่องกงไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้โครงสร้างหลักทางเศรษฐกิจของฮ่องกงคือการค้า ธุรกิจด้านการเงิน การลงทุน การประกันภัย และการท่องเที่ยว ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางการเงินและการธนาคารที่สำคัญของโลก โดยในปี ค.ศ.2022 The International Institute for Management Development (IMD) ได้จัดอันดับให้ฮ่องกงอยู่ในอันดับที่ 5 ของประเทศที่มีการแข่งขันทางเศรษฐกิจสูงที่สุดจาก 63 ประเทศทั่วโลก
การจัดอันดับนี้สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องของฮ่องกงในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีทางธุรกิจ นอกจากนี้ฮ่องกงยังได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนานว่าเป็นประเทศที่มีระบอบการเงินที่มีมาตรฐาน และโปร่งใส รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง เป็นประตูสู่ตลาดเอเชียที่กำลังเติบโตซึ่งมาจากโอกาสทางอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลาย ทำให้ฮ่องกงกลายเป็นหมุดหมายที่ยอดนิยมของนักลงทุนและนักธุรกิจชาวต่างชาติ
ฮ่องกงหรือเขตบริหารพิเศษ (Special Administrative Region) ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของปากแม่น้ำเพิร์ล (The Pearl River Delta: PRD)ในเอเชียตะวันออก มีระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยมที่ทำให้เกิดพื้นที่การแข่งขันทางธุรกิจที่เป็นธรรม สำหรับสินค้าส่งออกที่สำคัญของฮ่องกง ได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้ารวมถึงคอมพิวเตอร์, อัญมณี, อุปกรณ์ทางเทคนิคและการแพทย์, นาฬิกาและชิ้นส่วนนาฬิกา, น้ำหอม, เครื่องสําอาง และโลหะมีค่า
ปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ฮ่องกงเอื้ออำนวยต่อการทำธุรกิจ
อย่างแรกคือฮ่องกงเป็นจุดเชื่อมกับเมืองธุรกิจที่สำคัญ ๆ ในเอเชีย ด้วยระยะเวลาในการบินเพียงแค่สี่ชั่วโมงจากต้นทาง ไปยังเมืองต่าง ๆ อย่าง ปักกิ่ง ไทเป เซี่ยงไฮ้ โซล กรุงมะนิลา และเมืองกัวลาลัมเปอร์ ในขณะที่ระยะรัศมีเพียง 5 ชั่วโมงการบินจากฮ่องกงสามารถเข้าถึงประชากรได้กว่าครึ่งหนึ่งของโลก ดังนั้นจึงถือได้ว่าฮ่องกงเปรียบเสมือนจุดกระจายสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใครต้องการเปิดตลาดไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ เพราะนอกจากความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์แล้วนั้น ฮ่องกงและจีนยังมีความตกลงการค้าเสรีร่วมกัน หรือที่เรียกกันว่า CEPA (Closer Economic Partnership Agreement) ซึ่งส่งผลให้มีสิทธิประโยชน์พิเศษหลายอย่าง เช่น การส่งออกไปยังจีนแบบไม่มีการเก็บภาษี
ปัจจัยที่สองคือความง่ายในการจดทะเบียนเพื่อก่อตั้งบริษัทเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน การเปิดบริษัทในฮ่องกงใช้ระยะเวลาเพียง 1-2 สัปดาห์และมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำมาก นอกจากนี้ยังมีเอเจนซี่ที่ให้บริการในการรับจดทะเบียนบริษัทให้เลือกหลากหลายอีกด้วย
ปัจจัยที่สามคือการมีอัตราภาษีที่ต่ำและระบบภาษีที่สามารถคาดการณ์ได้ โดยฮ่องกงเรียกเก็บภาษีโดยตรงเพียงสามประเภท คือ ภาษีกําไร, ภาษีเงินเดือน และภาษีทรัพย์สิน ปัจจัยที่สี่คือกําลังแรงงานที่มีประสิทธิภาพ แรงงานในฮ่องกงได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี มีความหลากหลายทางทักษะ ซึ่งแรงงานส่วนใหญ่สามารถสื่อสารภาษาอื่น ๆ นอกเหนือไปจากภาษาท้องถิ่นอย่างกวางตุ้งได้ เช่นภาษาอังกฤษและจีนกลาง ซึ่งเป็นประโยชน์แก่นายจ้างที่ต้องการทำธุรกิจที่ต้องใช้ภาษาสากล
และปัจจัยสุดท้ายที่นับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งคือความแข็งแกร่งของกฎหมาย ฮ่องกงให้ความสำคัญต่อสิทธิในทรัพยสินทางปัญญาและการคุ้มครองผู้บริโภค โดยมีกฎหมายต่อต้านการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมซึ่งครอบคลุมทั้งสินค้าและบริการ ไม่มีกฏหมายที่จำกัดสิทธิของต่างชาติทำให้บริษัททั้งในและต่างชาติเกิดการแข่งขันกันอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม ซึ่งความมุ่งมั่นต่อหลักนิติธรรมและความเป็นอิสระของตุลาการนี้เองที่เป็นกุญแจสําคัญที่ทำให้ฮ่องกงมีความรุ่งเรืองและสามารถรักษาเสถียรภาพในฐานะศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศได้
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , และ WEBSITE
https://www.business.hsbc.com/business-guides/hong-kong
https://www.hkwj-taxlaw.hk/doing-business-in-hong-kong
https://www.hketosin.gov.hk/advantages-of-hong-kong.php
https://www.investhk.gov.hk/en/why-hong-kong/open-business-environment.html
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :