เงินเฟ้อคืออะไร เฟ้อเพราะคนรวยขึ้นจริงไหม?
เมื่อเร็ว ๆ นี้หลาย ๆ คนคงได้ยินข่าวเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ เมื่อกระทรวงพาณิชย์ได้ออกมารายงานว่าเงินเฟ้อของไทยเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2564 สูงสุดในรอบ 7 เดือนโดยมีสาเหตุมาจากราคาน้ำมันและราคาอาหารที่สูงขึ้น รวมไปถึงการผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาล เมื่อรัฐบาลคลายข้อกำหนดทำให้หลาย ๆ บริการสามารถกลับมาเปิดเป็นปรกติ ทำให้ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยทั้งสินค้าและบริการเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ภาวะเงินเฟ้อ (Inflation) คือ ภาวะที่สินค้าและบริการมีราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ ยกตัวอย่างเช่นข้าวราดแกงที่เคยมีราคาจานละ 25 บาท เงิน 100 บาทจะสามารถซื้อข้าวราดแกงได้ 4 ชาม แต่เมื่อเวลาผ่านไปราคาข้าวแกงขึ้นราคาเป็นจานละ 50 บาท เงิน 100 บาทนั้นก็จะสามารถซื้อข้าวราดแกงได้เพียง 2 ชามเท่านั้น หรือพูดง่าย ๆ คือ เงินเฟ้อคือเงินของเรามีค่าน้อยลงนั่นเอง เงินเฟ้อมีสาเหตุเกิดจาก
- เงินเฟ้อที่เกิดจากต้นทุนผลัก หรือ Cost-push inflation ซึ่งเกิดจาก ต้นทุนในการผลิตสินค้าสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าแรง ค่าวัตถุดิบ หรือค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น และภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการผลิตนี้เองก็จะถูกส่งต่อไปยังผู้บริโภค ซึ่งตัวอย่างของเหตุการณ์เงินเฟ้อแบบนี้ที่รู้จักกันดีคือวิกฤตน้ำมันในปีค.ศ. 1970 เมื่อองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก ( Organization of Petroleum Exporting Countries) หรือ โอเปก (OPEC) ได้เพิ่มราคาน้ำมันสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งน้ำมันเป็นต้นทุนในการผลิตสินค้าหลายอย่างทำให้ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย เกิดผลกระทบไปยังภาคสินค้าและบริการเป็นอย่างมาก
- เงินเฟ้อที่เกิดจากความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น หรือ Demand-pull inflation เกิดขึ้นเมื่อระบบเศรษฐกิจมีความต้องการสินค้าและบริการมากกว่าที่มีอยู่ หรือเมื่อแต่ละคนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น แต่ละคนก็มีความต้องการอยากจะซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ในขณะที่สินค้ายังมีจำนวนเท่าเดิม เมื่อเกิดความต้องการมากขึ้นและสินค้าผลิตไม่ทัน คนขายจึงอาศัยโอกาสนี้ในการเพิ่มราคาสินค้า นอกจากนี้ยังเกิดจากการคาดการณ์ว่าสินค้าจะแพงขึ้น เมื่อสินค้ามีราคาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ผู้บริโภคจึงมีการซื้อสินค้าตุนไว้ คนขายก็ขึ้นราคาเพราะกลัวว่าต้นทุนจะแพงขึ้นด้วยนั่นเอง
ถึงแม้ว่าอาจจะฟังดูว่าเงินเฟ้อนั้นมีข้อเสีย แต่บางครั้งสภาวะเงินเฟ้อก็มีข้อดีด้วยเช่นกัน เมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้ออ่อน ๆ คือราคาสินค้าค่อย ๆ เพิ่มประมาณ 1-2% ก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเมื่อผู้ผลิตเมื่อเห็นว่าราคาสินค้ามีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นก็มีแรงจูงใจที่จะเพิ่มการผลิต เกิดการลงทุนและการจ้างงาน มีเม็ดเงินหมุนในเศรษฐกิจมากขึ้น โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ออกมาคาดการณ์ว่าครึ่งปีแรกของปี 2565 นั้นอัตราเงินเฟ้อจะยังคงสูงตามราคาน้ำมัน แต่ก็จะค่อย ๆ ปรับลดลงช่วงกลางปีเป็นต้นไป
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE
พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์
อ้างอิง
http://www.price.moc.go.th/
https://www.thairath.co.th/tags/%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%AD
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :