การระบาดของฝีดาษลิงจะส่งผลกระทบได้มากเท่าโควิด-19 หรือไม่

ข่าวการระบาดของฝีดาษลิงเริ่มแพร่หลายในหลายประเทศนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และในวันที่ 23 กรกฎาคม องค์การอนามัยโลก (WHO) ก็ได้ประกาศให้ฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern) เนื่องจากฝีดาษลิงแพร่ระบาดไปมากกว่า 75 ประเทศ และมีผู้ติดเชื้อมากถึง 16,000 คน [2]

คำถามสำคัญที่ทุกคนต่างก็อยากรู้ นั่นคือการระบาดของฝีดาษลิง จะร้ายแรงเทียบเท่ากับโควิด-19 หรือไม่

โควิด-19 ได้เปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ผลกระทบของโรคระบาดไม่ได้มีเพียงแต่ผู้คนที่เจ็บป่วยหรือเสียชีวิต แต่ยังรวมถึงการเสียโอกาสในชีวิตจากมาตรกรรับมือกับโรคระบาด เศรษฐกิจนานาประเทศล้วนได้รับผลกระทบตามไปด้วย การระบาดของฝีดาษลิงในปีค.ศ.2022 นี้จึงสร้างความกังวลให้แก่ผู้คนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ทั้งนี้ โควิด-19 และฝีดาษลิง อาจมีความร้ายแรงไม่เท่ากัน

ในด้านความรุนแรงของการระบาด แม้จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกจะมีมากถึง 16,000 คน แต่จำนวนผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันกลับมีเพียง 5 รายเท่านั้น (ข้อมูล ณ วันที่ 23 กรกฎาคม ค.ศ.2022) [2] ทั้งนี้ เนื่องจากฝีดาษลิงไม่ได้เป็นโรคอุบัติใหม่ แต่ถูกค้นพบมาตั้งแต่เมื่อ 50 ปีที่แล้ว ทั่วโลกจึงมีวัคซีนที่สามารถรับมือกับฝีดาษลิงได้ นอกจากนี้ เชื้อฝีดาษลิงมีแนวโน้มที่จะไม่กลายพันธ์ได้รวดเร็วเท่ากับเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากฝีดาษลิงเป็นไวรัสชนิด DNA ต่างจากไวรัสโควิด-19 ที่เป็นเชื้อไวรัสชนิด RNA

ที่สำคัญ การแพร่กระจายของเชื้อฝีดาษลิงยังเกิดขึ้นในกรณีที่มีการสัมผัสกับสารคัดหลั่งเท่านั้น ต่างจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่แพร่กระจายได้ในอากาศ ผู้คนที่ติดเชื้อและไม่ติดเชื้อยังสามารถนั่งอยู่ในห้องเดียวกัน หรือนั่งอยู่ข้างกันได้ ตราบใดที่ไม่ไปสัมผัสกับสารคัดหลั่งโดยตรง ส่วนในด้านความลำบากในการจัดหาวัคซีน วัคซีนสำหรับป้องกันฝีดาษลิงสามารถเก็บรักษาไว้ได้ในอุณหภูมิห้องปกติ การขนส่งวัคซีนจึงไม่ยากลำบากมากเท่าวัคซีนสำหรับป้องกันโควิด-19 ดังนั้น การระบาดของฝีดาษลิงจึงมีโอกาสที่จะนำไปสู่การล็อกดาวน์ได้น้อยมาก [3]

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าความรุนแรงของการระบาดอาจมีไม่มากเท่ากับโควิด-19 แต่ผลกระทบด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะการท่องเที่ยวก็อาจเกิดขึ้นได้ ในกรณีที่พบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นในบางพื้นที่ แต่ทั้งนี้ การระบาดของฝีดาษลิงที่เกิดขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19 ก็อาจส่งผลให้ผู้คนมีความกังวลด้านการติดเชื้อน้อยลง เนื่องจากต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคระบาดของโควิด-19 อยู่ก่อนแล้ว การท่องเที่ยวจึงอาจไม่ได้รับผลกระทบมากนัก หากรัฐบาลให้ความเชื่อมั่นกับนักท่องเที่ยว ประชาสัมพันธ์ให้ผู้คนไม่ตื่นกลัว และควบคุมการระบาดให้ไม่ลุกลามไว้ได้

ในปัจจุบันนี้ อาจยังเร็วไปนักหากจะสรุปว่าฝีดาษลิงจะมีผลกระทบรุนแรงเทียบเท่าโควิด-19 เราคงได้แต่จับตาดูทิศทางการระบาดของโรคต่อไป และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการระบาดครั้งนี้จะไม่ส่งผลร้ายแรงให้โลกต้องเปลี่ยนไปอีกครั้ง