เซมิคอนดักเตอร์ (semiconductor) ชิ้นส่วนขนาดเล็กกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก

ไม่น่าเชื่อว่าชิ้นส่วนขนาดเล็ก ๆ อย่างเซมิคอนดักเตอร์ (semiconductor) จะเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญทางธุรกิจระดับโลก การขาดแคลนชิ้นส่วนนี้ ไม่ได้กระทบแค่เกมส์คอนโซลเท่านั้น แต่สามารถสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้างได้ในหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่สมาร์ตโฟนไปจนถึงเครื่องบิน เพราะเซมิคอนดักเตอร์ คือเทคโนโลยีที่อยู่ในชีวิตคุณ ตั้งแต่การสร้างความความเพลิดเพลิน ไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ที่หลากหลาย

คำจำกัดความของ เซมิคอนดักเตอร์ (semiconductor) คือ “สารกึ่งตัวนำ” ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด ที่อาศัยการควบคุมไฟฟ้าเพื่อการแปรรูปพลังงาน โดยมีส่วนผสมของวัสดุที่มีคุณสมบัติในการนำไฟฟ้า ได้แก่ germanium, selenium หรือ silicon อยู่ระหว่างตัวนำและฉนวน

โดยหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ (the Fourth Industrial Revolution : 4IR) ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวงการการวิธีการผลิต และระบบการผลิต สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับธุรกิจและเศรษฐกิจระดับโลก เป็นการนำเอาโลกของการผลิต มาเชื่อมต่อกับเครือข่ายในรูปแบบ IoT (Internet of Things) ซึ่งทำให้กระบวนการผลิตสินค้า เชื่อมกับเทคโนโลยีดิจิทัล เกิดการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เน้นไปที่ระบบคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ และอุปกรณ์เชื่อมต่อ ซึ่งหัวใจสำคัญคือชิปนั่นเอง

หากอธิบายให้เห็นภาพง่าย ๆ ว่า ชิปตัวเล็ก ๆ เหล่านี้สำคัญขนาดไหน ลองนึกภาพคอมพิวเตอร์ในยุคแรกที่ มีลักษณะเป็นเครื่องจักรขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยหลอดสุญญากาศและหน้าปัด ซึ่งมีความเปราะบางและมีความต้องการปริมาณไฟฟ้าสูงมาก แต่ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ได้ออกแบบให้เซมิคอนดักเตอร์ให้เข้ามาแทนที่หลอดเหล่านั้น และจัดการกับระบบได้เร็วขึ้น แถมถูกกว่าและมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

ในอดีต ตลาดเซมิคอนดักเตอร์มีวงจรการเติบโต แบบสูงและต่ำสลับกัน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากความต้องการที่แกว่งตัว สังเกตได้ในปี ค.ศ. 2021 การเติบโตของตลาดมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น เมื่อมีความต้องการเซมิคอนดักเตอร์สูง ในขณะที่ปัจจัยทางเศรษฐกิจหลายประการ และปัจจัยเฉพาะของตลาด เช่น ปัญหาการผลิตและอุปทานจะนําไปสู่การเติบโตที่ลดลง

ปัจจุบันมีการคาดการณ์ว่า ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกจะเติบโตจาก 573.44 พันล้านดอลลาร์ในปี ค.ศ. 2022 เป็น 1,380.79 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี ค.ศ. 2029 การเติบโตของตลาดนี้ เป็นผลมาจากการบริโภคอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยได้รับอิทธิพลอย่างมาก จากตลาดปลายทางหลายแห่ง เช่น ตลาดยานยนต์เครื่องใช้ไฟฟ้าโทรคมนาคม และอุปกรณ์อุตสาหกรรม

นอกจากนี้ การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI), The Internet of Thing (IoT), machine learning (ML) กําลังสร้างโอกาสใหม่ สำหรับการพัฒนาตลาด เทคโนโลยีเหล่านี้ ช่วยให้หน่วยความจําของชิปประมวลผลข้อมูลจำนวนมากในเวลาที่น้อยลง

นอกจากนี้ ความต้องการชิปที่พัฒนามากขึ้นและเร็วขึ้น สำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมจะช่วยผลักดันการเติบโตของตลาด ในช่วงเวลาตามที่คาดการณ์ไว้