ประตูการค้าสู่เอเชียใต้และอาเซียน ประโยชน์ 3 ประการจากการลงนามข้อตกลงระหว่างไทยและศรีลังกา
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้ ไทยและศรีลังกาได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกัน โดยการลงนามครั้งนี้มีข้อตกลง 3 ฉบับ ได้แก่ 1) ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-ศรีลังกา 2) ร่างความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศฉบับใหม่ระหว่างไทยและศรีลังกา ใช้แทนที่ฉบับเดิมที่ลงนามไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2493 และ 3) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กับ The Gem and Jewellery Research and Training Institute of Sri Lanka ในที่นี้ ลงทุนศาสตร์ขอพาท่านผู้อ่านไปสำรวจประโยชน์ 3 ประการจากข้อตกลงทั้งหลาย ดังต่อไปนี้ [1, 2, 3, 4]
ประการแรก การลงนามในข้อตกลง FTA ร่วมกัน จะมีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ หากย้อนมองไปในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม พ.ศ. 2566 จะเห็นได้ว่า การค้าระหว่างไทยและศรีลังกามีมูลค่าสูงถึง 320.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไทยส่งออกไปยังศรีลังกามากถึง 213.49 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และนำเข้าจากศรีลังกา 106.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สินค้าส่งออกไปยังศรีลังกาของไทยมีตั้งแต่อัญมณีและเครื่องประดับ ยางพารา เม็ดพลาสติก และส่วนประกอบเครื่องจักรกล ในขณะที่ไทยมีการนำเข้าสินค้าประเภทเครื่องเพชรพลอยและอัญมณี เสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์จากพืช เคมีภัณฑ์ รวมถึงเครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบจากศรีลังกา
ประการต่อมา ข้อตกลงด้านบริการเดินอากาศฉบับใหม่ระหว่างไทยและศรีลังกา จะนำมาซึ่งการพัฒนาการท่องเที่ยว เมื่อไทยได้ตกลงที่จะเพิ่มเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ระหว่างกรุงเทพฯ และโคลัมโบทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป เที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นย่อมส่งเสริมให้การท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศเป็นไปอย่างสะดวกมากขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลทั้งสองประเทศได้หารือกันเพิ่มเติมถึงความเป็นไปได้นการประกาศฟรีวีซ่าระหว่างกัน นอกจากนี้ ไทยยังมีแผนที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยวโดยสร้างไตรภาคีการท่องเที่ยวทางเรือระหว่างไทย อินเดีย และศรีลังกา ซึ่งมีความเชื่อมโยงกันในฐานะประเทศที่มีวัฒนธรรมการนับถือศาสนาพุทธร่วมกันอีกด้วย
ประการสุดท้าย ข้อตกลงระหว่างสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กับ The Gem and Jewellery Research and Training Institute of Sri Lanka จะนำมาซึ่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างทั้งสองประเทศที่มีความเชี่ยวชาญในด้านอัญมณีและเครื่องประดับเช่นเดียวกัน โดยทั้งไทยและศรีลังกาสามารถแลกเปลี่ยนกันอบรมบุคลากร และไทยสามารถเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบและแหล่งอัญมณีของศรีลังกาได้
การลงนามร่วมกันระหว่างไทยและศรีลังกานับเป็นโอกาสอันดีที่ไทยจะได้เป็นประตูสู่อาเซียนให้แก่ศรีลังกา และศรีลังกาจะได้เป็นประตูสู่เอเชียใต้ให้แก่ไทย และยังเป็นโอกาสอันดีที่ศรีลังกาจะได้พลิกฟื้นวิกฤตเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อยาวนานมาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว ทั้งนี้ประโยชน์ที่จะได้จากข้อตกลงทั้งหลายอาจยังมีอีกมากมายหลายประการ นับจากนี้ไป เราคงได้แต่จับตาดูกันต่อไปว่า ข้อตกลงทั้งหลายที่ไทยและศรีลังกามีร่วมกัน จะเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศไปในทิศทางใด และใครจะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์สูงสุด
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , และ WEBSITE
อ้างอิง
[1] สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์. (4 กุมภาพันธ์ 2567). ไทย-ศรีลังกา มุ่งมั่นพัฒนาความสัมพันธ์ใกล้ชิด ยกระดับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ เชื่อมโยง FTA ไทย-ศรีลังกา MOU การเดินอากาศ และการพัฒนาอัญมณี. สืบค้นจาก https://nbt2hd.prd.go.th/th/content/category/detail/id/2153/iid/256577
[2] กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ. (28 ธันวาคม 2566). ‘พาณิชย์’ เฮ! ปิดดีล FTA ไทย-ศรีลังกา ฉบับที่ 15 สำเร็จ. สืบค้นจาก https://www.dtn.go.th/th/content/category/detail/id/22/iid/12627
[3] ไทยพีบีเอส. (4 กุมภาพันธ์ 2567). “ไทย-ศรีลังกา” ลงนาม FTA ผลักดันการค้าการลงทุน 2 ประเทศ. สืบค้นจาก https://www.thaipbs.or.th/news/content/336651
[4] Bharatha Mallawarachi. (February 3, 2024). Debt-stricken Sri Lanka signs a free trade pact with Thailand. Retrieved from https://apnews.com/article/sri-lanka-thailand-free-trade-agreement-2c2606b7ec84c32a8c78b4f6963c68c2
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :