ความสูญเสียที่ไม่มีใครต้องการ เศรษฐกิจไทยเสียหายแค่ไหนจากเหตุกราดยิงที่พารากอน
เหตุกราดยิงที่สยามพารากอนในวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียหายต่อทั้งชีวิตและสภาพจิตใจของผู้คน เมื่อเยาวชนอายุเพียง 14 ปีครอบครองอาวุธและก่อเหตุอย่างอุกอาจกลางห้างดังที่อยู่ใจกลางเมือง ผู้เสียชีวิตชาวต่างชาติมีทั้งชาวจีนและชาวเมียนมา และยังมีผู้บาดเจ็บรวมถึงได้รับผลกระทบอีกมากมาย ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้ยังมากมายจนเกินจะประเมินได้ ในที่นี้ ลงทุนศาสตร์ขอสรุปข้อมูลแนวโน้มความเสียหายของเศรษฐกิจไทยในเบื้องต้น ที่เป็นผลมาจากเหตุการณ์ดังกล่าว ดังนี้ [1, 2, 3, 4]
ความเสียหายประการแรกที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน คือความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีต่อไทย เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ชาวต่างชาติเสียชีวิต และยังมีนักท่องเที่ยวจากหลากหลายเชื้อชาติที่อยู่ในเหตุการณ์อีกมากมาย เสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความปลอดภัยในการท่องเที่ยวในไทยดังขึ้นเรื่อย ๆ ชาวจีนตั้งกระทู้ถามใน Weibo ว่าใครยังจะกล้ามาเที่ยวประเทศไทย นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีตั้งคำถามถึงระบบความปลอดภัยของไทยที่ไม่มีแม้แต่ข้อความแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุร้าย
ความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่สั่นคลอนเหล่านี้สวนทางกับความพยายามของรัฐบาลที่ทำทุกวิถีทางเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยว ทั้งนี้ ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 การท่องเที่ยวมีส่วนสำคัญในจีดีพีของประเทศมากถึงร้อยละ 20 และนักท่องเที่ยวจีนก็เดินทางมายังประเทศไทยมากที่สุดในบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติ คิดเป็นจำนวนร้อยละ 28 จากนักท่องเที่ยวนับ 40 ล้านรายในปี ค.ศ. 2019
ในปีนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทยตั้งเป้าหมายไว้ว่าเศรษฐกิจของไทยจะฟื้นตัวจากการท่องเที่ยว และอาจมีจำนวนนักท่องเที่ยว 25 ล้านราย โดย 4.4 ล้านรายเป็นนักท่องเที่ยวที่มาจากจีน แต่ความตั้งใจนั้นก็ถูกทำลายลงจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แม้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าการท่องเที่ยวของไทยจะได้รับผลกระทบเท่าไหร่ แต่จำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมายังไทยต่อจากนี้ย่อมลดลงอย่างแน่นอน
เมื่อการท่องเที่ยวของไทยได้รับผลกระทบ เศรษฐกิจในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวก็ย่อมได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน หุ้นของบมจ.ท่าอากาศยานไทยปรับ ราคาลดลงร้อยละ 2.14 หุ้นของบมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา ราคาลดลงร้อยละ 3.17 หุ้นของบมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ที่ลดลงร้อยละ 6.25 นอกจากที่กล่าวมานี้ หุ้นของบมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล, บมจ. แอสเสท เวิรด์ คอร์ป, บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น และบมจ.การบินกรุงเทพ ก็มีราคาลดลงเช่นกัน
แม้ว่านายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ และหัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จะคาดการณ์ว่าหุ้นเหล่านี้จะได้รับผลกระทบเป็นเวลา 2 สัปดาห์ แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแวดวงหุ้นเท่านั้น ผู้ประกอบการรายย่อยที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า โรงแรม บริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวต่าง ๆ ย่อมได้รับผลกระทบไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจไทยนับจากนี้ยังมากมายเกินคาดเดา ต่อจากนี้ไป เราคงได้แต่จับตาดูกันต่อไปว่าเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบในทางไหน และรัฐบาลจะหาทางเยียวยา หรือป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกอย่างไร ไม่ว่าอย่างไร ลงทุนศาสตร์ขอแสดงความเสียใจต่อทุกความสูญเสียในเหตุการณ์ดังกล่าวมา ณ ที่นี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความสูญเสียที่ไม่มีใครต้องการเช่นนี้ จะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , และ WEBSITE
อ้างอิง
[1] Panarat Thepgumpanat and Chayut Setboonsarng. (October 4, 2023). Thailand shooting: teenage suspect arrested after two killed at luxury mall. Retrieved from https://www.reuters.com/world/asia-pacific/thai-police-reports-shots-fired-inside-bangkok-way-site-2023-10-03
[2] Pathom Sangwongwanich. (October 4, 2023). Thailand Vows to Protect Tourists’ Safety After Deadly Mall Shooting. Retrieved from https://time.com/6320282/thailand-bangkok-shooting-tourism-safety
[3] Apornrath Phoonphongphiphat. (October 4, 2023). Bangkok shooting stirs fears over tourist safety in Thailand. Retrieved from https://asia.nikkei.com/Business/Travel-Leisure/Bangkok-shooting-stirs-fears-over-tourist-safety-in-Thailand
[4] PPTV online. (4 ตุลาคม 2023). หุ้นท่องเที่ยวร่วงหนัก ผวาเหตุกราดยิงพารากอน คาดกระทบนาน 2 สัปดาห์. สืบค้นจาก https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99/207267
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :