Frida Kahlo ความรักและความเจ็บปวดบนผืนผ้าใบ

กว่าหลายครั้งที่งานศิลปะถูกถ่ายทอดลงบนผืนผ้าใบ เพื่อปลดปล่อยความโศกเศร้า ปลดปล่อยอิสรภาพและจิตวิญญาณออกจากความทุกข์และความเจ็บปวดจากชีวิตจริง เรื่องราวชีวิตอันแสนผุพังและแสนร้าวรานที่ดูเหมือนโชคชะตาเล่นตลกของศิลปินสาวอย่าง Frida Kahlo ประสบการณ์เฉียดตายและการทนทุกข์ทรมานจากบาดแผลทางร่างกายและจิตใจที่ติดตามเธอไปจวบจนวันสุดท้ายของชีวิต

Frida Kahlo สาวชาวเม็กซิกัน เกิดเมือวันที่ 6 กรกฎาคม 1907 ในวัย 6 ปี เธอต้องเผชิญความทรมานจากโรคโปลิโอ ทำให้ขาและเท้าข้างขวาของเธอผิดปกติ แต่นั่นคงเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะเมื่อเธออายุได้ 18 ปี เธอก็ประสบกับอุบัติเหตุร้ายแรงบนรถบัส เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสจากแท่งเหล็กที่แทงทะลุกระดูกเชิงกราน ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่บนเตียงและเข้ารับการผ่าตัดกว่าสิบครั้ง ชีวิตอันแสนสดใสของเธอดูเหมือนจะสิ้นสุดลงอยู่แค่บนเตียงนอนและโรงพยาบาล แต่เมื่อประตูบานหนึ่งปิด ประตูอีกบานมักเปิดขึ้นเสมอ พ่อของ Frida Kahlo จุดประกายความฝันของเธอด้วยอุปกรณ์วาดรูปและผืนผ้าใบพร้อมขาตั้งขนาดใหญ่ เพื่อให้ลูกสาวของเขาได้มีงานอดิเรกและหลุดพ้นจากความเศร้าซึมจากบรรยากาศของโรงพยาบาล

ผลงานแรกที่ Frida Kahlo ใช้เวลากว่า 1 ปีบนเตียงด้วยการวาดภาพตนเอง (Self – Portrait) จากการนำกระจกมาตั้งเพื่อสะท้อนตัวเธอ Self-Portrait in a Velvet Dress เป็นรูปตัวเธออยู่ในชุดกำมะหยี่สีแดงแสนสวย และนั่นคือผลงานแรกในชีวิตของเธอ หลังจากนั้นเป็นต้นมา เธอก็ไม่เคยละมือจากพู่กันได้อีกเลย เธอมีผลงานจากการวาดภาพตัวเองมากกว่า 55 ภาพ จากผลงาน 143 ภาพ ความหลงใหลในงานศิลปะนำพาให้เธอมาพบกับ Diego Rivera จิตรกรชื่อดังและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ทั้งสองตกหลุมรักและแต่งงานกันโดยที่ทั้งสองมีอายุห่างกันถึง 21 ปี แต่ดูเหมือนว่าชีวิตหลังการแต่งงานจะไม่ราบรื่นนัก Frida Kahlo ทุ่มเทความรักและเทิดทูนสามีของเธออย่างมากมาย โดยผลงานศิลปะของเธอในช่วงนั้นมักปรากฏใบหน้าของ Diego Rivera แทรกอยู่แทบทุกชิ้น แต่ดูเหมือนความรักอันมากมายที่เธอมีให้จะถมไม่เต็ม เพราะตัวของ Diego Rivera นั้นค่อนข้างเจ้าชู้และนอกใจภรรยาเรื่อย ๆ เมื่อมีโอกาส

เรื่องราวความรักของ Frida Kahlo และ Diego Rivera ผ่านการรัก ๆ เลิก ๆ มาหลายครั้งหลายหน และครั้งที่เจ็บปวดที่สุดคงเป็นการที่น้องสาวแท้ ๆ ของเธอลักลอบเป็นชู้กับ Diego Rivera และเธอยังต้องแท้งลูกถึงสองครั้ง หลังจากการหย่าร้างครั้งแรก เธอได้ประกาศตัวว่าเป็น Bisexual และเริ่มใช้ชีวิตอย่างโลดโผน เธอหมกมุ่นอยู่กับสารเสพติด แอลกอฮอล์ และมีเซ็กส์กับศิลปินคนดังและคนรอบกายหลากหลายทั้งชายและหญิง พร้อมกับถ่ายทอดผลงานศิลปะที่เต็มไปด้วยความทุกข์ระทมทางร่างกายและจิตใจที่บอบช้ำของเธอออกสู่นิทรรศการต่าง ๆ และเริ่มมีชื่อเสียงเป็นวงกว้าง ถึงกระนั้นความสัมพันธ์ของ Frida Kahlo และ Diego Rivera ก็ไม่เคยจบลง จะว่าเป็นความรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดที่ทั้งสองคนมีให้กันก็คงจะเป็นคำกล่าวที่ไม่เกินไปนัก

ผลงานของ Frida Kahlo โดดเด่นในด้านการวาดภาพเหมือน (Self-Portrait) และมีลักษณะเฉพาะตัวในด้านการใช้สีสันที่สดใสและดอกไม้ขนาดใหญ่ รวมถึงการแฝงเรื่องราวความเจ็บปวดต่าง ๆ ที่เธอเผชิญในแต่ละช่วงเวลาของชีวิตอันแสนร้าวราน ผลงานของเธอสะท้อนความเป็นเซอร์เรียลลิสม์ (Surrealism) ที่เป็นการถ่ายทอดจากจินตนาการและจิตใต้สำนึกผ่านการวาดภาพเหนือความจริง เพื่อสื่อถึงความเจ็บปวดในจิตใจ แต่ตัวเธอกลับปฏิเสธและกล่าวว่าผลงานของเธอมีพื้นฐานอยู่บนความจริง และแสดงออกถึงบริบทของตัวเธอที่มีต่อสังคมในด้านต่าง ๆ ทั้งการเมือง วัฒนธรรม โดยผ่านมุมมองและประสบการณ์ความเจ็บปวดของตัวเธอเอง

Frida Kahlo เสียชีวิตลงด้วยวัย 47 ปี ด้วยปัญหาสุขภาพหลากหลายและเรื้อรังที่รุมเร้าเธอมาทั้งชีวิต เธอกลายเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มสตรีนิยม (Feminism) ในการเรียกร้องและเคลื่อนไหวเพื่อก่อให้เกิดสิทธิความเท่าเทียมทางเพศและเสรีในการเป็นผู้หญิง เธอมีความซื่อสัตย์ต่อความรู้สึก กล้าหาญและโอบกอดความเป็นตัวตนของเธอ โดยไม่สนใจต่อมาตรฐานความงามและบริบทหน้าที่ของผู้หญิงต่อสังคม ที่ต้องคอยทำหน้าที่แม่บ้าน เลี้ยงลูก ดูแลสามี หรือแม้กระทั้งต้องคอยดูแลตนเองให้ครองตนเพื่อเป็นไปตามมาตรฐานความงาม ที่บีบบังคับให้ผู้หญิงเป็นไปตามครรลองของสิ่งที่เรียกว่าความถูกต้องและดีงาม