สังคมศาสตร์

ระบบวรรณะส่งผลกระทบอย่างไรต่อเศรษฐกิจของอินเดียในปัจจุบัน ในวันที่จัณฑาลสามารถเป็นเศรษฐีพันล้าน

ระบบวรรณะส่งผลกระทบอย่างไรต่อเศรษฐกิจของอินเดียในปัจจุบัน ในวันที่จัณฑาลสามารถเป็นเศรษฐีพันล้าน

ระบบวรรณะส่งผลกระทบอย่างไรต่อเศรษฐกิจของอินเดียในปัจจุบัน ในวันที่จัณฑาลสามารถเป็นเศรษฐีพันล้าน

 

ความสัมพันธ์ระหว่างการพัฒนาของวิทยาศาสตร์และสังคมวิทยา ถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สามารถทำให้โลกยุคใหม่เคลื่อนไหวต่อไปได้ โดยวิทยาศาสตร์คือปัจจัยที่ทำให้เกิดการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ที่จะทำให้ประชาชนจำนวนมากต่างอาศัยกันอย่างสะดวกสบาย ในขณะที่ปัจจัยด้านสังคมวิทยา จะช่วยควบคุมและดูแลให้มนุษย์สามารถดำเนินชีวิตไปได้อย่างลุล่วง และเป็นไปได้อย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นทั้งในด้านของจริยธรรมหรือสัจธรรมก็ตาม

 

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ คือความเป็นไปของโลกยุคใหม่ เพื่อที่จะทำให้ทรัพยากรมนุษย์สามารถพัฒนาทั้งทางกายและจิตใจได้อย่างเข้มแข็ง และไร้ปัญหาในการดำรงชีวิตในอนาคต แต่ถึงกระนั้นปัจจัยในด้านสังคมวิทยาในบางสถานที่ก็ยังคงเหนือกว่าวิทยาศาสตร์ ซึ่งในส่วนนี้ส่งผลทำให้วัฒนธรรมยังมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตและอาจจะมีบทบาทมากกว่าวิทยาศาสตร์ด้วยซ้ำ

 

เพราะฉะนั้นแล้ว ในปัจจุบัน เราจึงได้มีโอกาสได้เห็นวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน และในบางวัฒนธรรมยังสามารถส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต ให้จำเป็นที่จะต้องดำเนินชีวิตในตามขนบประเพณี ที่ขัดแย้งต่อวิถีชีวิตแบบใหม่ ซึ่งหนึ่งในวิถีชีวิตเหล่านั้น ก็คงจะหนีไม่พ้นระบบ “วรรณะ” ของอินเดีย

 

ระบบวรรณะของอินเดีย เป็นระบบที่ถือกำเนิดขึ้นจากศาสนาพราหมณ์-ฮินดู โดยที่วรรณะ แปลว่า “ผิว” หรือก็คือ เป็นการแบ่งสีผิวของชนชาติที่อาศัยอยู่ภายในดินแดนแห่งนี้นั่นเอง โดยชนชาติดังกล่าวในยุคแรก คือ อารยัน และดราวิเดียน นั่นจึงทำให้มีการแบ่งวรรณะออกเป็น 2 วรรณะ ก่อนที่จะมีการแบ่งวรรณะออกเป็น 4 วรรณะในภายหลัง ตามชาติกำเนิดที่แตกต่างกัน นั่นก็คือ วรรณะพราหมณ์, กษัตริย์, แพศย์ และศูทร ซึ่งจะมีบทบาทหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบที่แตกต่างกันออกไป โดยเป็นแผนการที่จะช่วยสร้างความมั่นคงภายในการปกครองนั่นเอง และถ้าหากมีการแต่งงานข้ามวรรณะขึ้น จะส่งผลทำให้บุตร/ธิดาเกิดขึ้นมาต้องกลายเป็นบุคคลนอกวรรณะ ซึ่งภายในอินเดียได้เรียกบุคคลเหล่านั้นว่า “ดลิต” หรือที่เรารู้จักกันดีคือ “จัณฑาล”

 

โดยสำหรับบุคคลเหล่านี้ จะถูกการเปลือกปฏิบัติอย่างโหดร้าย โดยครั้งหนึ่ง การเป็นดลิตจะได้รับการปฏิบัติในรูปแบบไร้มนุษยธรรม ไม่ว่าจะเป็นการห้ามนั่งใกล้กับบุคคลวรรณะอื่น ไปจนถึงการห้ามบุคคลวรรณะอื่นเฉียดใกล้แม้แต่เงา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้มีการบัญญัติเอาไว้ในกฎหมายของอินเดียอย่างชัดเจน ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อ ดร.อัมเบดการ์ ประธานร่างรัฐธรรมนูญของอินเดีย ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทในการสร้างอินเดียภายหลังการประกาศเอกราช และยังมีปูมหลังชีวิตที่เกิดในตระกูลจัณฑาลมาก่อน จึงทำให้ตัวเขามีบทบาทในการเรียกร้องความเท่าเทียมเป็นอย่างมาก แต่ถึงกระนั้น ด้วยวัฒนธรรมความเป็นฮินดูที่เข้มข้น จึงทำให้วิถีชีวิตดังกล่าวยังดำรงอยู่เหมือนเดิม

 

ด้วยวัฒนธรรมระบบวรรณะที่ดำรงอยู่มาอย่างยาวนาน จึงทำให้มันสามารถส่งผลต่อวิถีชีวิต และระบบเศรษฐกิจอย่างชัดเจน เพราะการรับผิดชอบหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไปของแต่ละวรรณะ จึงทำให้ในแต่ละวรรณะจึงมีหน้าที่การงานที่ได้รับรายได้ในรูปแบบที่แตกต่าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้ผู้ที่มีวรรณะสูงจึงมีโอกาสที่จะร่ำรวยได้อย่างรวดเร็ว โดยมีการพบว่า บุคคลที่อยู่ในวรรณะสูงจึงมีโอกาสที่จะครอบครองความั่งคั่ง โอกาสในการศึกษา และโอกาสในการทำงานที่สูงกว่าบุคคลอื่น ๆ โดยมีการพบมากถึง 41% ของประเทศเลยทีเดียว ในขณะที่บุคคลในวรรณะต่ำ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่ค่อยได้รับโอกาสเหล่านี้มากกว่านั้น

 

แต่ถึงกระนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่า ความเหลื่อมล้ำเหล่านี้จะไม่มีทางลืมตาอ้าปากได้ เพราะความยึดมั่นในความเท่าเทียมและความเสมอภาคตามรัฐธรรมนูญของอินเดีย จึงทำให้โอกาสที่จะแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในอินเดีย มีโอกาสที่จะพัฒนามากยิ่งขึ้น จนทำให้เราได้มีโอกาสเห็นผู้ประกอบการจำนวนมากที่เกิดมาจากครอบครัวจัณฑาลนั่นเอง

 

ไม่ว่าจะเป็น Rajesh Saraiya เศรษฐีพันล้านคนแรกของอินเดีย โดยดำรงตำแหน่งเป็น CEO ของ Steel Mont Trading.Ltd หรือจะเป็น Kalpana Saroj ประธานบริษัทหญิงแห่ง Kamani Tubes ที่สามารถพลิกผันชีวิตของตนเองได้ในชั่วพริบตา ซึ่งเพียงตัวอย่างนี้ ก็เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงโอกาสในการพัฒนาความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจของประชาชนในอินเดียที่อยู่เหนือระบบวรรณะได้แล้วนั่นเอง

 

ลงทุนศาสตร์ – Investerest

ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , และ WEBSITE

 

อ้างอิง
Upper caste Hindus own 41 per cent of India’s total wealth: study. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2567. จาก https://www.businesstoday.in/latest/economy-politics/story/upper-caste-hindus-own-41-per-cent-india-total-wealth-study-170486-2019-02-14
Ankit Vyas. How India remains poor: Nine billionaires own as much as half the people. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2567. จาก https://www.downtoearth.org.in/blog/economy/how-india-remains-poor-nine-billionaires-own-as-much-as-half-the-people-68978
Charlie Yang. Caste and the Indian Economy. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2567. จาก https://www.economicsreview.org/post/caste-and-the-indian-economy
Kaivan Munshi. Caste and economic mobility in India. สืบค้นเมื่อ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2567. จาก https://voxdev.org/topic/labour-markets-migration/caste-and-economic-mobility-india
Kaivan Munshi. The impact of caste on economic mobility in India. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2567. จาก https://www.livemint.com/Opinion/FLn6TiQPArdQZUN9LE2ZsM/The-impact-of-caste-on-economic-mobility-in-India.html
SA Aiyar. Waiting for a hundred dalit billionaires. สืบค้นเมื่อ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2567.จาก https://timesofindia.indiatimes.com/blogs/Swaminomics/waiting-for-a-hundred-dalit-billionaires
सौरभ राय. Breaking caste barriers: stories of 5 Dalit entrepreneurs who reached the top. สืบค้นเมื่อ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2567. จาก https://yourstory.com/2018/01/dalit-entrepreneurs

 

อัพเดทล่าสุดเมื่อ :

เกี่ยวกับผู้เขียน

ลงทุนศาสตร์

ผมเขียนบทความเกี่ยวกับการลงทุนตั้งแต่เบื้องต้น เหมาะสำหรับผู้ลงทุนหรือผู้ที่มีความสนใจที่จะลงทุนที่รักหรือมีทีท่าว่าจะรักในศาสตร์ของการลงทุนเหมือนกัน