เมื่อยาเสพติดถูกกฎหมาย เศรษฐกิจรุ่ง? คุณภาพชีวิตร่วง?

ในปัจจุบัน ได้ปรากฏภัยสังคมออกมาหลากหลายรูปแบบ ที่ทำให้ผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะเยาวชนที่กำลังเติบโตในแต่ละช่วงวัย ต่างต้องประสบพบเจอกับภัยดังกล่าวนี้ตลอดทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งในหน้าข่าว หรือจะเป็นภายในสิ่งแวดล้อมรอบตัวของพวกเขา ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นได้ถูกจำกัดมากขึ้นด้วยกฎหมาย แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีช่องว่างที่ทำให้ภัยเหล่านี้ ยังสามารถที่จะมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบันเป็นอย่างมาก และหนึ่งในนั้นก็คือ ยาเสพติด

ยาเสพติด คือสารที่ส่งผลทำให้ผู้ที่ได้เสพหรือรับสารดังกล่าวเข้าไปในร่างกาย เกิดอาการเสพติดขึ้นมา จนทำให้บุคคลดังกล่าวได้ทำการเสพสารดังกล่าวนั้น ซึ่งถ้าหากปล่อยให้นานเกินไป ก็จะส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจอย่างต่อเนื่อง จนอาจจะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้เลยทันที นั่นจึงทำให้ยาเสพติดได้กลายเป็นสิ่งที่ต้องถูกกฎหมายควบคุมในทันที

โดยภายในประเทศไทย เราจะเห็นได้ว่ามีการควบคุมสารดังกล่าวนี้ด้วยการแบ่งออกเป็น 5 ประเภท โดยที่สารบางตัวจะถูกควบคุมให้เสพได้ แต่อยู่ในพื้นที่จำกัดเพื่อไม่ให้รบกวนผู้อื่น ไปจนถึงเป็นสารที่จำเป็นจะต้องอยู่ในการควบคุมโดยแพทย์ และสุดท้ายคือสารเสพติดอันตราย ที่สั่งห้ามจำหน่ายโดยเด็ดขาด ซึ่งไม่ว่าจะเป็นอย่างไรนั้น ก็ล้วนแล้วแต่มีการแอบจำหน่ายลับหลัง ซึ่งส่งผลทำให้ปัญหายาเสพติดยังคงเกิดขึ้นแบบต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจากผู้เสพที่เกิดปัญหาต่อร่างกายและจิตใจ ไปจนถึงผู้ค้าที่ได้กระทำผิดกฎหมายเพื่อจัดจำหน่ายยาเสพติดนั่นเอง

แต่ถ้าพูดถึงในเรื่องของการทำกำไรนั้น ยาเสพติดได้กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกชั้นเยี่ยมที่ผู้คนที่เคยเข้าไปอยู่ในวังวนต่างนิยม เพราะมันสามารถทำเงินกำไรได้อย่างมหาศาล ยกตัวอย่างเช่น ภายในสหรัฐอเมริกา ในช่วงปี ค.ศ. 1988 – 1998 ที่เคยมีการสำรวจการจัดจำหน่ายยาเสพติด ที่สามารถระบุได้ว่าค่าใช้จ่ายในการซื้อยาเสพติดมีมากถึง 60,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี โดยได้ความร่วมมือจากประเทศในแถบอเมริกากลาง ซึ่งก็ยิ่งส่งผลทำให้การฟอกเงินจากการค้ายาเสพติดนี้ทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งเงินดังกล่าวนี้นั้น สามารถที่จะนำไปพัฒนาประเทศได้อย่างสบาย โดยเพียงแค่มีการจัดระบบให้ถูกกฎหมายมากขึ้น ก็จะสามารถทำการค้าได้ดี หากแต่ผลกระทบของมันก็น่ากลัวพอสมควร

เพราะการเสพยาเสพติด ส่งผลทำให้ทรัพยากรมนุษย์มีปัญหา ตั้งแต่อาการที่เกิดขึ้นจากการเสพ ที่ส่งผลต่อการทำงานของทรัพยากรมนุษย์เป็นอย่างมาก โดยจากการสำรวจภายในสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 2002-2004 ที่พบว่าผู้ที่ใช้ยาเสพติดมีแนวโน้มที่จะขาดงานบ่อยกว่าคนที่ไม่ได้เสพ รวมถึงผลกระทบจากยาเสพติดที่รุนแรงก็ส่งผลทำให้ต้องเข้ารับการบำบัด ซึ่งทำให้ต้องสูญเสียเงินในระดับพันล้านในการบำบัด และถ้าหากเกิดไปก่ออาชญากรรมเข้า ก็จะต้องสูญเสียอีกหลายล้านต่อกระบวนยุติธรรมอีกด้วย นั่นจึงได้กลายเป็นคำตอบใหญ่ที่ส่งผลทำให้ยาเสพติด จึงเป็นสิ่งที่ยังต้องถูกควบคุม เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจมีปัญหามากไปกว่านี้