สังคมศาสตร์

5 ประเด็นสำคัญที่น่าจับตามองจากการหารือระหว่างโจ ไบเดน และสี จิ้นผิง

ประเด็นสำคัญที่น่าจับตามองจากการหารือระหว่างโจ ไบเดน และสี จิ้นผิง

5 ประเด็นสำคัญที่น่าจับตามองจากการหารือระหว่างโจ ไบเดน และสี จิ้นผิง

 

ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ของโลก ได้แก่ จีนและสหรัฐอเมริกานั้นอยู่ในความสนใจของผู้คนเสมอ ยิ่งในช่วงที่สงครามเกิดขึ้นหลายพื้นที่ การพบปะหารือระหว่างโจ ไบเดน และสี จิ้นผิง ครั้งแรกในรอบปี ย่อมมีประเด็นสำคัญที่ควรจับตามอง ในที่นี้ ลงทุนศาสตร์ขอนำเสนอประเด็นสำคัญที่น่าจับตามอง 5 ประการจากการพบกันระหว่างผู้นำจีนและสหรัฐอเมริกาในวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ดังต่อไปนี้ [1, 2, 3]

 

ประเด็นแรก คือข้อตกลงด้านปัญหาสิ่งแวดล้อมด้านภูมิอากาศ ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาและจีนนับเป็นประเทศที่ปล่อยคาร์บอนมากที่สุดในโลก ในการพบปะครั้งนี้ ผู้นำทั้งสองประเทศมีแนวโน้มที่จะหารือกันถึงมาตรการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศร่วมกัน โดยมีการวางแผนควบคุมการปล่อยก๊าซมีเทนที่เป็นก๊าซเรือนกระจก และสนับสนุนการเพิ่มพลังงานหมุนเวียนเป็นสามเท่าภายในปี ค.ศ. 2030

 

ประเด็นที่สอง คือความสัมพันธ์ทางการทหารและการสื่อสารระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนที่กลับมาอีกครั้ง ในช่วงก่อนหน้านี้ จีนปฏิเสธที่จะติดต่อสื่อสารด้านการทหารกับสหรัฐอเมริกา หลังจากที่แนนซี เพโลซี ได้เยี่ยมเยือนไต้หวันในเดือนสิงหาคม ปี ค.ศ. 2022 ที่ผ่านมา การพบปะครั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงการสื่อสารระหว่างสองประเทศที่กลับมาอีกครั้ง และยังส่งสัญญาณถึงการสื่อสารทางการทหารที่กลับมา

 

ประเด็นที่สาม คือการแทรกแซงการเมืองในไต้หวัน เป็นที่ทราบกันดีว่าสหรัฐอเมริกาหนุนหลังไต้หวันที่ต้องการต่อต้านจีน ในขณะที่จีนก็พยายามแทรกแซงการเมืองในไต้หวัน ในการพบปะกันครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังคงยืนยันจุดยืนของตนไม่เปลี่ยนแปลง สหรัฐอเมริกาขอให้จีนไม่เข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้งในไต้หวันที่จะเกิดขึ้นในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ ในขณะที่จีนก็ขอให้สหรัฐอเมริกาไม่สนับสนุนให้ไต้หวันแยกไปจากจีนเช่นเดียวกัน

 

ประเด็นที่สี่ คือความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สี จิ้นผิง แสดงออกชัดเจนว่าทั้งจีนและสหรัฐอเมริกาควรร่วมมือกัน ในยามที่ภาวะเศรษฐกิจกระทบหลายประเทศทั่วโลก มหาอำนาจอย่างจีนและสหรัฐอเมริกาไม่ควรหันหลังใส่กัน ทั้งนี้ ในช่วงก่อนหน้านี้ ทั้งจีนและสหรัฐอเมริกาต่างก็บอบช้ำจากสงคราม และผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 พอฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเริ่มจะฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้ดีขึ้น ก็ต้องเจอการเล่นงานจากอีกฝ่ายเสมอ การพบปะครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสดีที่ทั้งสองประเทศจะได้ตกลงกันเพิ่มเติม และพูดคุยถึงการพัฒนาเทคโนโลยีเอไอเพิ่มเติมด้วย

 

ประเด็นสุดท้าย คือการใช้ยาเฟนทานิล ยาในกลุ่มโอปิออยด์ที่ใช้ระงับอาการปวด ซึ่งกลับกลายเป็นยาที่สร้างปัญหาเมื่อผู้คนในสหรัฐอเมริกาใช้ยาเฟนทานิลเกินขนาด โดยเสพเป็นยาเสพติด จากประเด็นนี้ สี จิ้นผิงได้ตกลงที่จะให้ความร่วมมือในด้านการผลิตยาที่จะช่วยลดปัญหาการผลิตยาเฟนทานิล

 

นอกจากประเด็นสำคัญทั้ง 5 ประการที่กล่าวมานี้ จีนและสหรัฐอเมริกายังได้พูดคุยกันในเรื่องวิกฤตสงครามอิสราเอลและฮามาส และหวังให้ความสงบสุขเกิดขึ้นโดยเร็ว ทั้งนี้ การเจรจาระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศนับเป็นสัญญาณของความร่วมมือในหลายประเด็น และเป็นการย้ำจุดยืนในด้านการจัดการกับไต้หวัน จากนี้ไปเราคงได้แต่จับตาดูกันต่อไปว่า การพบปะครั้งนี้ของผู้นำจีนและสหรัฐอเมริกา จะต่อยอดให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรต่อไป

 

ลงทุนศาสตร์ – Investerest

ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , และ WEBSITE

 

อ้างอิง
[1] Al Jazeera. (November 16, 2023). Five takeaways from the Biden-Xi summit at California’s Filoli Estate. Retrieved from https://www.aljazeera.com/news/2023/11/16/five-takeaways-from-the-biden-xi-summit-at-californias-filoli-estate
[2] BBC. (November 16, 2023). Five things we learned from the Biden-Xi meeting. Retrieved from https://www.bbc.com/news/world-us-canada-67433961
[3] Evelyn Cheng and Rebecca Picciotto. (November 15, 2023). U.S. and China agree to resume military talks. Takeaways from the Biden-Xi summit. Retrieved from https://www.cnbc.com/2023/11/16/xi-biden-takeaways-from-us-china-summittaiwan-military-talks-fentanyl.html

 

อัพเดทล่าสุดเมื่อ :

เกี่ยวกับผู้เขียน

ลงทุนศาสตร์

ผมเขียนบทความเกี่ยวกับการลงทุนตั้งแต่เบื้องต้น เหมาะสำหรับผู้ลงทุนหรือผู้ที่มีความสนใจที่จะลงทุนที่รักหรือมีทีท่าว่าจะรักในศาสตร์ของการลงทุนเหมือนกัน