MOU คืออะไร มีผลทางกฎหมายหรือไม่ และมีความสำคัญอย่างไร
คำว่า “MOU” (Memorandum of Understanding) หรือที่เรียกในภาษาไทยว่า บันทึกความเข้าใจ [1] ได้รับการกล่าวถึงบ่อยครั้งในช่วงที่พรรคก้าวไกลและพรรคต่าง ๆ อยู่ในระหว่างทำข้อตกลงร่วมกัน [2] คำศัพท์นี้นับว่าใหม่มากในแวดวงการเมืองไทย แต่ไม่นับว่าใหม่เลยในการลงนามเพื่อทำข้อตกลงร่วมกันระหว่างกลุ่มธุรกิจหรือสถาบันการศึกษา ในขณะเดียวกัน การทำ MOU เพื่อจุดประสงค์ทางการเมืองก็ได้รับความนิยมมาเนิ่นนานแล้วในต่างประเทศด้วยเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นในสหราชอาณาจักร เยอรมนี มาเลเซีย นิวซีแลนด์ หรือเคนยา [1]
เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำศัพท์นี้มากขึ้น ในที่นี้ ลงทุนศาสตร์ขอกล่าวถึงคำจำกัดความของ MOU ผลบังคับใช้ทางกฎหมาย และความสำคัญในการลงนามใน MOU ดังนี้ [3]
MOU หมายถึงบันทึกความเข้าใจร่วมกันระหว่างกลุ่มบุคคลมากกว่า 2 ฝ่ายขึ้นไป โดยมีการบันทึกลงในเอกสารที่มีความเป็นทางการ และไม่จำเป็นต้องมีข้อผูกมัดทางกฎหมาย ขึ้นอยู่กับเจตนาในการสร้างข้อตกลงร่วมกัน ทั้งนี้ แม้ว่าจะไม่มีข้อบังคับตามกฎหมาย แต่การลงนามใน MOU ก็เป็นการทำความเข้าใจร่วมกันให้ชัดเจนว่าทุกฝ่ายกำลังร่วมมือกันและก้าวไปสู่จุดมุ่งหมายเดียวกันดังที่ระบุในเอกสาร นับเป็นจุดเริ่มต้นในการเจรจาต่อรองระหว่างกัน เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจขอบเขตและจุดประสงค์ของข้อตกลงร่วมกัน และอาจนำไปสู่การทำบันทึกข้อตกลงที่จะมีผลทางกฎหมายได้ในเวลาต่อมา
องค์ประกอบที่สำคัญในการจัดทำเอกสาร MOU ได้แก่ ชื่อของกลุ่มที่ร่วมลงนาม และประเด็นที่ต้องการทำความเข้าใจร่วมกัน โดยมีการแจกแจงอย่างชัดเจนตั้งแต่ชื่อโครงการ ขอบเขต รายละเอียดความรับผิดชอบของแต่ละฝ่าย
โดยทั่วไปแล้ว ขั้นตอนในการจัดทำร่าง MOU เริ่มจากการที่แต่ละฝ่ายเริ่มต้นร่างประเด็นใน MOU ตามแบบฉบับที่ตนเองต้องการ จากนั้นจึงนำเสนอต่อที่ประชุมเพื่อตกลงกันในส่วนที่ทุกคนเห็นด้วย และส่วนที่ต้องปรับแก้ เพราะการทำ MOU นั้นไม่อาจเกิดขึ้นได้จากความเห็นของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ต้องผ่านการตกลงร่วมกันและต่อรองกันจนกว่าจะได้เป้าหมายที่ทุกฝ่ายพร้อมจะขับเคลื่อนไปด้วยกันได้ การจัดทำเอกสาร MOU ให้เสร็จสิ้นนับเป็นกระบวนการที่ต้องอดทน ใจเย็น รับฟังความเห็นทุกฝ่าย และจำเป็นต้องใช้เวลา
สำหรับบางคนแล้ว การทำ MOU ซึ่งไม่นับว่ามีผลทางกฎหมายเป็นสิ่งที่เสียเวลาเปล่า แต่หากพิจารณาถึงประโยชน์ของ MOU แล้วจะเห็นได้ว่า การร่างบันทึกความเข้าใจอย่างเป็นทางการนั้นนับเป็นก้าวแรกของการรับฟังความเห็นและจุดยืนที่แตกต่างกันของแต่ละฝ่าย ดังนั้น ในบริบทของการเมืองไทยขณะนี้ที่กำลังเกิดความร่วมมือกันขึ้นระหว่างพรรคที่ได้คะแนนเสียงข้างมาก การจัดทำ MOU ก็จะกลายเป็นหนึ่งในบันทึกเอกสารที่สำคัญที่จะช่วยให้ประชาชนและพรรคต่าง ๆ ได้เห็นทิศทางที่จะมุ่งไปร่วมกันนับจากนี้
แม้ว่าในระหว่างการจัดทำ MOU ครั้งนี้อาจยังมีข้อถกเถียงเกิดขึ้นมากมาย ก็นับเป็นเรื่องปกติธรรมดาในการร่าง MOU ที่ทุกคนต้องถกเถียงร่วมกันเพื่อให้เกิดความเข้าใจ ลงทุนศาสตร์หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การจัดทำ MOU ในครั้งนี้จะทำให้ทุกฝ่ายได้ตกลงร่วมกัน นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศดังที่ทุกคนเฝ้ารอได้ในที่สุด
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , และ WEBSITE
อ้างอิง
[1] ไทยพีบีเอส. (19 พฤษภาคม 2566). เลือกตั้ง2566 : ศัพท์ใหม่การเมืองไทย “MoU” ที่รัฐบาลก้าวไกลใช้. สืบค้นจาก https://www.thaipbs.or.th/news/content/327974
[2] ไทยรัฐออนไลน์. (19 พฤษภาคม 2566). เปิดร่าง MOU พรรคร่วมรัฐบาลก้าวไกล 13 ข้อ ไม่มีแก้ ม.112. สืบค้นจาก https://www.thairath.co.th/news/politic/2695324
[3] Kenton, W. (May 02, 2023). Memorandum of Understanding (MOU) Defined, What’s in It, Pros/Cons, MOU vs. MOA. Retrieved from https://www.investopedia.com/terms/m/mou.asp
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :