ความสำเร็จเริ่มต้นด้วยการรู้จักเปิดใจฟัง เคล็ดลับ 3 ประการสำหรับฟังอย่างมีประสิทธิภาพ
ทักษะที่จำเป็นต่อการประสบความสำเร็จนั้นมีอยู่มากมาย หนึ่งในสิ่งที่ผู้คนมักฝึกฝนกันเป็นประจำคือการพูดเพื่อสื่อสารให้ตรงจุด นำเสนอให้ตรงใจ แต่การสื่อสารจะไม่อาจประสบความสำเร็จไปได้เลย หากอีกฝ่ายขาดการรับฟังที่ดี การฟังอย่างมีประสิทธิภาพเป็นทักษะที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการพูด และยังเป็นทักษะที่ช่วยส่งเสริมให้การพูดมีประสิทธิภาพขึ้นด้วยจากการรู้จักฟังภาษาท่าทาง และอ่านปฏิกิริยาของฝ่ายตรงข้ามในระหว่างที่รอจังหวะสื่อสาร ในที่นี้ ลงทุนศาสตร์ขอนำเสนอเคล็ดลับ 3 ประการ สำหรับฝึกฝนทักษะการฟังอย่างมีคุณภาพ ฟังเพื่อให้ได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการพูดอย่างแท้จริง ดังต่อไปนี้ [1, 2, 3]
เคล็ดลับข้อแรก คือการสำรวจจุดแข็งและจุดอ่อนในด้านการฟังของตนเอง แต่ละคนมีรูปแบบการเป็นผู้ฟังที่แตกต่างกัน บางคนชอบเป็นผู้ฟังที่ไม่ออกความเห็น รับฟังให้เรื่องราวของอีกฝ่ายถูกระบายออกมา แต่ไม่ได้ให้ความสนใจที่เนื้อหามากเท่าที่ควร บางคนชอบฟังอย่างกระตือรือร้น และมักคอยหาทางนำเสนอข้อมูลอันเป็นคำแนะนำที่มีประโยชน์ แต่ก็อาจเผลอขัดจังหวะอีกฝ่ายมากเกินไป
การฟังที่ดีต้องมีจุดสมดุลอยู่ตรงกลางระหว่างการเฝ้าคอยรับฟังโดยยังไม่รีบร้อนตัดสินหรือออกความเห็น และการจับประเด็นสำคัญในเนื้อหาที่อีกฝ่ายพูดออกมา เพื่อเตรียมให้ความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น ผู้ที่ต้องการฝึกฟังอย่างมีคุณภาพ ต้องสำรวจทักษะการฟังที่เป็นอยู่ของตนเอง และพยายามรักษาสมดุลไว้ให้เหมาะสม
เคล็ดลับข้อต่อมา คือการฝึกทักษะการฟัง และสะท้อนกลับสิ่งที่ได้ยิน ผู้พูดจะรู้สึกเชื่อมั่นว่าได้รับการรับฟังเมื่อมีการตอบสนองที่เพียงพอ และการตอบสนองที่ไม่แทรกแซงการพูด ไม่เบี่ยงประเด็น และไม่ด่วนสรุปหรือมีท่าทีสั่งสอน ก็คือการตอบสนองด้วยการสะท้อนกลับสิ่งที่ได้ยิน
การสะท้อนกลับหลังจากรับฟังสามารถทำได้โดยการสรุปสิ่งที่ได้ยิน และถามกลับไปยังอีกฝ่าย เพื่อเป็นการยืนยันให้มั่นใจว่าเรื่องราวที่สื่อสารได้ถูกรับฟังโดยไม่ตกหล่น และระหว่างผู้พูดและผู้ฟังมีความเข้าใจที่ตรงกัน หรือหากมีสิ่งใดที่ยังไม่ชัดเจนหรือไม่เข้าใจ การสะท้อนกลับหลังจากรับฟังสามารถทำได้โดยการถามคำถามเพิ่มเติมเพื่อขอขยายความเนื้อหาได้เช่นกัน การทำเช่นนี้จะช่วยให้ผู้พูดรู้สึกมั่นใจและรู้สึกได้รับการรับฟังอย่างมีคุณภาพ
เคล็ดลับข้อสุดท้าย คือการตั้งคำถามเพื่อแสดงการเอาใจช่วยและการสนับสนุน บ่อยครั้งที่ผู้คนหลงลืมไปว่า การตั้งคำถามกลับในระหว่างการสนทนา หากไม่ได้ใส่ใจในคำถามอย่างถี่ถ้วน ก็อาจกลายเป็นอาวุธทิ่มแทงอีกฝ่ายจนเกิดความบาดหมางด้วยเช่นกัน ระวังคำถามที่มีคำแสดงความลังเลสงสัย หรือโจมตีสิ่งที่ผู้พูดพยายามเล่า
ตัวอย่างเช่น เมื่อมีใครสักคนเล่าปัญหาที่เกิดขึ้นให้ฟัง อย่าใช้คำถามที่ดูเหมือนการสอบสวนหรือตำหนิ เช่น ปกติมันไม่เป็นอย่างนี้ไม่ใช่เหรอ ? เพราะเธอไม่ระวังเองหรือเปล่า ? แต่ขอให้ใช้ถ้อยคำที่เสนอทางออก และแสดงการอยู่เคียงข้าง เช่น มีอะไรให้ช่วยไหม ? หรือ ตอนนี้เธอรู้สึกอย่างไร ? เพื่อให้บรรยากาศการสนทนาไม่ตึงเครียด และช่วยให้อีกฝ่ายค่อย ๆ เล่าเรื่องราวออกมาได้โดยไม่ติดขัด
การได้ยินและการฟังไม่ใช่สิ่งเดียวกัน ผู้ที่มีความสามารถที่จะได้ยินในสิ่งที่อีกฝ่ายตั้งใจนำเสนอ ถึงจะประสบความสำเร็จในการฟังอย่างแท้จริง ลงทุนศาสตร์หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านผู้อ่านจะสามารถฝึกฝนทักษะการฟังอย่างมีคุณภาพ ได้เป็นผู้รับฟังสารที่อีกฝ่ายต้องการสื่ออย่างครบถ้วน และได้เป็นผู้พูดที่ได้รับการฟังอย่างตั้งใจจริงด้วยเช่นกัน
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , และ WEBSITE
อ้างอิง
[1] Morgan Smith. (July 23, 2023). Psychologist: The No. 1 soft skill highly successful people use at work—‘It’s like having a superpower’. Retrieved from https://www.cnbc.com/2023/07/23/psychologist-no-1-soft-skill-highly-successful-people-use-at-work.html
[2] Ashton Jackson. (January 18, 2024). This trait is a subtle sign someone is highly intelligent, says psychotherapist—some people are ‘naturally gifted’ with it. Retrieved from https://www.cnbc.com/2024/01/18/why-great-listeners-are-often-highly-intelligent-psychotherapist.html
[3] Ashton Jackson. (March 29, 2024). 2 simple ways to get people to listen when you speak, according to a Stanford communication expert. Retrieved from https://www.cnbc.com/2024/03/29/simple-ways-to-get-people-to-listen-when-you-speak-stanford-expert.html
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :