Frederick W. Smith อดีตนาวิกโยธินผู้ก่อตั้ง FedEx

FedEx ผู้นำระดับโลกในด้านบริการขนส่งด่วนและโลจิสติกส์ ความคิดสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ในการปฏิวัติอุตสาหกรรม และเปลี่ยนวิธีการจัดส่งสินค้าทั่วโลก การเดินทางสู่ความสำเร็จของ Frederick W. Smith เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 1944 ในเมือง Marks Mississippi Smith

Frederick W. Smith เกิดใน Memphis รัฐ Tennessee สหรัฐอเมริกา พ่อของเขาเสียชีวิต เมื่อเขามีอายุเพียง 4 ขวบ โดยได้รับการเลี้ยงดูจากแม่และลุง เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเยล ด้านเศรษฐศาสตร์ ในช่วงนั้นเขาเขียนบทความเรื่อง ความจำเป็นในการจัดส่งสินค้าในยุคสารสนเทศด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ความคิดนี้ติดตามเขามาตลอดชีวิต แม้จะได้เกรด C จากอาจารย์ของเขา แต่ความคิดนี้กลับกลายเป็นรากฐานของก้าวแรกที่นำพา FedEx สู่ความสำเร็จ

Smith ได้เข้าร่วมรับราชการ นาวิกโยธินและดำรงตำแหน่งผู้บังคับหมวดในสงครามเวียดนาม หลังจากการรับราชการทหาร Smith ตระหนักถึงความจำเป็นของระบบขนส่งทางอากาศสู่พื้นดินแบบบูรณาการที่สามารถส่งพัสดุข้ามคืนได้ ปี 1971 เขาจึงก่อตั้ง Federal Express Corporation โดยมุ่งมั่นที่จะสร้างสิ่งใหม่และมีประโยชน์หลังจากที่ทำลายอะไรไปมากมายแล้วในสงครามเขาได้ระดมทุนจำนวน 80 ล้านดอลลาร์เพื่อเริ่มต้น FedEx โดยให้บริการขนส่งสินค้าและเอกสารขนาดเล็ก ในคืนแรกของการดำเนินการนั้นมีเครื่องบินขนส่งจำนวน14 ลำ พร้อมพัสดุ186 ชิ้น ในการทำการขนส่งครั้งแรก สองปีแรก เขาสูญเสียเงินไปถึง 27 ล้านเหรียญและบริษัทเกือบล้มละลายเลยทีเดียว

ในปี 1997 Smith ซื้อกิจการของ Caliber System มูลค่า 2.4 พันล้านดอลลาร์เพื่อขยายธุรกิจขนส่งของเขา ในปี 2000 เขาได้รับความนิยมมากขึ้นเมื่อ FedEx ได้รับส่วนแบ่งการส่งของ UPS จากพนักงานที่ล็อกเอาต์ ในปี 2001 FedEx เข้าสู่ธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศระหว่างประเทศด้วย USPS และในปี 2004 เขาซื้อ Kinko’s บริษัทบริการเอกสาร Smith พัฒนาโมเดล “hub-and-spoke” แนวคิดนี้เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งศูนย์คัดแยกหรือศูนย์กลางการคัดแยกหลักที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ทั่วสหรัฐอเมริกา ฮับเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์กลางในการคัดแยกบรรจุภัณฑ์ ช่วยให้สามารถจัดส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันเวลามากขึ้น นวัตกรรมนี้ได้ปฏิวัติอุตสาหกรรมการขนส่งด่วน ทำให้ FedEx สามารถนำเสนอบริการจัดส่งข้ามคืนได้อย่างที่ไม่เคยมีใครจินตนาการมาก่อน

Smith ปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและการยอมรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เป็นส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของ FedEx ในช่วงทศวรรษ 1980 เมื่อบริษัทเผชิญกับความท้าทายทางการเงิน Smith ได้ตัดสินใจอย่างกล้าหาญที่จะลงทุนในระบบคอมพิวเตอร์และระบบอัตโนมัติ การลงทุนนี้ไม่เพียงแต่ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ลูกค้ามีความสามารถในการติดตามแบบเรียลไทม์ ซึ่งทำให้ FedEx แตกต่างจากคู่แข่ง

ภายใต้การนำของ Smith นั้น FedEx ได้ขยายบริการนอกเหนือจากการขนส่งภายในประเทศ และกลายเป็นโรงไฟฟ้าระดับโลกในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ โดยปี 1984 บริษัทได้เปิดตัวแผนกระหว่างประเทศ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถจัดส่งพัสดุได้ทั่วโลก การขยายธุรกิจนี้เปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ และผลักดันให้ FedEx กลายเป็นธุรกิจขนส่งระดับโลกที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง วันนี้ FedEx มีเครือข่ายขนส่งทั่วโลก มีเครื่องบินกว่า 680 เครื่อง และพนักงานกว่า 600,000 คน ซึ่งให้บริการการขนส่งกว่า 18 ล้านพัสดุทุกวัน ไปยังมากกว่า 220 ประเทศ